TradingKey – แม้รัฐบาลทรัมป์จะออกคำสั่งแบนการส่งออกชิป AI รุ่น H20 ที่เฉพาะสำหรับตลาดจีน NVIDIA (NVDA) ก็สามารถทำรายได้และกำไรได้เหนือความคาดหมายในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2026 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ Jensen Huang เตือนว่าความกดดันด้านกฎระเบียบจากทั้งสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อธุรกิจในตลาด AI ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
ในวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ NVIDIA เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2026 (สิ้นสุดเดือนเมษายน 2025):
ไฮไลต์ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2026 ที่มา: NVIDIA
ตามข้อมูลของ TipRanks นับเป็นไตรมาสที่สิบติดต่อกันที่ NVIDIA ทำผลงานได้เหนือความคาดหมาย สะท้อนความสม่ำเสมออันหายากในวงการเทคโนโลยีที่ผันผวนปัจจุบัน
หลังการประกาศ ราคาหุ้น NVIDIA พุ่งขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ และปรับตัวขึ้นเกือบ 24% ในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
คำสั่งแบนครั้งนี้ทำให้ NVIDIA ต้องตั้งสำรอง 4.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 เนื่องจากสินค้าคงคลังเกินและภาระสัญญาซื้อขาย ต่ำกว่าที่ซีอีโอ Huang ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ การแบนยังทำให้สูญเสียยอดขาย 2.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกเพียงไตรมาสเดียว
สำหรับไตรมาสที่ 2 NVIDIA คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าประมาณการของ LSEG ที่ 4.59 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าการแบนชิป H20 จะกดดันยอดขายให้สูญเสียเพิ่มเติมอีก 8 พันล้านดอลลาร์
Huang ระบุว่า “Blackwell NVL72 AI supercomputer ของเรา ‘เครื่องคิดแบบอัจฉริยะ’ ที่ออกแบบมาเพื่อการให้เหตุผล ได้เข้าสู่กระบวนการผลิตเต็มรูปแบบแล้วทั่วทั้งผู้ผลิตระบบและผู้ให้บริการคลาวด์”
เขาเน้นย้ำว่าความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ NVIDIA ทั่วโลกยังแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะในจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับความสำเร็จระดับโลก
ทว่า NVIDIA ยังเผชิญแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากทั้งวอชิงตันและปักกิ่ง ในการกลับมาลุยตลาดชิป AI ในจีน
บริษัทเผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลจีนกำลังตรวจสอบว่า NVIDIA ปฏิบัติตามกฎควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ จนเป็นเหตุให้ลูกค้าในประเทศได้รับความเสียหายหรือไม่ หากพบว่าละเมิดข้อผูกมัดหรือกฎหมายท้องถิ่น อาจเผชิญโทษปรับและข้อจำกัดการดำเนินงานในจีนในอนาคต
สถานการณ์นี้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตำแหน่งของ NVIDIA ในภูมิภาค ซึ่งส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 95% ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีไบเดน เหลือเพียงกว่า 50% ในปัจจุบัน