โลหะเงินเปล่งประกายเหนือ $37.00 ขณะที่ XAG/USD ทำระดับสูงสุดใหม่ YTD
- โลหะเงินทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2025 ขณะที่ความตึงเครียดด้านภาษีเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย.
- โมเมนตัมขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่โลหะขาวปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านที่ $38.00.
- XAG/USD ได้รับประโยชน์จากบทบาทคู่ของมันในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและโลหะอุตสาหกรรม.
โลหะเงิน (XAG/USD) กำลังซื้อขายที่ระดับสูงสุดใหม่ในปีนี้ในวันศุกร์ ขณะที่ภัยคุกคามด้านภาษีและความไม่แน่นอนในตลาดผลักดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย.
ราคาของโลหะเงินซื้อขายอยู่เหนือ $37.60 ในขณะที่เขียน ขณะที่ฝั่งกระทิงดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะทดสอบระดับแนวต้านทางจิตวิทยาถัดไปที่ $38.00.
เมื่อโลหะขาวยังคงเดินหน้าต่อไปตามแนวโน้มขาขึ้น นโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของราคา.
ตลอดทั้งปี ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงและแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยได้สร้างแรงกระตุ้นเชิงบวกให้กับทั้งทองคำและโลหะเงิน.
เนื่องจากโลหะเงินได้รับประโยชน์จากความน่าสนใจในฐานะสินค้าปลอดภัยและโลหะอุตสาหกรรม สภาพแวดล้อมในปัจจุบันจึงทำให้ความน่าสนใจของมันเพิ่มขึ้น.
ด้วย XAG/USD ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปีนี้ การเคลื่อนไหวเหนือ $37.00 และเหนือระดับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ที่ $37.49 ทำให้โลหะนี้อยู่ในกลุ่มสินค้าที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในปีนี้.
โลหะเงินขยายการปรับตัวขึ้นสู่ $38.00 ขณะที่โมเมนตัมขาขึ้นเพิ่มขึ้น
โลหะเงิน (XAG/USD) ได้ขยายโมเมนตัมขาขึ้น โดยทะลุระดับสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ $37.49 (ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นแนวรับ) และทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้ที่ $37.73 ในขณะที่เขียน.
การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความสนใจในการซื้อที่แข็งแกร่งเมื่อโลหะเข้าใกล้แนวต้านทางจิตวิทยาที่สำคัญที่ $38.00.
กราฟรายวันของโลหะเงิน (XAG/USD)
แนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบันยังคงอยู่ในช่องขนานที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 20 วันและ 50 วัน ซึ่งให้แนวรับเพิ่มเติมที่ $36.53 และ $34.91 ตามลำดับ.
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมยังเสริมสร้างแนวโน้มขาขึ้น โดยดัชนี Relative Strength Index (RSI) เพิ่มขึ้นสู่ 67 ใกล้โซนซื้อมากเกินไป แต่ยังไม่ส่งสัญญาณถึงความอ่อนล้า.
การทะลุเหนือ $38.00 อาจเปิดโอกาสให้เข้าสู่โซน $39.50–$40.00 ในขณะที่การไม่สามารถรักษาผลกำไรล่าสุดอาจกระตุ้นการย่อตัวกลับไปที่แนวรับที่ $36.50.
โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย
แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ
ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน
โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน
ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน
บทความแนะนำ
