รายงานจาก FXStreet ระบุ “ราคาโลหะเงินวันนี้ปรับตัวลดลง”

แหล่งที่มา Fxstreet
08 พ.ค. 2567 11:41 น.

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ปรับตัวลดลงในวันพุธ ตามข้อมูลของ FXStreet โลหะเงินซื้อขายที่ระดับ 27.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ลดลง 0.36% จากที่ระดับ 27.24 ดอลลาร์ในวันอังคาร

ราคาโลหะเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.56% นับตั้งแต่ต้นปี

หน่วยวัด ราคาวันนี้
ราคาเงินต่อทรอยออนซ์ 1002.82 บาท
ราคาเงินต่อกรัม 32.15 บาท

 

อัตราส่วนทองคํา/เงิน ซึ่งแสดงจํานวนทรอยออนซ์ของเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งทรอยออนซ์ อยู่ที่ 85.07 ในวันพุธ เพิ่มขึ้นจาก 84.96 ในวันอังคาร

นักลงทุนอาจใช้อัตราส่วนนี้เพื่อกําหนดมูลค่าเชิงสัมพัทธ์ของทองคําและเงิน บางคนอาจมองว่าอัตราส่วนที่สูงเป็นตัวบ่งชี้ว่าเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป และอาจซื้อเงินหรือขายทองคําตามข้อมูลนั้น ในทางกลับกันอัตราส่วนที่ต่ำอาจแนะนําว่าทองคํามีมูลค่าต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับเงิน

(มีการใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสร้างโพสต์นี้)


โลหะเงิน: คําถามที่พบบ่อย

ทําไมผู้คนถึงลงทุนในโลหะเงิน?

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ปัจจัยใดที่มีอิทธิพลต่อราคาโลหะเงิน?

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

อุปสงค์ภาคอุตสาหกรรมส่งผลต่อราคาโลหะเงินอย่างไร?

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของทองคําอย่างไร?

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต
placeholder
วิเคราะห์ Murrey math lines ของ USD/JPYราคาแลกเปลี่ยน USD/JPY อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันในกรอบเวลา D1 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มของตลาดที่เป็นขาขึ้น ดัชนี RSI ทะลุระดับแนวต้านแล้วและในสถานการณ์นี้ เราคาดว่าราคาจะขยับขึ้นไปอีก ไปที่เส้น 7/8 (159.37) ซึ่งสถานการณ์นี้อาจถูกยกเลิกไปได้โดยการทะลุระดับแนวรับ 5/8 (153.12) และในกรณีนี้ ระดับราคาอาจลดลงอีกมาที่เส้น 4/8 (150.00) ในกราฟกรอบเวลา 15 นาที เส้นด้านบนของกรอบ VoltyChannel ถูกเจาะผ่านไป ซึ่งเพิ่มความน่าจะเป็นที่ระดับราคาจะสูงขึ้นอีก
แหล่งที่มา  Fxstreet
ราคาแลกเปลี่ยน USD/JPY อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันในกรอบเวลา D1 ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มของตลาดที่เป็นขาขึ้น ดัชนี RSI ทะลุระดับแนวต้านแล้วและในสถานการณ์นี้ เราคาดว่าราคาจะขยับขึ้นไปอีก ไปที่เส้น 7/8 (159.37) ซึ่งสถานการณ์นี้อาจถูกยกเลิกไปได้โดยการทะลุระดับแนวรับ 5/8 (153.12) และในกรณีนี้ ระดับราคาอาจลดลงอีกมาที่เส้น 4/8 (150.00) ในกราฟกรอบเวลา 15 นาที เส้นด้านบนของกรอบ VoltyChannel ถูกเจาะผ่านไป ซึ่งเพิ่มความน่าจะเป็นที่ระดับราคาจะสูงขึ้นอีก
placeholder
วิเคราะห์ GBP/JPY ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันหกวัน แรงขาขึ้นตั้งเป้าไปที่ 197.00สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเป็นวันที่หกติดต่อกันเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นท่ามกลางแรงกระตุ้นในการลงทุนบนความเสี่ยง สกุลเงินที่ปลอดภัยต่าง ๆ ยังคงเป็นสกุลเงินที่ขยับน้อยกว่าในระหว่างเซสชั่นซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสําหรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ  GBP/JPY ซื้อขายที่ระดับ 196.16 โดยระดับราคาแทบไม่เปลี่ยนแปลง
แหล่งที่มา  Fxstreet
สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเป็นวันที่หกติดต่อกันเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นท่ามกลางแรงกระตุ้นในการลงทุนบนความเสี่ยง สกุลเงินที่ปลอดภัยต่าง ๆ ยังคงเป็นสกุลเงินที่ขยับน้อยกว่าในระหว่างเซสชั่นซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนกำลังเตรียมพร้อมสําหรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ  GBP/JPY ซื้อขายที่ระดับ 196.16 โดยระดับราคาแทบไม่เปลี่ยนแปลง
placeholder
EURUSD ปรับตัวลดลงแต่ยังอยู่เหนือ 1.0750 ก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ คู่ EURUSD ปรับตัวลดลงมาที่ประมาณ 1.0770  นักลงทุนหันไปใช้โหมดเฝ้าระวังและเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสําคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ สําหรับเดือนเมษายนที่ประเมินครั้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.4% YoY การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนั้นได้เพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานขึ้น แนวโน้มเงินเฟ้อแตะระดับสู
แหล่งที่มา  Fxstreet
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ คู่ EURUSD ปรับตัวลดลงมาที่ประมาณ 1.0770  นักลงทุนหันไปใช้โหมดเฝ้าระวังและเลือกที่จะรออยู่ข้างสนามก่อนการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสําคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ สําหรับเดือนเมษายนที่ประเมินครั้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.4% YoY การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนั้นได้เพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้นานขึ้น แนวโน้มเงินเฟ้อแตะระดับสู
ตราสารที่เกี่ยวข้อง
goTop
quote