Fed เสียงแตก ทุบทอง- Bitcoin ร่วง จับตา SET หลุด 1,270 จุด
Insights - เหตุการณ์ทางการเงินที่สำคัญ 4 ประการของวันนี้:
1.Shutdown จบ แต่ข้อมูลไม่จบ ทำ Fed ยังเสียงแตก
ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดในช่วงผ่านมา คือการสิ้นสุดของภาวะ Government Shutdown ในสหรัฐฯ ที่ยาวนานถึง 43 วัน แม้ตลาดจะโล่งใจ แต่ผลกระทบที่ตามมาคือภาวะสุญญากาศทางข้อมูล (Data Blackout) ที่ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง CPI และตัวเลขจ้างงานเดือนตุลาคมล่าช้าหรืออาจไม่ถูกเผยแพร่ ซึ่งนั่นทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขาดข้อมูลในการตัดสินใจ
โดย Fed กำลังเสียงแตกอย่างชัดเจน Stephen Miran เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยแรงถึง 50 bp สวนทางกับกลุ่มสายเหยี่ยวอย่าง Susan Collins และ Raphael Bostic ที่ออกมาเบรกว่ายังไม่ควรลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Dow Jones) ปิดลบไปกว่า 1.1% เมื่อวันศุกร์
2.กองทุน Bitcoin ETF เลือดไหล หนักสุดในประวัติศาสตร์
วงการคริปโตก็หนักไม่แพ้กัน หลังเจอแรงเทขายมหาศาลออกจากกองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ โดยมียอดเงินไหลออกสุทธิรวมกันกว่า 860 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว ถือเป็นสถิติเงินไหลออกรายวันที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนมา
โดยกองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง IBIT ของ BlackRock และกองทุนของ Grayscale โดนเทขายหนักที่สุด สะท้อนว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันกำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง และเป็นแรงกดดันหลักที่ทุบราคา Bitcoin ให้ร่วงหลุดแนวรับจิตวิทยา 100,000 ดอลลาร์ ลงไปซื้อขายแถว 94,000 ดอลลาร์ในขณะนี้
3.ทองคำโดนทุบ $100 หลัง Fed ส่งสัญญาณไม่ลดดอกเบี้ย
ราคาทองคำก็ไม่รอด โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทรงตัวได้ดีจากความกังวลเรื่อง Government Shutdown แต่พอถึงวันศุกร์ราคาทองคำ Comex กลับดิ่งลงรุนแรงกว่า 100.3 ดอลลาร์ หรือราว 2.39% ในวันเดียว ปิดที่ 4,094.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สาเหตุชัดเจนมาจากการที่ตลาดลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลงฮวบหลังถ้อยแถลงของ Fed สายเหยี่ยว ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและบอนด์ยีลด์ดีดตัวขึ้น กดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนทันที
4.SET หลุด 1,270 จุด ต่างชาติหนีตาย รายย่อยช้อนแหลก
ตลาดหุ้นไทย (SET) ในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน ปิดลบหนักตามตลาดโลก ดัชนีปิดที่ 1,269.26 จุด ร่วงลง -18.18 จุด (-1.41%) ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการเสียแนวโน้มทางเทคนิค
แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือไส้ในของตลาด เมื่อตัวเลข Fund Flow แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิ -1,662.55 ล้านบาท และสถาบันในประเทศขายสุทธิ -1,262.81 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปช้อนซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียวถึง +3,360.15 ล้านบาท ท่ามกลางแรงขายในหุ้นใหญ่อย่าง ADVANC (-2.52%) และ DELTA (-3.21%) สะท้อนภาพความเสี่ยงที่สูงขึ้นชัดเจน
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
