CFD เป็นการลงทุนตราสารซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้สูญเสียเงินทุนได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีเลเวอเรจ คุณควรตรวจสอบตนเองว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถที่จะรับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนที่สูงนี้ได้หรือไม่
    Mitrade Insights ทุ่มเทเพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน ทันเวลา และมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ตลาดและคว้าโอกาสในการซื้อขายได้ทันท่วงที
    2021
    ผู้ให้บริการข่าวและการวิเคราะห์ที่ดีที่สุด
    FxDailyInfo
    2022
    แหล่งข้อมูลการศึกษา Forex ที่ดีที่สุดทั่วโลก
    International Business Magazine

    7 หุ้นโรงพยาบาล ตัวไหนดีในปี 2567

    6 นาที
    อัพเดทครั้งล่าสุด 26 เม.ย. 2567 01:42 น.

    การลงทุนในหุ้นโรงพยาบาลถือว่าเป็นหนึ่งในชุดหุ้นกองหลังหรือ Defensive เนื่องจากมีความสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจทุกชาติเนื่องจากการดูแลสุขภาพมีความสำคัญต่อทุกคน ดังนั้นบทความนี้เราจะมารู้จักให้มากขึ้นกับหุ้นโรงพยาบาล 

    7 หุ้นโรงพยาบาล ตัวไหนดีในปี 2567

    1.หุ้น BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) 

    บริษัทเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ โดยมีโรงพยาบาลเครือข่ายในไทยและกัมพูชา ดำเนินการภายใต้ชื่อโรงพยาบาล 6 กลุ่ม คือ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบี เอ็น เอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล นอกจากนี้เครือข่ายของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ยังรวมถึงธุรกิจที่ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์ ได้แก่ ธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ธุรกิจผลิตยาและธุรกิจผลิตน้ำเกลือ เป็นต้น


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 448,949

    🔸 กำไร ปี  2566(ล้านบาท) : 14,375 

    🔸 สัดส่วนรายได้ สัดส่วนรายได้คนไข้ในประเทศ อยู่ที่ 70% และ คนไข้ต่างชาติ 30%โดยคนไข้ประกันสุขภาพเป็นที่นิยมมากขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนคนไข้ประกันสุขภาพปัจจุบัน อยู่ที่ 36% 

    🔸 ROE : 15.53 %

    🔸 P/E (เท่า) :  31.23 

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท) : 1,750 บาท 

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท)  : 175,000 บาท


    2.หุ้น BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) 

    บริษัทดำเนินธุรกิจในรูปแบบกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 15 แห่ง และโพลีคลินิก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดและในสปป.ลาว เพื่อให้บริการทางการแพทย์ในระดับปฐมภูมิ-ตติยภูมิ ภายใต้ 4 กลุ่มโรงพยาบาล คือ 1.กลุ่มโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล 2.กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 3.กลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และ 4.กลุ่มโรงพยาบาลการุญเวช เพื่อให้บริการครอบคลุมผู้ป่วยทุกกลุ่มตั้งแต่ผู้ป่วยทั่วไป ชาวต่างชาติ และผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 51,121.71

    🔸 กำไร 2566(ล้านบาท) : 1,406

    🔸 สัดส่วนรายได้ มีสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยทั่วไปคิดเป็น 79.22% และสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยโครงการประกันสังคม 20.34% และสัดส่วนรายได้อื่น 0.44% 

    🔸 ROE 11.23%

    🔸 P/E (เท่า) 36.35

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท) : 1,295 บาท

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : 129,500 บาท 


    3.หุ้น BH บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) 

    ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล ในกรุงเทพมหานคร โดยมีการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน รวมทั้งศูนย์บริการผู้ป่วยต่างชาติ และลงทุนในธุรกิจการแพทย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 178,856.12

    🔸 กำไร 2566 (ล้านบาท) : 7,006

    🔸 สัดส่วนรายได้ รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 33.1% จากทั้งหมด ขณะที่รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 66.9%

    🔸 ROE 32.21 %

    🔸 P/E (เท่า) 25.55

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท)  : 18,900 บาท

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : 378,000 บาท


    4.หุ้น CHG บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) 

    บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชน เริ่มก่อตั้งในปี 2529 จนถึงปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียนรวม 1,100 ล้านบาท ประกอบด้วยบริษัทย่อยจำนวน 11 บริษัท มีสาขาของโรงพยาบาลสถานพยาบาลและคลินิกในกลุ่มรวมทั้งหมด 14 แห่ง 


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 31,240.00

    🔸 กำไร 2566 (ล้านบาท) : 1,046 

    🔸 สัดส่วนรายได้ กลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นสมาชิกประกันสังคม คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% ของ CHG

    🔸 ROE 13.90%

    🔸 P/E (เท่า) 29.86

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท) :  245 บาท

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : 122,500 บาท 


    5.หุ้น THG บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 

    กลุ่มบริษัทประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ในลักษณะโรงพยาบาลทั่วไป (General Hospital) ภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลธนบุรี"


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 34,110.18

    🔸 กำไร 2566 (ล้านบาท) : 295.41 

    🔸 สัดส่วนรายได้ รายได้จากธุรกิจบริบาลผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ 198 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ 4,819 ล้านบาท

    🔸 ROE 2.97%

    🔸 P/E (เท่า) 115.47

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท)  : 3,990 บาท

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : 79,800 บาท 


    6.หุ้น PR9 บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) 

    บริษัทประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ในลักษณะโรงพยาบาลทั่วไป (General Hospital) ภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลพระรามเก้า"


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 15,332.91

    🔸 กำไร 2566 (ล้านบาท) : 557.86 

    🔸 สัดส่วนรายได้ สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มเป็น 15% ของรายได้รวม (จาก 13% ปีที่แล้ว และเป้าระยะยาว 20%)

    🔸 ROE 11.37%

    🔸 P/E (เท่า) 27.49

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท)  : ไม่มีให้บริการ

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : ไม่มีให้บริการ


    7.หุ้น VIBHA บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน)  

    VIBHA หรือบริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) ถือเป็นหุ้นโรงพยาบาลอีกบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทย โดย ณ วันที่ 11 กันยายน 2561 บริษัทมีขนาดเป็นอันดับ 6 ของกลุ่มโรงพยาบาลในตลาดหุ้นไทย รองจาก BDMS, BH, BCH, SVH และ RAM ตามลำดับ


    🔸 Market Cap มูลค่าตลาด (ล้านบาท) : 31,496.10

    🔸 กำไร 2566 (ล้านบาท) : 865.12 

    🔸 สัดส่วนรายได้ แนวโน้มการเติบโตของกำไรในช่วงไตรมาสที่ 3/2566 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2566 แต่ยังต่ำกว่าไตรมาส 2/2565 เนื่องจากโรงพยาบาลวิภาวดี และเริ่มกลับมามีกำไรจากการล้างมูลค่าหุ้นในช่วงที่ผ่านมา

    🔸 ROE 6.34%

    🔸 P/E (เท่า) 36.34

    🔸 หลักประกัน SSF (บาท)  : ไม่มีให้บริการ

    🔸 หลักประกัน Block Trade (บาท) : : ไม่มีให้บริการ

    ตารางเปรียบเทียบหุ้นโรงพยาบาลที่น่าสนใจ 

    จำนวน 7 โรงพยาบาล จากข้อมูลด้านบน

    ชื่อโรงพยาบาล

    ชื่อหุ้น

    Market Cap

    (ลบ.)

    ราคาหุ้น

    (บาท/หุ้น)

    P/E

    (เท่า)

    ROE

    (%)

    โรงพยาบาลกรุงเทพ

    BDMS

    448,949

    28.25

    31.23

    15.53

    โรงพยาบาลเกษมราษฎร์

    BCH

    51,121.71

    20.80

    36.35

    11.23

    โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

    BH

    178,856.12

    228

    25.55

    32.21

    โรงพยาบาลจุฬารัตน์

    CHG

    31,240.00

    2.86

    29.86

    13.90

    โรงพยาบาลธนบุรี

    THG

    34,110.18

    41.25

    115.47

    2.97

    โรงพยาบาลพระรามเก้า

    PR9

    15,332.91

    19.80

    27.49

    11.37

    โรงพยาบาลวิภาวดี

    VIBHA

    31,496

    2.32

    36.34

    6.34

    วิธีเลือกซื้อหุ้นโรงพยาบาล

    การเลือกซื้อหุ้นโรงพยาบาลเป็นการลงทุนที่ต้องทำอย่างรอบคอบและอย่างมีความระมัดระวัง เนื่องจากนี่เป็นบางข้อแนะนำเพื่อสมควรในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นโรงพยาบาล:


    👉 ศึกษาโรงพยาบาล: ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่คุณสนใจ เราค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของบริการทางการแพทย์, ค่าใช้จ่าย, รายได้, และนโยบายสาธารณสุขที่มีผลต่อโรงพยาบาล


    👉 วิเคราะห์ความสามารถการเงิน: ตรวจสอบการเงินของโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายและรายได้ การดำเนินการแพทย์ที่ใช้ค่าใช้จ่าย และรายงานการเงินอื่น ๆ ของโรงพยาบาล


    👉 วิเคราะห์โครงสร้างองค์กร: ทราบถึงโครงสร้างและการบริหารจัดการของโรงพยาบาล เข้าใจถึงการบริหารจัดการและการวางแผนทางธุรกิจของโรงพยาบาล


    👉 ระดมข้อมูลเกี่ยวกับราคาหุ้น: ระดมข้อมูลเกี่ยวกับราคาหุ้นของโรงพยาบาล ควรตรวจสอบการแสดงผลราคาหุ้นในอดีตและแนวโน้มล่าสุด รวมถึงข่าวสารทางการเงินและการลงทุนที่มีผลต่อราคาหุ้น


    👉 รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์หุ้น ควรพิจารณาการรับคำแนะนำจากนักวิเคราะห์หุ้นที่มีประสบการณ์และมีความรู้ในวงการดูแลสุขภาพ


    นักลงทุนหลายคนจะเริ่มลงทุนหุ้นกลุ่มนี้อาจสับสน ว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นของโรงพยาบาลไหนดี เพราะมีมากมายหลายตัวแถม แต่ละตัวก็ชื่อเสียงโรงพยาบาลหรือไปใช้บริการมาน่าลงทุนทั้งนั้น เรามาติดตามกันให้ชัดเจนขึ้นสำหรับการเลือกหุ้นในกลุ่มนี้


    1) ประเภทของหุ้นโรงพยาบาล 

    ดูทีผู้ที่มารับการรักษาหรือคนไข้ เป็นหลัก เช่น โรงพยาบาลที่โฟกัสไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เช่น BH BDMS BCH  และประเภทที่สอง คือ โรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าในประเทศ หุ้นอย่างเช่น  VIBHA CHG PR9 THG นั่นเอง เพราะว่าโรงพยาบาลแต่ละแห่งก็มีนโยบายจับลูกค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าเราเข้าใจรายได้ที่มาจากลูกค้ากลุ่มไหน หรือแม้แต่จุดเด่นของโรงพยาบาลนั้น จะทำให้เราสามารถจับจุดวิเคราะห์ได้ถูก เพราะหากเป็น รพ. ที่เน้นต่างชาติเป็นหลัก จำเป็นต้องติดตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้นเช่นกัน เช่น หุ้นโรงพยาบาล ที่จับลูกค้ากลุ่มยุโรป พอประเทศในกลุ่มมีปัญหาเศรษฐกิจหรือซบเซา ทำให้การบินมาก็มาใช้บริการน้อยลงนั่นเองครับ หรือถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงจากประเทศอาหรับ มีการจัดแพคเกจเพื่อดึงดึงลูกค้าในกลุ่มนี้เป็นต้น


    2)  ฝึกดูอัตราส่วนตัวเลขทางการเงิน 

    การศึกษาอัตราส่วนตัวเลขทางการเงินเช่น PE (Price-to-Earnings) และ ROE (Return on Equity) มีความสำคัญเนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนในหุ้นหรือบริษัท เรามาดูความสำคัญของแต่ละตัวดังนี้


    PE เป็นอัตราส่วนที่นิยมใช้ในการประเมินความคุ้มค่าของหุ้นหรือบริษัท โดยเปรียบเทียบราคาหุ้นกับกำไรต่อหุ้น (Earnings per Share - EPS) ของบริษัท หรือ PE = ราคาหุ้น / EPS. โดยที่ค่า PE ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่ากำไรที่บริษัททำได้ต่อราคาหุ้นเป็นเท่าไร นอกจากนี้ยังช่วยในการเปรียบเทียบความคุ้มค่าของหุ้นในอุตสาหกรรมและระหว่างบริษัท


    ROE คืออัตราส่วนที่บ่งบอกถึงกำไรที่บริษัททำได้ต่อส่วนของเงินทุนของผู้ถือหุ้น (Equity) ซึ่งเป็นส่วนทุนที่คนลงทุนเข้ามาในบริษัท. ROE ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่าบริษัทใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ถ้า ROE สูงแสดงว่าบริษัทสามารถทำกำไรมากต่อส่วนของเงินทุนที่ถือหุ้น นี่อาจช่วยในการประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนในบริษัท


    การศึกษา PE และ ROE จะช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนในหุ้นหรือบริษัท โดยที่สูง PE และ ROE สูงสามารถหมายความว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงและต้องชำระราคาสูง แต่มีโอกาสทำกำไรมาก ส่วน PE ต่ำและ ROE ต่ำอาจชี้ว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงน้อยแต่กำไรน้อย คำสำคัญคือต้องพิจารณาและเปรียบเทียบอัตราส่วนนี้ร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อตัดสินใจการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายการเงินของคุณและระดับความเสี่ยงที่คุณพร้อมยอมรับ


    3) กลยุทธ์ที่ใช้ทำธุรกิจและการเติบโต 

    ดูว่าธุรกิจของโรงพยาบาลนั้นๆสามารถเติบโตต่อไปในอนาคตโดยอาศัยกลยุทธแบบใด เพราะหมายถึงราคาหุ้นและเงินปันผลที่คาดหวังในทิศทางของโรงพยาบาล เช่น 


    กลยุทธ์การเติบโต ด้วยการควบรวมกิจการ อยากโตไวทั้งรายได้และกำไร ก็ใช้ทางลัดกันไปเลย โดยวิธีการซื้อโรงพยาบาลอื่น แล้วนำมารีโนเวทใหม่ ตกแต่งให้เป็นธีมเดียวกัน สวมแบรนด์ของเขาเข้าไป

     

    กลยุทธ์ขยายสาขาโรงพยาบาลใหม่ในพื้นที่กลยุทธ์ เหมาะสำหรับโรงพยาบาลที่มีเชนสาขาของตัวเอง อาจจะไปเปิดสาขาเพิ่มในจุดยุทธศาสตร์ทีดี เป็นพื้นที่ต้องการโรงพยาบาลที่เหมาะกับรายได้และจำนวนความหนานแน่นของประชากร ใครที่ถือหุ้นโรงพยาบาลที่ขยายตัวจากการสร้างตึกใหม่ ก็ต้องรอกันหน่อย เพราะหลังจากสร้างเสร็จก็มีค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามมามากมาย


    กลยุทธ์จับกลุ่มเฉพาะความเชี่ยวชาญ กลยุทธ์นี้หลังๆอินเทรนท์มาแรงอย่างยิ่ง เช่น มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งจับกลุ่มคนจีนที่อยากมีลูก ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ หรือโรงพยาบาลที่มีจุดเด่นเรื่อง แพคเกจครบวงจร ทั้งรักษาและมีคอร์สฟื้นฟูสปาไปพร้อมกัน แม้แต่การนำจุดขายเรื่องศัลยกรรมเข้ามาชูโรงเช่นกัน


    ทำไมหุ้นโรงพยาบาลถึงน่าลงทุน?

    นอกจากจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ความต้องการรับบริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานแล้ว การเกิดโรคใหม่ๆ ถือเป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาล ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคงและความเสี่ยงต่ำ และเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิต


    1.เป็นธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอ ข้อนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่าเป็นลักษณะของหุ้นโรงพยาบาลในภาพรวมนะครับ เพราะในแต่ละโรงพยาบาลมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกโรงพยาบาลมีเหมือนกัน คือ รายได้ระยะยาว ที่เกิดจากการใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ป่วย โดยในตอนแรก หลังจากลงทุนสร้างอาคารและอุปกรณ์ เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือจะเป็นการเก็บรายได้จากผู้ใช้บริการล้วน ๆ ซึ่งแต่ต่างจากธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ที่ต้องมีการสร้างสิ่งก่อสร้างเรื่อย ๆ เพื่อรักษาอัตรากำไร


    2. เป็นธุรกิจที่ความเสี่ยงน้อย ข้อนี้มีชื่อเรียกตามภาษานักลงทุนว่า เป็นหุ้น Defensive Stock ข้อดีของมันคือ ในยามที่ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในหายนะ หุ้นโรงพยาบาลดี ๆ ก็ไม่ได้ร่วงลงมามากนัก ตรงกันข้ามหากตลาดหุ้นกำลังรุ่งพุ่งแรง หุ้นโรงพยาบาลก็ไม่ได้พุ่งปรี๊ดทะลุปรอทเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่า เป็นหุ้นปลอดภัย ถือกันได้ยาว ๆ ครับ


    3. เป็นธุรกิจที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ข้อนี้เป็นผลต่อเนื่องจากข้อ 1 ที่ลงทุนครั้งเดียว แล้วจะมีกระแสเงินสดตามมาเรื่อย ๆ สุดท้ายก็สามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็ว 


    ธุรกิจโรงพยาบาลมักจะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ดังนั้น จึงถูกมองว่าเป็นหุ้นกลุ่มเชิงรับ (Defensive Stock) ทำให้เห็นการซื้อขายค่อนข้างคึกคักในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และหากสังเกตก็พบว่าโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่ทำความเข้าใจได้ง่าย นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งก่อนตัดสินใจลงทุนหุ้นโรงพยาบาล ต้องทำการวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ศึกษาข้อมูลบทวิจัยและขอคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ อีกทั้งควรลงทุนในระยะยาว


    สรุป

    ผ่านไปทั้ง 7 หุ้นโรงพยาบาลที่โดดเด่นและน่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นที่รายได้สม่ำเสมอและของมันต้องมีประกอบไว้ในพอร์ตการลงทุน แต่ละโรงพยาบาลก็มีจุดขาย จุดเติบโตที่น่าสนใจ ถ้าใครมองที่โรงพยาบาลที่มีลูกค้าต่างชาติส่วนมาก ให้มองไปที่รพ.ขนาดใหญ่ชื่อดัง หรือถ้าชอบเรื่องสาขาและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางก็ดูขนาดที่ย่อมลงมา ดังนั้นหุ้นโรงพยาบาลแม้จะดูเหมือนธุรกิจไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ แต่อัตราการเติบโตและทำกำไรไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ห้ามพลาดสำหรับการประดับเก็บเข้าพอร์ตยาวๆ


    mitrade
    🎉ห้ามพลาด!!!
    ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 
    แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 
    ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี
    การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
    คำถามที่พบบ่อย
    จุดแข็งที่น่าสนใจสำหรับการเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมีปัจจัยอะไรบ้าง
    สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของทุกคน และความต้องการในการรักษาสุขภาพ รวมถึงบริการด้านการแพทย์ มีความต้องการที่คงที่และมากมายตลอดเวลา ความนิยมของคน โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและคุณภาพดีมักเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มีความสามารถในการเลือก และ การบริการด้านการแพทย์เป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการเพิ่มรายได้อย่างสูง เนื่องจากการรักษาสุขภาพมักมีค่าใช้จ่ายสูง ที่สำคัญโรงพยาบาลมักมีความคงเส้นคงวาสูง โดยปกติมีความมั่นคงในรายได้และความรู้สึกทางการลงทุน
    ถ้าจะเลือกลงทุนในหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล นักลงทุนต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในด้านใดบ้าง
    เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลต่อผลกำไรและขาดทุนของบริษัทโรงพยาบาล ดังนี้: -การขาดแคลนของผู้ประกอบการและบุคลากรทางการแพทย์: คุณควรทำการวิเคราะห์ความสามารถของทีมผู้บริหารและแพทย์ที่ให้บริการในโรงพยาบาลนั้น รวมถึงความสามารถในการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินและการดูแลผู้ป่วยที่มีความรู้สึกเชิงธุรกิจ -ความสามารถในการจัดการการเงิน: ควรตรวจสอบว่าบริษัทโรงพยาบาลมีความสามารถในการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบรายงานการเงินเพื่อเข้าใจสถานะการเงินของบริษัท -กฎหมายและกฎระเบียบ: ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีความเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจทางการแพทย์

    *** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


    การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

    บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
    บทความที่เกี่ยวข้อง
    placeholder
    วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดในปี 2024‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    ‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
    placeholder
    เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 นักลงทุนมือใหม่อาจจะเกิดคำถามว่า จะเปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 ตามมาดูกันเลย
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    นักลงทุนมือใหม่อาจจะเกิดคำถามว่า จะเปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 ตามมาดูกันเลย
    placeholder
    ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
    placeholder
    8 โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
    placeholder
    DCA คือ อะไร? เปิดบัญชีออมหุ้น DCA ที่ไหนดี 2024สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
    ราคาเสนอแบบเรียลไทม์