ในตลาดซื้อขายตราสารทางการเงินนั้นมีผู้เล่นและวิธีการมากมายที่จะนำมาซึ่งผลกำไร แต่วิธีและเครื่องมือที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการเก็งกำไรค่าเงิน หรือ การเทรดฟอเร็กซ์ ที่กลายเป็นวิธีหนึ่งที่เทรดเดอร์ทั่วโลกนิยมใช้ ซึ่งแน่นอนว่าอาจไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าการเก็งกำไรค่าเงินหรือการเทรดฟอเร็กซ์นั้นเป็นอย่างไรและจะเก็งกำไรค่าเงินสกุลไหนดี 2564 คราวนี้เราจึงจะพาทุกคนไปสำรวจกันว่าการเก็งกำไรค่าเงิน หรือ การเทรดฟอเร็กซ์นั้นเป็นอย่างไร และในปีที่ตลาดเงินผันผวนแรงอย่างปี 2564 นี้มีสกุลเงินไหนน่าสนใจเป็นพิเศษกันบ้าง
▼ เทรด Forex กับโบรกเกอร์ชั้นนำด้วยค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ ▼
- บวก/ลบ สูงสุด
- ฟอเร็กซ์
- สินค้าโภคภัณฑ์
- ดัชนี
- สกุลเงินดิจิตอล
เวลาที่เข้ามาในตลาดเงินตลาดทุนเรามักถูกบอกให้ลงทุน ซึ่งหมายถึงการแนะนำให้ซื้อแล้วถือในระยะยาวเพื่อคาดหวังการเติบโตของเงินทุนและผลตอบแทนอื่น ๆ เช่นเงินปันผล แต่การทำกำไรในตลาดเงินก็ไม่ได้มีแค่วิธีนี้วิธีเดียว เพราะยังมีวิธีที่เรียกว่าการเก็งกำไรด้วย
การเก็งกำไร หรือ การเทรด คือ การทำเข้าทำการซื้อขายหลาย ๆ ครั้ง เพื่อคาดหวังส่วนต่างของราคาท่ามกลางความผันผวน ดังนั้น ด้วยการเก็งกำไร หรือ การเทรดแบบนี้ จึงทำให้เทรดเดอร์สามารถเก็บส่วนต่างของราคาในความผันผวนได้ ในขณะที่นักลงทุนที่ซื้อแล้วถือจะไม่สามารถทำได้ เช่น หากราคาสินค้าเคลื่อนไหวในกรอบ แม้ในที่สุดราคาจะกลับมาที่จุดเดิมที่นักลงทุนซื้อไว้ แต่ในความผันผวนที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเทรดเดอร์จะเก็บผลกำไรจากการเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่เกิดขึ้นได้
ซึ่งความได้เปรียบตรงนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงของเทรดเดอร์ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าทำรายการหลาย ๆ ครั้งด้วยเช่นกัน ซึ่งการซื้อขายซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้งหรือการเก็งกำไรจากการเทรดนี้จำเป็นต้องอาศัยเงื่อนไขของสภาพคล่องที่ต้องเอื้อให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ง่าย วิธีนี้จึงจำเป็นต้องใช้กับสินค้าที่มีความผันผวนและมีสภาพคล่องสูง
ตลาดซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ หรือ ตลาดฟอเร็กซ์ เป็นตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดตลาดหนึ่งในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ ขณะที่การเปิดปิดสถานะซื้อขายสามารถทำได้รวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีด้วยความได้เปรียบจากแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ความเร็วสูง และด้วยสภาพคล่องในปริมาณสูงรวมถึงความสะดวกในการทำรายการก็ทำให้สินค้าอย่างค่าเงิน หรือ ฟอเร็กซ์ กลายมาเป็นสินค้าที่เทรดเดอร์นำมาใช้เก็งกำไรกันมากที่สุดชนิดหนึ่ง
การเก็งกำไรค่าเงิน หรือ การเทรดฟอเร็กซ์ จึงเป็นการใช้วิธีการซื้อขายซ้ำ ๆ บนสินค้าที่มีเงื่อนไขเอื้อต่อการซื้อขายอย่างค่าเงิน เพื่อคาดหวังการสะสมผลกำไรเล็ก ๆ จากการทำรายการหลาย ๆ ครั้งจนกลายเป็นผลกำไรขนาดใหญ่ได้ในระยะยาว
ว
ต้องยอมรับว่าปี 2564 เป็นปีที่ตลาดเงินตลาดทุนมีความผันผวนสูงที่สุดปีหนึ่ง และเป็นปีที่ราคาของสินทรัพย์ปรับตัวได้รุนแรง มีทั้งทองคำที่ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาล และมีทั้งสินค้าอย่างน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดอย่างที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน ซึ่งความผันผวนเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่เอื้อสำหรับการเก็งกำไรทั้งสิ้น แล้วปี 2564 นี้จะเป็นโอกาสสำหรับการเก็งกำไรสกุลเงินไหนบ้าง เรามาลองไล่ดูไปแต่ละตัวกันเลย
1) USD/JPY
ราคา USDJPY เรียลไทม์ ( ที่มา: MiTrade )
หรือรู้จักกันในชื่อเล่น ‘the gopher’ เป็นคู่เงินที่เทียบระหว่าง ดอลลาร์ ของ อเมริกา กับ เยน ของญี่ปุ่น และเป็นคู่เงินที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงเป็นอันดับสองในตลาดซื้อขายเงินตรา คิดเป็นราว ๆ 13% ของตลาดทั้งหมดในปี 2564
นอกเหนือจากจุดเด่นเรื่องมูลค่าการซื้อขายสูงที่เอื้อให้เกิดการเก็งกำไรค่าเงินได้ง่ายแล้ว คู่เงินนี้ยังมีความสำคัญในฐานะการเทียบเคียงกันระหว่างค่าเงินของประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลกอย่างญี่ปุ่นและอเมริกา ซึ่งเงินเยนยังมีฐานะหนึ่งคือสินทรัพย์ที่เป็นหลุมหลบภัย หรือ Safe Haven สำหรับนักลงทุน
คู่เงินนี้จึงมีความน่าสนใจในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูงเช่นปีนี้ โดยหากมีการมองความเสี่ยงในระบบเพิ่มขึ้นและนักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk off) ความต้องการถือเงินเยนจะเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่า USDJPY ปรับตัวลง ในทางตรงข้ามหากมองว่าความเสี่ยงในระบบคลี่คลายลง นักลงทุนเริ่มรับความเสี่ยงได้ (Risk on) ความต้องการถือเงินเยนจะลดลง ทำให้เงินเยนอ่อนค่า และ USDJPY จะปรับตัวขึ้น
2) AUD/USD
ราคา AUDUSD เรียลไทม์ ( ที่มา: MiTrade )
เทรดเดอร์รู้จักคู่เงินนี้ด้วยชื่อเล่น ‘Aussie’ เป็นคู่เงินที่เปรียบเทียบระหว่าง ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสภาพคล่องคิดเป็นกว่า 6% ของมูลค่าการซื้อขายรายวันในตลาดปริวรรตเงินตราที่เกิดขึ้นในปี 2564
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียนมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับปริมาณการส่งออกของประเทศตัวเอง ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นสินค้าประเภทสินแร่ โดยเฉพาะเหล็กกล้าและถ่านหินที่ออสเตรเลียนับเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกและคิดเป็นสัดส่วนที่ใหญ่เมื่อเทียบกับจีดีพีทั้งประเทศ
สินค้าอย่างเหล็กกล้าและถ่านหินเป็นวัตถุดิบหลักในอุตสาหรรมการผลิตทั่วโลก การขยายตัวของเศษฐกิจโลกจึงมีผลโดยตรงกับปริมาณการส่งออกของออสเตรเลีย และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
เมื่อเศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ดี ความต้องการวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอย่างถ่านหินและเหล็กกล้าเพิ่มสูงขึ้น ออสเตรเลียส่งออกได้มากขึ้น นักลงทุนจะต้องการดอลลาร์ออสเตรเลียมากขึ้นและทำให้สกุลเงินนี้แข็งค่า AUDUSD ปรับลดลง ในทางตรงกันข้ามหากเศรษฐกิจโลกหดตัวก็จะเกิดผลในททางตรงกันข้าม และ AUDUSD จะปรับตัวขึ้น
3) USD/CAD
ราคา USDCAD เรียลไทม์ ( ที่มา: MiTrade )
คู่เงินนี้มักรู้จักกันในชื่อเล่น ‘loonie’ สื่อถึงนกลูนที่ปรากฏอยู่ด้านหลังเหรียญดอลลาร์แคนนาดา เป็นคู่เงินที่เทียบค่าเงินระหว่างดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์อเมริกา ในปี 2564 คู่เงินนี้มีมูลค่าการซื้อขายถึงกว่า 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในตลาด
เช่นเดียวกับคู่เงิน AUDUSD คู่เงิน USDCAD มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสินค้าส่งออกหลักของแคนาดาอย่างน้ำมันดิบ ที่ได้รับผลโดยตรงจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ในปีนี้มีความผันผวนสูง และเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซื้อขายในหน่วยค่าเงินดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจึงมีผลต่อ CADUSD ทั้งในฝั่งของ CAD และ USD
เมื่อมีการคาดการณ์กันว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้น ด้านหนึ่งจะส่งผลให้ CAD มีความต้องการสูงขึ้นและแข็งค่า ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในบางครั้งมีสาเหตุมาจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงของ CADUSD รุนแรงขึ้นจากผลในสองทาง และ CADUSD จะปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ในทางตรงกันข้ามหากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง ความต้องการ CAD จะลดลงและส่งผลให้ CAD อ่อนค่า พร้อม ๆ กับการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลให้ CADUSD ปรับตัวสูงขึ้นในที่สุด
4) EUR/USD
ราคา EURUSD เรียลไทม์ ( ที่มา: MiTrade )
EURUSD เป็นคู่เงินที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลก คิดเป็นปริมาณการซื้อขายต่อวันกว่า 28.0% ของการซื้อขายเงินตราทั้งหมดในปี 2564 ซึ่งความได้เปรียบของการเก็งกำไรค่าเงินสกุลนี้มาจากการที่เป็นคู่เงินของประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลกอย่างค่าเงินยูโรของสหภาพยุโรป และ ดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา
การเปลี่ยนแปลงของคู่เงิน EURUSD มาจากปัจจัยหลายอย่าง แต่ปัจจัยที่สำคัญคือการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางของทั้งสองประเภทอย่าง ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank – ECB) และ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด (Federal Reserve – Fed) ที่ในปีนี้เราได้เห็นย่างก้าวของทั้งสององค์กรที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกอย่างการนำมาตรการ QE กลับมาใช้ รวมถึงการประกาศเสริมสภาพคล่องทางการเงินเข้าสู่ระบบท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโควิด19
การดำเนินนโยบายทางการเงินเหล่านี้จะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินของทั้งสองประเทศ และหากประเทศใดเสริมสภาพคล่องให้กับระบบมากกว่าอีกประเทศ ก็จะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลงโดยเปรียบเทียบ และทำให้เงินสกุลนั้นอ่อนค่ามากกว่าในที่สุด
อ่านเพิ่มเติม>> แนวโน้มค่าเงินยูโร 2020
5) AUD/JPY
ราคา AUDJPY เรียลไทม์ ( ที่มา: MiTrade )
สำหรับ AUDJPY ที่เป็นการเทียบคู่เงินระหว่าง ดอลลาร์ ออสเตรเลีย และ เยน ของญี่ปุ่น อาจไม่ได้เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์มากเท่ากับสกุลเงินหลักอื่น ๆ แต่ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันที่ราว 3% ของการซื้อขายทั้งตลาดก็นับว่าเป็นปริมาณที่ไม่น้อย และยังคงมีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างดีที่เอื้อต่อการเก็งกำไรค่าเงินและการเทรดฟอเร็กซ์
การนำสกุลเงิน AUD และ JPY มาเข้าคู่กันนั้นถือเป็นการนำเอาสองสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์แตกต่างกันสิ้นเชิงมาเข้าคู่กัน ปัจจัยที่ส่งผลกับสกุลเงินหนึ่งจะไม่มีผลกับอีกสกุล หรือมีผลในทางตรงกันข้าม ทำให้สกุลเงินนี้มีความเคลื่อนไหวผันผวนได้มาก เช่น ปัจจัยด้านการจับเสือมือเปล่าจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย หรือ Carry Trade ที่นักลงทุนจะขายสกุลเงินที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย (มีแนวโน้มอ่อนค่า) และเข้าซื้อสกุลเงินที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ และได้รับส่วนต่างของผลกำไรโดยไร้ความเสี่ยง ซึ่งธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ขณะที่ธนาคากลางออสเตรเลียได้ชื่อว่าเป็นธนาคารกลางที่แทรกแซงตลาดเงินน้อยที่สุด เงินคู่นี้จึงมักถูกนำมาใช้ทำ Carry Trade ได้บ่อยครั้ง จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับปีที่ตลาดเงินมีความเปลี่ยนแปลงจากการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางของแต่ละประเทศเช่นปีนี้
อ่านเพิ่มเติม>> วิธีการเทรด AUD/JPY พร้อมกลยุทธ์การเทรด AUD/JPY
วันนี้ผู้เขียนได้แนะนำว่าเก็งกำไรค่าเงินสกุลไหนดี 2564 โดยสรุป 5 สกุลเงินที่น่าเทรด: USDJPY, AUDUSD, USDCAD, EURUSD, AUDJPY นักลงทุนสามารถเริ่มเทรดเดี๋ยวนี้ได้เลย
���
ทำไมเทรดกับ MiTrade
★ MiTrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ให้บริการ CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) ผ่านระบบออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง MiTrade กวาดมาแล้วทั้ง 'รางวัลแพลตฟอร์มเทรดบนมือถือที่ดีที่สุด' จาก Forex Awards ในปี 2019, 'รางวัลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เติบโตเร็วสุดในออสเตรเลีย' จากนิตยสาร International Business ในปี 2019 / 2020 , 'รางวัลแอพพลิเคชั่นเทรดฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย' จากนิตยสาร International Business ในปี 2020 และ 'รางวัลโบรกเกอร์ที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยม' จากเว็บไซต์ FxDailyInfo ในปี 2020
★ MiTrade เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ เนื่องจาก MiTrade ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมของ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และถือ Australian Financial Services Licence (AFSL 398528) การซื้อขายและการจัดการต่าง ๆ จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของทาง ASIC(วิธีการตรวจโบรกเกอร์ CFD)
และเงินทุนของท่านจะถูกเก็บแยกไว้ในบัญชีประเภททรัสต์ภายใต้ข้อกำหนดของประเทศออสเตรเลีย
★ ระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบและเครื่องมือจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ให้ใช้ฟรี เช่น stop loss / trailing stop เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมความเสียงในการเทรดได้มากขึ้น
★ อำนวยเครื่องมือการเทรดต่างๆ ให้ใช้ฟรี เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค, ปฏิทินทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
★ แพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาขึ้นมาเอง ใช้งานที่เรียบง่าย เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่
★ เจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
★ เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:200 ถือว่าไม่ต่ำและไม่สูงมากด้วย
★ ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ จะช่วยลดต้นทุนในการลงทุน
ยังมือใหม่? ไม่เป็นไร! MiTrade ได้จัดบัญชีทดลองเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 USD เพื่อให้ท่านฝึกฝนทักษะการเทรดโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง CFD อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา โปรดทราบว่าท่านจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์
เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำการลงทุนได้ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้นและผู้อ่านไม่ควรใช้บทความนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนใด ๆ Mitrade ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ใด ๆ ตามบทความนี้และไม่รับประกันความถูกต้องของเนื้อหาของบทความนี้