S&P 500 คืออะไร?

2 นาที
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับดัชนี
อัพเดทครั้งล่าสุด 08 พ.ค. 2566 11:57 น.
ผู้เขียน

การลงทุนปัจจุบัน เราเลี่ยงไม่ได้เลยว่า ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ดัชนี S&P 500 เป็นดัชนีชี้วัดชั้นนำของเศรษฐกิจโลก เพราะเป็น ดัชนีที่รวมบริษัทในสหรัฐชั้นนำจำนวน 500 แห่ง เป็นตัวแทนกว่า 80% ของบริษัทจัดทะเบียนของทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา ทำให้เวลาดัชนี S&P 500 ขึ้นลงก็จะมีผลกระทบต่อตลาดการเงินของโลก


บทความนี้จะพานักลงทุนทำความรู้จักกับดัชนีหุ้นสหัฐ S&P 500 รวมถึง S&P 500 คืออะไร, S&P 500 คำนวณอย่างไร, รายชื่อหุ้นใน S&P 500, S&P 500 และ Dow Jones แตกต่างกันอย่างไร

S&P 500 คืออะไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

S&P 500 คือ ดัชนีตลาดหุ้นที่ติดตามหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐจำนวน 500 บริษัท ซึ่งแสดงถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นของอเมริกากว่า 500 บริษัท 


ตัวอย่าง บริษัท ที่อยู่ใน ดัชนี S&P 500 เช่น Amazon,American Airlines Group

Bank of America, BlackRock, CME Group, Apple, Facebook, Microsoft, Google และ Tesla เป็นต้น


S&P 500 ได้ถูกสร้างขึ้น เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 1957 โดย เป็น บริษัท Standard and Poor’s เป็นบริษัทการเงินและการให้อันดับความน่าเชื่อถือตราสารทางการเงินต่าง ๆ ทั่วโลก  เพื่อมาเป็นตัวแทนในการคำนวณดัชนีหุ้นชั้นนำ 500 กว่าบริษัทในตลาดหุ้นอเมริกา


ในฐานะดัชนีตลาดหุ้น ดัชนี S&P 500 ถือเป็นมาตรวัดที่ดีที่สุด โดยติดตามบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีสภาพคล่องสูง รวมถึงมีการเปิดให้ซื้อและขายหุ้นในตลาดหุ้นเกิน 10% เป็นต้น ซึ่งผลจากการพิจารณาดัชนี S&P500 


แม้ว่าดัชนี Dow Jones จะเป็นดัชนีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่นักลงทุนมักจะมองไปที่ S&P 500 เมื่อต้องการประเมินว่าตลาดโดยรวมเป็นอย่างไร ดังนั้นดัชนีนี้จึงถือเป็นดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐ


ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา S&P 500 ให้ผลตอบแทนที่ 11.09% ต่อปี ณ วันที่ 14 มกราคม 2563 มีผลตอบแทนนับจากต้นปีถึงเวลาปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่ 26.65%

S&P 500 ทำงานอย่างไร

S&P 500 ติดตามดัชนีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทต่างๆ มูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) คือมูลค่ารวมของหุ้นทั้งหมดที่บริษัทออกให้ ซึ่งคำนวณโดยการคูณจำนวนหุ้นที่ออกให้ด้วยราคาหุ้น บริษัทที่มีมูลค่าตลาดที่  100 พันล้านเหรียญสหรัฐจะได้รับฐานะการเป็นตัวแทน 10 เท่าเมื่อเทียบกับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดเท่ากับ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าตลาดรวมของ S&P 500 อยู่ที่ 23.5 ล้านล้านเหรียญ โดยมีมูลค่าเป็น 80% ของมูลค่าของตลาดหุ้นทั้งหมด

 

ทั้งนี้ดัชนีคิดมาจากการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของบริษัท โดยจะวัดเฉพาะหุ้นที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่นับรวมกลุ่มที่มีการควบคุม บริษัทอื่น หรือหน่วยงานของรัฐ

 

คณะกรรมการจะทำการคัดเลือกบริษัทในดัชนี 500 แต่ละแห่งโดยพิจารณาจากสภาพคล่อง ขนาด และชนิดของอุตสาหกรรม โดยมีการปรับสมดุลของดัชนีเป็นรายไตรมาสในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม สำหรับบริษัทที่จะมีคุณสมบัติเป็นดัชนีได้นั้น บริษัทจะต้องอยู่ในสหรัฐอเมริกาและมีมูลค่าทางการตลาดอย่างน้อย 6.1 พันล้านเหรียญ และอย่างน้อย 50% ของหุ้นของบริษัทจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน ราคาหุ้นต้องมีมูลค่าอย่างน้อย 1 ดอลลาร์ต่อหุ้น จะต้องยื่นรายงานประจำปี 10-K และอย่างน้อย 50% ของสินทรัพย์ถาวรและรายได้จะต้องอยู่ในสหรัฐอเมริกาและท้ายที่สุดจะต้องมีผลกำไรเป็นบวกอย่างน้อยสี่ไตรมาสติดต่อกัน

 

หุ้นจะต้องเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก Investors Exchange, NASDAQ หรือ BATS ไม่สามารถทำการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายกันเองโดยตรง (over-the-counter) หรือทำการซื้อขายนอกตลาด (pink sheet) ได้

S&P 500 คำนวณอย่างไร

S&P 500 ใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market cap) โดยให้การจัดสรรเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าให้กับ บริษัท ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากที่สุด 

15984921251705

รายชื่อหุ้นใน S&P 500

รายชื่อหุ้นใน S&P 500 รวมไปถึง 500 หุ้นสามัญของบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ของสหรัฐ บริษัทที่ติด 20 อันดับแรกใน S&P 500 ณ วันที่ 31 สิงหา 2020 ตามนี้


# ชื่อบริษัท

1 Apple Inc.

2 Microsoft Corporation

3 Amazon.com Inc.

4 Facebook Inc. Class A

5 Alphabet Inc. Class A

6 Alphabet Inc. Class C

7 Berkshire Hathaway Inc. Class B

8 Johnson & Johnson

9 Visa Inc. Class A

10 Procter & Gamble Company

11 NVIDIA Corporation

12 Home Depot Inc.

13 JPMorgan Chase & Co.

14 Mastercard Incorporated Class A

15 UnitedHealth Group Incorporated

16 Verizon Communications Inc.

17 Walt Disney Company

18 PayPal Holdings Inc

19 Adobe Inc.

20 Pfizer Inc.


รายละเอียดของรายชื่อองค์ประกอบของ S&P 500 สามารถเช็คได้ที่นี่


การปรับโฉมหน้าของอุตสาหกรรม S&P 500 สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจ อ้างอิงจากดัชนี S&P ดาวโจนส์ ณ วันที่ 14 มกราคม 2563 โดยมีการแบ่งกลุ่ม S&P 500 ดังนี้คือ

 

เทคโนโลยีสารสนเทศ

23.2%

บริการด้านสุขภาพ14.2%
การเงิน13%
บริการการสื่อสาร10.4%
สินค้าอุปโภคบริโภคชนิดฟุ่มเฟือย9.8%
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม9.1%
สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น7.2%
พลังงาน4.3%
สาธารณูปโภค3.3%
อสังหาริมทรัพย์2.9%
วัสดุก่อสร้าง2.7%


Ad
ห้ามพลาด!!! [กิจกรรมจำกัดเวลา] แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์!!!
*เทรด S&P 500 กับโบรกเกอร์ชั้นนำ*เปิดบัญชีภายใน 3 นาที*ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ*เทรดด้วยอัตราทด*ฟรีเสมือนจริง $50,000 ดอลลาร์
*ลงทุนมีความเสี่ยง CFD อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน

S&P 500 และ Dow Jones แตกต่างกันอย่างไร

Dow Jones เป็นดัชนีตลาดหุ้นอีกตัวหนึ่งที่มีบริษัทขนาดใหญ่ ข้อแตกต่างที่สำคัญของ S&P 500 และ Dow Jones มีดังนี้


·  Dow Jones ประกอบด้วยบริษัทเพียง 30 แห่งซึ่งแต่ละบริษัทถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

·  Dow Jones จะถ่วงน้ำหนักตามราคาหุ้นของแต่ละบริษัท ไม่ใช่ตามมูลค่าราคาตลาดซึ่งหมายความว่าบริษัทที่มีราคาหุ้นสูงกว่าจะได้รับน้ำหนักมากกว่า ดัชนีคำนวณโดยการบวกราคาหุ้นของทั้ง 30 บริษัท ปรับน้ำหนักแล้วหารด้วยค่าคงที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเรียกว่า Dow Divisor

เพื่อนๆ นักลงทุนอย่าลืมติดตามดัชนี S&P500 ก่อนการลงทุนด้วยนะครับ เพราะเป็นตัวเลขสำคัญที่จะสะท้อนภาวะตลาดในแต่ละวัน ขอให้เพื่อนๆ ลงทุนให้ประสบความสำเร็จครับ 


*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย