CFD คืออะไรและทำงานอย่างไร?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์เช่น Forex หุ้น ดัชนี ทองคำหรือบิทคอยน์ แต่คุณมีเงินไม่มากแต่ก็มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำไรในระยะสั้น การลงทุนด้วยเครื่องมือ CFD อาจจะเป ็นคำตอบสำหรับการลงทุนของคุณ
ว่าแต่ CFD คืออะไร, CFD ทำงานอย่างไร CFD, จะช่วยให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยอย่างไร, ข้อดีและความเสี่ยงในการเทรด CFD คืออะไร เรามาหาคำตอบกันครับ
CFD คืออะไร
CFD (Contract for Difference) หรือแปลเป็นไทยว่า สัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นตราสารอนุพันธ์รูปแบบหนึ่งที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิงโดยไม่ต้องทำการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงนั้นจริง แต่เป็นสัญญาที่ทำการซื้อขายได้ทันทีเพียงส่งคำสั่งซื้อขาย และเสนอความได้เปรียบด้านอัตราทด (เลเวอเรจ) ทำให้เทรดเดอร์สามารถวางเงินเพียงจำนวนหนึ่งแต่ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนเท่ากับการซื้อขายสินค้านั้นจริงด้วยเงินเต็มจำนวน
△ ตัวอย่างเช่น
คุณคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ด้วยการใช้เลเวอเรจ 1:100 คุณเปิดคำสั่งซื้อทองคำที่มีมูลค่า $1,000 ดอลลาร์(ประมาณ 31, 200 บาท) ด้วยการฝากมาร์จิ้น $10 ดอลลาร์(ประมาณ 312 บาท)
หากราคาเพิ่มสูงขึ้นไปถึง $1,100 ดอลลาร์ คุณปิดคำสั่งซื้อทันทีและรับรู้กำไร $100 ดอลลาร์[ประมาณ 3,120 บาท(ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น)] ได้เลย
หมายถึงคุณทำกำไร $100 ดอลลาร์ด้วยต้นทุน $10 ดอลลาร์เอง คิดผลตอบแทนเป็น 1000% และคุณยังไม่ต้องยุ่งยากกับการซื้อทองที่ร้านมาเก็บไว้แล้วเอาไปขายกลับที่ร้านด้วย
ต้นทุนในการเทรด CFD
ต้นทุนในการเทรด CFD รวมไปถึงสเปรด (Spread) ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน
1. สเปรด (Spread) - ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย มีหน่วยเป็น pip
☆ ตัวอย่าง หากคุณเปิดคำสั่งซื้อ EURUSD โดยราคาซื้อ(ask) = 1.1236 และราคาขาย(bid) = 1.1235 สเปรดจะเท่ากับ 1.1236 – 1.1235 = 1 pip สเปรดเป็นต้นทุนสำคัญของการเทรด CFD ยิ่งสเปรดน้อยเท่าไหร่ คุณจะมีโอกาสทำกำไรมากขึ้น จากตัวอย่างข้างต้น หากคุณปิดสถานะของ EURUSD ที่ 1.1240 กำไรของคุณจะอยู่ที่ 1.1240 – (1.1236 + 0.0001) = 3 pip · 1.1240 คือราคาที่คุณปิดคำสั่งซื้อ · 1.1236 คือราคาที่คุณเปิดคำสั่งซื้อ · 0.0001 เท่ากับ 1 pip |
2. ค่าคอมมิชชั่น คุณจะจ่ายเงินตามจำนวนที่กำหนดโดยโบรกเกอร์ต่อปริมาณการเทรดต่อครั้ง ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละโบรกเกอร์ มีโบรกเกอร์บางรายจะไม่เก็บค่าคอมมิชชั่น
3. ค่าธรรมเนียมการถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน - หากคุณเปิดคำสั่งซื้อขายข้ามคืน(เลยเวลา 4 โมงเย็นตามเวลาไทย) คุณอาจจะถูกเรียกเก็บค่าสวอปจากโบรกเกอร์เพื่อรักษาคำสั่งซื้อขายดังกล่าว
CFD ทำงานอย่างไร
สถานะซื้อ (Long Position) และ สถานะซื้อขาย (Short Position)
ในการเทรด CFD คุณต้องทำการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้นหรือลง ซึ่งส่วนต่างของราคาเปิดและราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิงจะเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะได้กำไรหรือขาดทุน
■ เปิดสถานะตามความคาดการณ์ของคุณ
หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มขาขึ้น คุณก็ทำการเปิดสถานะซื้อ(Long Position)
หากคุณคิดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงมีแนวโน้มดิ่งลง คุณก็ทำการเปิดสถานะขาย(Short Position)
■ คุณสามารถทำกำไรจากการเทรด CFD หาก
สำหรับสถานะซื้อ (Long) และราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นขาขึ้นและไปถึงราคาที่คุณพอใจ คุณปิดสถานะแล้วจะได้กำไร เช่น คุณเปิดสถานะซื้อที่ $15 USD และปิดที่ 17 USD กำไรจะเป็น $17 - $15 = 2 USD*
สำหรับสถานะขาย (Short) และราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นขาลงและไปถึงราคาที่คุณพอใจ คุณปิดสถานะแล้วจะได้กำไร เช่น คุณเปิดสถานะขายที่ 15 USD และปิดที่ 13 USD กำไรของคุณจะเท่ากับ $15 - $13 = 2 USD*
■ คุณจะขาดทุนจากการเทรด CFD หาก
สำหรับสถานะซื้อ (Long) แต่ราคาของสินทรัพย์เป็นขาลง คุณก็จะขาดทุน เช่น คุณเปิดสถานะซื้อที่ $15 USD และปิดสถานะที่ $13 USD คุณจะขาดทุนเป็น $13 -$15 = - 2 USD*
สำหรับสถานะขาย (Short) แต่ราคาของสินทรัพย์เป็นขาขึ้น คุณก็จะขาดทุน เช่น คุณเปิดสถานะขายที่ $15 USD และปิดที่ $17 USD คุณจะขาดทุนเป็น $15 - $17 = - 2 USD*
*ไม่รวมต้นทุนการเทรดและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
ตอนนี้คุณคงพอเริ่มเห็นภาพคร่าว ๆ ของ CFD แล้ว แต่คุณยังคงสงสัยว่า CFD จะช่วยให้คุณลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยอย่างไร?
สำหรับคำตอบของคำถามนี้ ผมขอแนะนำศัพท์สำคัญอีกสองคำที่จะช่วยตอบคำถามของคุณคือ เลเวอเรจ (Leverage) และ มาร์จิ้น (Margin)
เลเวอเรจและมาร์จิ้น
เลเวอเรจ คือความสามารถในการเทรดปริมาณมากโดยไม่ใช้เงินตัวเอง เลเวอเรจมีเช่น 1:10, 1:50, 1:100, 1:200 เลเวอเรจยิ่งสูง เงินทุนที่คุณต้องการใช้ในการเทรดยิ่งน้อย
มาร์จิ้นคือหลักประกันที่คุณวางไว้กับโบรกเกอร์ในการเปิดสถานะซื้อขายแต่ละครั้ง
☆ ตัวอย่างเช่น
หากคุณเปิดสถานะซื้อคู่สกุลเงิน 1 ล็อตมาตรฐานโดยไม่มีเลเวอเรจ คุณจะต้องใช้เงิน $100,000 ดอลลาร์ แต่
※ ในกรณีที่มีเลเวอเรจ 1:100 มาร์จิ้น 1% คุณจะต้องมีเงินในบัญชีเพียง $1,000 ดอลลาร์ก็สามารถเปิดสถานะได้แล้ว
※ ในกรณีที่มีเลเวอเรจ 1:200 มาร์จิ้น 0.5% มาร์จิ้นจะลดลงเป็น $500 ดอลลาร์เท่านั้น
ด้วย CFD เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ ทำให้คุณสามารถทำการเทรดปริมาณมากด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ซึ่งช่วยขยายขอบเขตในการทำกำไรได้(หากคุณคาดการณ์ถูกต้อง) หรือขอบเขตขาดทุน(หากคุณคาดการณ์ไม่ถูกต้อง) อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้คุณคงพอเริ่มเข้าใจแล้วว่า CFD ทำงานอย่างไร เรามาดูที่หัวข้อถัดไปกันครับ
ความได้เปรียบของการเทรด CFD
การเทรดมีเลเวอเรจและมาร์จิ้น
เทรดเดอร์ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในการเทรด CFD ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์โดยตรง
ทำการเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
คุณสามารถทำการเทรดได้ไม่ว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้นหรือลงก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์โดยตรง เช่น การลงทุนในหุ้นที่ตลากหลักทรัพย์ฯ ที่คุณสามารถทำกำไรจากขาขึ้นเพียงอย่างเดียว
ขนาดสัญญายืดหยุ่น
ด้วยการเทรด CFD มีหลายขนาดสัญญา ทำให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นในการเทรด โดยเทรดเดอร์สามารถทำการเทรดด้วยสัญญาขนาดเล็กเช่น 0.5 ล็อต, 0.1 ล็อต หรือ 0.01 ล็อต ขนาดสัญญาขั้นต่ำจะตามสินทรัพย์ที่ซื้อขายและแต่ละโบรกเกอร์
เวลาซื้อขายยืดหยุ่น
ตลาดการเงิน CFD เปิดทำการเทรด 24 ชั่วโมง 7 วันทำการ เทรดหลังเลิกงานหรือระหว่างการเดินทางได้สบายเลย
ไม่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์
หากทำการซื้อขายหุ้นกับตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนต้องเสียค่าอากรแสตมป์ด้วย แต่การเทรดหุ้น CFD ไม่มีค่าส่วนี้
สามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้หลายหมื่นแห่ง
ตราสารอนุพันธ์ CFD สามารถเทรดได้ทั้งหุ้น ดัชนี forex ทองคำ สกุลเงินดิจิตอล ฯลฯ และทำการเทรดทั้งหมดนี้บนแพลตฟอร์มการเทรดอันเดียวได้ โดยไม่ต้องสลับใช้โบรกเกอร์หุ้น โบรกเกอร์ forex หรือโบรกเกอร์ futures
ป้องกันความเสี่ยง
เทรดเดอร์จำนวนมากยังใช้ CFD ในการป้องกันความเสี่ยงของสถานะอื่นที่เปิดอยู่ หากคุณคิดว่าสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนของคุณอาจมีมูลค่าลดลงคุณสามารถ เปิดคำสั่งขาย CFD เพื่อชดเชยส่วนหนึ่งของการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณได้ถือหุ้น Facebook มูลค่า 1,000 ดอลล่าร์ในพอร์ต หากคุณเปิดคำสั่งขายหุ้น Facebook CFD มูลค่า 1,000 ดอลล่าร์ แม้ว่าราคาหุ้น Facebook ในตลาดอ้างอิงจะลดลง กำไรจากการเทรด CFD สามารถชดเชยการสูญเสียของพอร์ตหุ้นได้
ระบบถอนเงิน T+0
ตราสาร CFD ส่วนใหญ่สามารถเปิดและปิดสถานะหลายครั้งภายในวันเดียวโดยไม่มีข้อจำกัด หมายถึงแม้ว่าคุณเพิ่งได้เปิดสถานะ 5 นาทีก่อนก็ตาม คุณก็ยังสามารถปิดสถานะที่เปิดไว้ได้ทันที ดังนั้น การเทรด CFD จะเอื้อต่อการซื้อขายระยะสั้นมากกว่าเมื่อเทียบกับรูปแบบการลงทุนอื่นที่มีระบบถอนเงิน T+1
ความเสี่ยงในการเทรด CFD
ทุกรูปแบบการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง การลงทุนใน CFD ประกอบด้วยความเสี่ยงต่อไปนี้
การใช้เลเวอเรจ
หนึ่งในข้อผิดพลาดสำคัญของเทรดเดอร์คือ ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป เช่น 1:1,000 หรือ 1:2,000 หรือถึงแม้คุณจะใช้เลเวอเรจไม่สูงมากเช่น 1:25 แต่คุณทำการเปิดคำสั่งซื้อจำนวนมาก ทำให้เวลาที่ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ คุณจะขาดทุนอย่างหนักและรวดเร็วจนอาจถึงขั้นล้างพอร์ต ดังนั้น นักลงทุนควรใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยง เช่นเครืองมือ stop loss / trailing stop
อาจจะเจอโบรกเกอร์ที่หลอกลวงได้
โบรกเกอร์ CFD มีมากมาย นักลงทุนอาจจะเจอโบรกเกอร์ที่หลอกลวงก็ได้ ดังนั้น นักลงทุนควรหาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเพื่อปกป้องเงินทุนของตน หลักเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดในการเลือกโบรกเกอร์ก็คือ เลือกโบรกเกอร์ที่ได้กำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น CIMA, ASIC, FCA, NFA เป็นต้น
กลยุทธ์การเทรด CFD
CFD ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง และด้วยกลยุทธ์การเทรดเหล่านี้จะช่วยให้การเทรด CFD ของคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
1. พัฒนาความรู้ของคุณเกี่ยวกับ CFD
เนื่องจากการเทรดเกี่ยวข้องกับเลเวอเรจเป็นส่วนใหญ่จึงต้องพัฒนาความรู้และฝึกฝนในการเทรดทุกวัน เพราะประสบการณ์เท่านั้นที่จะให้โอกาสคุณในการซื้อขาย CFD ได้อย่างประสบความสำเร็จ
2. สร้างแผนการซื้อขาย
เมื่อคุณมีแผนการเทรดเมื่อไหร่คุณก็จะเข้าใจขั้นตอนของการเทรดว่าต้องใช้เวลาเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้นคุณรู้ยังว่าคุณมีเวลาเท่าไรในการวิเคราะห์เบื้องต้นและค้นหาสัญญาณยืนยัน, ควรตรวจสอบแผนภูมิการซื้อขายบ่อยแค่ไหน และสิ่งที่ควรทราบก่อนเทรดอื่น ๆ
3. ยึดมั่นในกลยุทธ์การซื้อขาย CFD ของคุณ
เมื่อคุณสร้างกลยุทธ์การเทรด CFD คุณต้องตัดสินใจว่าจะใช้การวิเคราะห์ประเภทใดเพื่อระบุจุดเข้าและออกในตลาด โดยให้เลือกว่าคุณต้องการเปิดสถานะซื้อและถือสินทรัพย์ที่คุณเลือกไว้ หรือเปิดสถานะเพื่อขาย
4. วิเคราะห์ตลาดเพื่อกำหนดเวลาการซื้อขายของคุณ
เมื่อคุณสร้างกลยุทธ์การเทรด CFD คุณต้องตัดสินใจว่าจะใช้การวิเคราะห์ประเภทใดในการระบุจุดเข้าและออกในตลาด สำหรับการวิเคราะห์ที่เทรดเดอร์ใช้มีสองประเภทได้แก่ ทางเทคนิคที่เป็นการวิเคราะห์จากการวิเคราะห์กราฟราคาในอดีตและแบบพื้นฐานคือการมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ภายนอกและอิทธิพลต่าง ๆ
5. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจขนาดตำแหน่งรวมของคุณ
ขนาดตำแหน่งของคุณคือมูลค่ารวมของการเทรดของคุณ กล่าวคือ เมื่อเปิดสถานะใหม่ คุณควรคำนึงถึงเงินทุนที่มีอยู่และจำนวนความเสี่ยงที่คุณยินดีรับ และยินดีเสี่ยงในแต่ละการซื้อขายในแผนการเทรดได้
6. จัดการความเสี่ยงของคุณด้วยการหยุดและจำกัด
คำสั่งหยุดการขาดทุนคือคำสั่งให้โบรกเกอร์ปิดการซื้อขายของคุณในราคาที่ไม่น้อยกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ในกรณีนี้คุณต้องถามตัวเองว่าคุณพร้อมจะเสียเงินเท่าไหร่ก่อนที่จะปิดการซื้อขายและตั้งค่า Stop-Loss ของคุณตามนั้น
7. เริ่มต้นจากเล็กๆ และกระจายการซื้อขายของคุณเมื่อเวลาผ่านไป
ฝึกฝนจากตลาดที่คุณถนัดหรือเน้นไปที่ตลาดที่คุณคุ้นเคยหรือสนใจอยู่แล้ว เมื่อคุณมีความมั่นใจในกลยุทธ์ของคุณมากขึ้นแล้ว คุณจึงสามารถเริ่มกระจายการลงทุนของคุณไปยังประเภทสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้
8. ตรวจสอบตำแหน่งที่เปิดของคุณ
ด้วยการกำหนดขนาดตำแหน่งรวจะช่วยให้คุณทราบปัญหาหรือโอกาสได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพราะระบบจะแจ้งให้คุณดำเนินการเมื่อจำเป็น สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเงินทุนในบัญชีของคุณเพียงพอเพื่อครอบคลุมหลักประกันการรักษาตำแหน่งที่จำเป็นของคุณ
9. อย่าเพิ่มการเทรดที่ขาดทุน
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จคือวิธีที่สามารถตอบสนองต่อการขาดทุนได้ ด้วยเทคนิคคือการมุ่งเน้นและสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดคุณโดยไม่กระทำการด้วยความโลภตามด้วยรียนรู้ประสบการณ์การเทรดของคุณ
10. ฝึกฝนการซื้อขายด้วยบัญชีทดลอง
วิธีที่ดีที่สุดในการทดสอบแผนการเทรดของคุณว่าได้ผลหรือไม่คือการเปิดบัญชีทดลองและฝึกฝนการเทรดยเงินเสมือนจริง เพราะบัญชีทดลองเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับตลาดจริงในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถเปิดบัญชีง่าย ๆ กับ MiTRADE ที่ให้คุณทดสอบกลยุทธ์และเรียนรู้เครื่องมือการเทรได้ในเวลาเดียวกัน
สรุป
ด้วยการแนะนำ CFD คืออะไร, การทำงานของ CFD, ข้อดีและความเสี่ยงในการเทรด CFD ที่กล่าวไปด้านบน เราสามารถสรุปได้ว่า CFD เหมาะกับสำหรับผู้ที่มีความคาดหวังว่าจะเก็งกำในระยะสั้นด้วยเงินทุนไม่มากนักและรับความเสี่ยงที่สูงได้
เทรด CFD กับโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก - Mitrade 『 ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ 』『 ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 』『 โบนัสสำหรับลูค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 』👇️👇️👇️👇️👇️👇️
- บวก/ลบ สูงสุด
- ฟอเร็กซ์
- สินค้าโภคภัณฑ์
- ดัชนี
- หุ้น
- ชื่อ
- ซื้อ
- ขาย
- เปลี่ยนแปลง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน