ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: จบคดี Ripple XPR พุ่งทะยาน Dogwifhat พุ่งตาม ขณะที่ยังต้องการความชัดเจนด้านกฏระเบียบในอุตสาหกรรม

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• ศาลสั่งปรับ Ripple Labs 125 ล้านดอลลาร์ในคดี SEC แต่ราคา XRP กลับพุ่งทะยาน

• Dogwifhat นำตลาดเหรียญมีมด้วยการเติบโตกว่า 13%

• นักวิเคราะห์ระบุจริงๆ แล้ว ETH มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ถูกขายไปตั้งแต่ปี 2021

• ผู้สนับสนุนคริปโตเรียกร้อง “กฎที่ชัดเจน” จากรัฐบาล Biden และ Harris

ศาลสั่งปรับ Ripple Labs 125 ล้านดอลลาร์ในคดี SEC แต่ราคา XRP กลับพุ่งทะยาน

ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้ Ripple Labs จ่ายค่าปรับทางแพ่งจำนวน 125 ล้านดอลลาร์ และห้ามบริษัทละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ในอนาคต จากคดีที่ถูกฟ้องโดย SEC ซึ่งผู้พิพากษา Analisa Torres พบว่า Ripple มีความผิดในการทำธุรกรรม 1,278 รายการที่ละเมิดกฎหมาย แม้ว่าค่าปรับนี้จะต่ำกว่าที่ SEC เรียกร้องถึง 94% แต่ศาลเห็นว่ายังมีความเสี่ยงที่บริษัทอาจละเมิดกฎหมายในอนาคต

แต่ทางด้าน Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple มองว่าคำตัดสินนี้เป็นชัยชนะสำหรับบริษัทและอุตสาหกรรม เนื่องจากศาลลดค่าปรับลงอย่างมาก ขณะที่ Stuart Alderoty ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายกล่าวว่าบริษัทจะเคารพคำตัดสินและจ่ายค่าปรับ 125 ล้านดอลลาร์ โดยหลังจากข่าวนี้ออกมา ราคา XRP พุ่งขึ้นว่า 27% ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อยในปัจจุบัน

 แหล่งที่มา: Southern District of New York

บทวิเคราะห์: คำตัดสินนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของคดียาวนานระหว่าง Ripple และ SEC ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีโดยรวม แม้ว่า Ripple จะต้องจ่ายค่าปรับ แต่การที่ศาลลดจำนวนลงอย่างมากอาจถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับบริษัทคริปโตอื่นๆ ที่เผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล

Dogwifhat นำตลาดเหรียญมีมด้วยการเติบโตกว่า 13%

Dogwifhat (WIF) โทเคนมีมบนเครือข่าย Solana ปรับตัวขึ้น 13% ในหนึ่งวัน แตะระดับสูงสุดที่ 1.77 ดอลลาร์ในวันที่ 6 สิงหาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวหลังจากราคาร่วงลง 63% จากจุดสูงสุดที่ 2.89 ดอลลาร์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView แสดงให้เห็นว่า WIF เพิ่มขึ้น 66% จากจุดต่ำสุดที่ 1.07 ดอลลาร์ในวันที่ 7 สิงหาคม

นักวิเคราะห์ Kyledoops มองว่า WIF ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในระบบนิเวศของ Solana แม้ว่าจะเผชิญกับแรงต้านในการฟื้นตัว ขณะที่นักเทรด CryptoJack เชื่อว่าการลดลงของ WIF ต่ำกว่า 1.5 ดอลลาร์เป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว เนื่องจากราคาได้กลับเข้ามาในกรอบอย่างรวดเร็ว

แหล่งที่มา: CryptoJack

บทวิเคราะห์: การเติบโตของ Dogwifhat แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ยังคงมีอยู่ในตลาดเหรียญมีม แม้จะเผชิญความผันผวนสูง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังเนื่องจากตลาดนี้มีความเสี่ยงสูงและอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นักวิเคราะห์ระบุจริงๆ แล้ว ETH มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ถูกขายไปตั้งแต่ปี 2021

นักวิเคราะห์ได้หักล้างข้อมูลว่า มีกระเป๋าเงินที่ไม่เคลื่อนไหวหลายร้อยบัญชีที่เชื่อมโยงกับแผนหลอกลวงคริปโตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์อย่าง Token Plus ได้เริ่มเคลื่อนย้าย Ether มูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์

บัญชี EmberCN ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลคริปโตของจีนระบุว่าโพสต์ดั้งเดิมของ Lookonchain ไม่ถูกต้อง โดยชี้แจงว่า ETH ส่วนใหญ่ได้ถูกขายไปแล้วในปี 2021 EmberCN ระบุว่าพวกเขาได้ติดตามที่อยู่ที่เชื่อมโยงกับ Plus Token และสรุปว่ามีเพียงประมาณ 25,757 ETH มูลค่า 63.1 ล้านดอลลาร์ที่ถูกโอนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Plus Token ซึ่งเคยเป็นแอพกระเป๋าเงินคริปโตของจีนที่ดำเนินการระหว่างปี 2018 - 2019 เป็นหนึ่งในแผนหลอกลวงคริปโตที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นักสืบพบว่านักลงทุนถูกฉ้อโกงเงินไปถึง 2.9 พันล้านดอลลาร์

 แหล่งที่มา:  Lookonchain

บทวิเคราะห์: กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลในโลกคริปโต โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของเงินจำนวนมาก การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

ผู้สนับสนุนคริปโตเรียกร้อง “กฎที่ชัดเจน” จากรัฐบาล Biden และ Harris

ผู้สนับสนุนคริปโตได้เพิ่มเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบันนำกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจนมาใช้ โดยอ้างว่าจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติอย่างมหาศาลสำหรับประเทศ

ในจดหมายถึงประธานาธิบดี Joe Biden และรองประธานาธิบดี Kamala Harris เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม Crypto Market Integrity Coalition (CMIC) กล่าวว่าการกำหนด “กฎที่ชัดเจน” จะช่วยปกป้องผู้บริโภคชาวอเมริกันจากผู้ที่ไม่หวังดี ส่งเสริมดอลลาร์สหรัฐ และรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของอเมริกา

CMIC เน้นย้ำความสำคัญของสเตเบิลคอยน์ที่อิงกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 97.5% ของตลาดสเตเบิลคอยน์ทั้งหมดมูลค่า 164 พันล้านดอลลาร์ และยังกล่าวถึงพระราชบัญญัติ Financial Innovation and Technology for the 21st Century และ Digital Commodities Act ว่าเป็นร่างกฎหมายสำคัญที่สามารถให้กรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนสำหรับบริษัทสหรัฐฯ

แหล่งที่มา: Cody Carbone

บทวิเคราะห์: การเรียกร้องของ CMIC สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการกฎระเบียบที่ชัดเจนในอุตสาหกรรมคริปโต การมีกรอบกฎหมายที่เหมาะสมอาจช่วยส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโตของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็ปกป้องผู้บริโภคและรักษาความมั่นคงทางการเงิน

ดัชนี Fear and Greed Index : 20

Source: https://alternative.me/crypto/