WTI วิ่งอยู่ต่ำกว่า $84.50 เพราะท่าทีเข้มงวดของเฟดไปหักล้างกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
- WTI ร่วงลงสู่ระดับ 84.25 ดอลลาร์เพราะถ้อยแถลงของเฟดในวันพุธที่ไปในทางเข้มงวดนโยบาย
- ความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
- ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและการนําเข้าน้ํามันดิบของจีนที่สูงขึ้นทําให้ราคา WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในวันพุธ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เกณฑ์มาตรฐานน้ํามันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 84.25 ดอลลาร์ น้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้เนื่องจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ มีความเห็นสนับสนุนนโยบายการเงินเข้มงวด คำพูดของประธานเฟดในทิศทางนั้นได้หักล้างกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น
นักลงทุนเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้จะลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) กล่าวเมื่อวันอังคารว่าการลดเงินเฟ้อจะใช้เวลา "นานกว่าที่คาดไว้" เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จําเป็นในการนําอัตราเงินเฟ้อไปสู่เป้าหมาย 2% การที่ตลาดเอาแต่พูดซ้ำๆ ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะสูงขึ้นนานขึ้นนั้นอาจสร้างแรงกดดันทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง สาเหตุนั้นเพราะความต้องการน้ํามันน้อยลงเนื่องจากต้นทุนการถือครองน้ำมันดิบสูงขึ้น
ตามรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกันเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ ข้อมูลปริมาณน้ำมันดิบคลังในสัปดาห์นับถึงวันที่ 12 เมษายน เพิ่มขึ้น 4.09 ล้านบาร์เรล จากระดับ 3.03 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า นักลงทุนในตลาดประเมินว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะเพิ่มขึ้นประมาณ 600,000 บาร์เรล
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องยังคงหนุนราคา WTI เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติกล่าวในแถลงการณ์เมื่อปลายตลาดลงทุนวันอังคารว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่อิหร่าน และการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานที่สนับสนุนกองกําลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม และกระทรวงกลาโหมของอิหร่าน นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า ในกรณีที่ความรุนแรงเพิ่มขึ้น ราคาน้ํามันที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมีความเป็นไปได้
นอกจากนี้ การนําเข้าน้ํามันดิบของจีนยังทําสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2023 โดยเพิ่มขึ้น 10% YoY และทําลายสถิติเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2020 สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากจีนเป็นผู้นําเข้า น้ํามันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก
บทความที่เกี่ยวข้อง
