เทรดฟอเร็กซ์ การเทรด การลุงทุน แพลตฟอร์มการเทรด เรียนรู้การเทรด

เทรด Forex ทองคำ Bitcoin และตราสารอื่น ๆ ออนไลน์

วิเคราะห์หุ้น Johnson & Johnson เก็บไว้ยาว ๆ หรือคราวต้องขาย
ปากกา
2023-04-11 3144

เชื่อว่าแทบทุกบ้าน ต้องรู้จักมักคุ้นกับแบรนด์สินค้าอุปโภค บริโภค Johnson & Johnson ที่ครองตลาดสินค้าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมานาน และเชื่อแน่นอนว่า อย่างน้อยต้องมีผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งภายในบ้านที่เป็นของ Johnson & Johnson หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของ Johnson & Johnson แม้ว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์เครื่องใช้เจ้านี้ในประเทศไทย คนจะนึกถึงเจ้ากระป๋องแป้งสีชมพู แต่ในความเป็นจริงเรื่องราวของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องของ หุ้น Johnson & Johnson และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย


ถ้ามองดูในโลกการลงทุน หุ้น Johnson & Johnson คือหุ้นที่มีสัดส่วนครอบครองตลาดด้าน Personal Care มาอย่างยาวนาน เคียงค้างแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Unilever หรือ P&G เรื่องราวที่เรากำลังจะพูดคุยต่อจากนี้ จะไม่ใช่เรื่องของกระป๋องแป้ง หรือ ครีมอาบน้ำ แต่จะเป็นโอกาสในการทำเงินผ่านทางการลงทุนซื้อขาย หุ้น Johnson & Johnson โดยวิเคราะห์เรื่องราวจาอดีต จนถึงปัจจุบัน หุ้น Johnson & Johnson จะเป็นหุ้นกลุ่ม BlueChip ได้ไหม หรือเป็นหุ้นกลุ่ม VI ชั้นดี หรือว่าเป็นหุ้นติดดอยตัวอันตรายที่ไม่ควรซื้อ แต่ควรเทขายเสียตั้งแต่ตอนนี้ เราจะเข้าทำกำไรกับหุ้น หุ้น Johnson & Johnson มาร่วมวิเคราะห์ ศึกษา ทำความเข้าใจและตัดสินใจไปพร้อมกันครับ 


เนื้อหาบทความ [ซ่อน]
รู้จักบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าเพื่อสุขภาพ Johnson & Johnson

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ Johnson & Johnson ภาพติดตาของคนไทยคงเป็นภาพของกระป๋องแป้งสีชมพู ที่สาว ๆ ชอบเอาไว้ทาหน้า หรือไม่ก็เอาไว้ทาตัวเด็กเป็นแน่ หลายคนคงมองภาพความยิ่งใหญ่ของ Johnson & Johnson ว่าเขาจะยิ่งใหญ่จากกระป๋องแป้งราคา 29 บาทได้อย่างไร คงต้องมาทำความรู้จักกับขาใหญ่แห่งวงการของใช้ภายในบ้านกันซักหน่อยครับ

 

บรัษัท Johnson & Johnson หรือชื่อย่อ JNJ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย โรเบิร์ต วูด จอห์นสัน ลงทุนทำสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆโดยก่อตั้งในเดือนมกราคม ปี 1886 ในปัจจุบัน มี อเล็กซ์ กอร์สกี้ เป็น CEO ในปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของบริษัทกระป๋องแป้งสีชมพูอยู่ที่ เมืองนิวบรูนสวิช รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีบริษัทย่อยมากถึง 250 แห่ง ใน 60 ประเทศทั่วโลก โดยส่งออกผลิตภัณฑ์ด้านการสาธารณสุข การปฐมพยาบาล และสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังประเทศต่าง ๆ 175 ประเทศทั่วโลก โดยมีมูลค่ารายได้โดยรวมจำนวน 82.059 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีพนักงานทำงานร่วมกันทั้งหมดถึง 120,000 คน


จุดกำเนิดของบริษัท Johnson & Johnson เริ่มต้นเมื่อ โรเบิร์ต วูด จอห์นสัน ได้ชักชวนพี่น้องอีกสองท่านได้แก่ เจมส์ วูด จอห์นสัน และ เอ็ดเวิร์ด มีด จอห์นสัน ทำอุปกรณ์ปลอดเชื้อสำหรับการผ่าตัดขึ้นและจดทะเบียนบริษัทสำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตัวนี้ในปี คศ.1886 และจดทะเบียนบริษัท Johnson & Johnson ในปี 1897 และสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวแรกของ Johnson & Johnson ยังคงมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงยุคปัจจุบัน ในชื่อ Band- Aid และนอกจากนั้น ยังคงประกอบธุรกิจในกลุ่มชองเวชภัณฑ์ รวมไปถึงอุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ซึ่งใสนปี 2019-2020 บริษัท Johnson & Johnson ได้เข้าร่วมในการคิดค้นและพัฒนายาต้านไวรัส โควิด-19 อีกด้วย


ข้อมูลสำหรับนักลงทุนที่ต้องการมีหุ้นชั้นนำไว้ในครอบครอบ บริษัท Johnson & Johnson ถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อการระดมจากภาคประชาชนในปี 1943 จนขยายตัวเป็นบริษัทมหาชนในปี 1944 และในปัจจุบันมีบริษัทลูกแยกย่อยต่าง ๆ มากมาย เช่น Janssen Pharmaceutical เป็นต้น จนกระทั่งในปัจจุบัน หุ้นของ บริษัท Johnson & Johnson ถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดในอันดับที่ 37 ของตลาดหุ้น Dow Jones และติดอันดับบริษัทหุ้นยักษ์ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ ทั้ง S&P 100 S&P 500 อีกด้วย เรียกได้ว่าภาพของบริษัทกระป๋องแป้งสีชมพูที่เราคุ้นเคยนั้น มีความยิ่งใหญ่มากกว่าที่เราคิดเลยทีเดียว

 

เพราะว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในระดับโลก มีพื้นฐานการเงินและการลงทุนที่เข้มแข็ง นักลงุทนสามารถมองภาพการลงทุนได้ทั้งในแง่ของการถือหุ้นเพื่อทำกำไร หรือ ถือคอรงไว้เพื่อรับเงินปันผล แต่ถึงกระยนั้น สำหรับประชาชนคนอย่างเรา ที่ไม่มีพอร์ตการลงทุนหุ้นในต่างประเทศ หรือมีทุนเพียงพอในการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท Johnson & Johnson เราจะสามารถจัดสรรพอร์ตการลงทุนของเราได้อย่างไร เพื่อครอบครองและลงทุนร่วมไปกับ บริษัท Johnson & Johnson

จับตาภาพการลงทุน ดูหุ้น บริษัท Johnson & Johnson


แม้ว่าภาพการลงทุนของ บริษัท Johnson & Johnson ในตลาดหุ้น Dow Jones จะปรับตัวลดลงตามสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 แต่ก็ไม่ได้ทรงผลกระทบต่อราคาหุ้นของ บริษัท Johnson & Johnson มากนัก และมรสุมเหล่านี้ไม่ใช่เป็นมรสุมกลุ่มแรกในการสั่นคลอนบัลลังค์การลงทุนของบริษัท Johnson & Johnson เช่นในอดีต เกิดคดีความหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนำมาซึ่งการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของบุคคลผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ทำให้บริษัทถูกฟ้องร้องเพื่อชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล แต่ บริษัท Johnson & Johnson ยังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งบนตลาดหุ้นจนถึงปัจจุบัน และสิ่งที่ถือเป็นการการันตีความยิ่งใหญ่ของหุ้น Johnson & Johnson นั่นคือการกลับเข้ามายืนเป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ทำเงินสูงสุด ในห้วง 12 เดือนแรกนับจากเดือนพฤษภาคม 2020 ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟท์และเฟซบุค โดยกรอบราคาของหุ้น บริษัท Johnson & Johnson ขยับอยู่ในกรอบ 140-150 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น แน่นอนว่าอาจไม่เป็นที่ถูกใจของคอหุ้น DAYTRADE ที่เน้นทำกำไรต่อหุ้นจากการซื้อขายมากนัก แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว การถือครองหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งปั๋งแบบนี้ถือเป็นทางลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

 

จากการพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด รวมไปถึงกราฟการเงินบนโลกตลาดหุ้น ผมยังคงมองว่า การถือหุ้น บริษัท Johnson & Johnson นั้นยังคงเป็นความน่าสนใจในการลงทุน แม้ว่าในปัจจุบัน ราคาของหุ้นทะยานแตะเกือบถึงระดับสูงสุดของราคาหุ้นที่เคยมีการซื้อขายคือ 142 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ถ้ามองย้อนอดีตกลับไป 5 ปี จะเห็นว่าราคาหุ้น Johnson & Johnson ขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ อาจมีการปรับตัวลดลงบ้าง แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงเป็นหุ้นที่ควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุนของเรา โดยมีเหตุผลสำคัญ 4 ประการที่สนับสนุนว่า ทำไมเราจ้องเก็บหุ้น บริษัท Johnson & Johnson เอาไว้ในมือของเรา 


4 เหตุผลดีที่ต้องมีหุ้น Johnson & Johnson ไว้ในพอร์ตการลงทุนของคุณ

จากการวิเคราะห์ของนักลงทุนในหลายสำนัก ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่าหุ้นของ Johnson & Johnson ยังคงเป็นหุ้นที่น่าลงทุนอยู่แม้จะมีคำถามว่า แตะ 140 แล้วยังไหวไหม แต่ส่วนใหญ่ยังคงมองว่า การถือครองหุ้นบริษัท Johnson & Johnson ยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ โดยมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจอยู่ 4 ประการได้แก่

 

  ●    บริษัท Johnson & Johnson ยังเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอาหารและยา ทั้งของสหรัฐและในระดับโลก สิ่งที่เป็น

ตัวทำให้หุ้นของ Johnson & Johnson ถูกจับตามองอีกครั้งหลังจากปรับตัวลดลงในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นั่นคือ การเข้าร่วมลงทุนในการค้นหายาต้านไวรัส รวมไปถึงวัคซีนเพื่อปกป้องจากเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ถือเป็นวิกฤตทางสุขภาพและสาธารณสุขในระดับโลก เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำด้านสุขภาพ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิจัยวัคซีนต้านไวรัสโควิด 19 จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในห้าหุ้นทางอาหารและยาที่น่าจะบตามองในรอบปี  เกิดความน่าเชื่อขยายเป็นวงกว้างกว่า มีโอกาสประสบกความสำเร็จเป็นแน่ ส่งผลให้ราคาของหุ้น Johnson & Johnson ขยับตามขึ้นมาจากที่เคยตกไปต่ำสุดถึง 111 ดอลล่าร์ ขึ้นมาสู่ระดับ 150 ดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลา 1 เดือนระหว่างกลางเดือนมีนาคม - เมษายน 2020 เรียกได้ว่า เป็นแรงลมกระเพื่อมที่หนัก แต่ก็ไม่ได้พัดมูลค่าหุ้นตกลงไปตลอดกาล หุ้น Johnson & Johnson สามารถกลับมายืนอยู่บนฐานราคาปกติได้ในเวลาไม่นานนัก

 

นอกจากผลงานชิ้นโบว์แดงในการร่วมปราบวิกฤตไวรัส โควิด 19 ในระดับโลก Johnson & Johnson ยังคงทำยอดขายในหมวดเวชภัณฑ์ที่เป้ฯหนึ่งในสามของสินค้าหลักของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายเติบโตขึ้นถึง 6.2% โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรือธงหลักของสินค้ากลุ่มนี้คือ ยาต้านมะเร็งที่ยังคงเป็นเวชภัณฑ์จำเป็นต้องใช้ในทุกภูมิภาคทั่วโลก รวมไปถึงยากรักษาโรคพื้นฐานอย่างสะเก็ตเงิน และยาแก้แพ้ ยังคงทำเงินได้อย่างต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมยา ดังนั้นเมื่อมองภาพใหญ่ที่กว้างกว่าบริษัทขายแป้งและแชมพูเด็ก การเติบโตของ Johnson & Johnson ที่คอบคลุมที่สุขอนามัยของบุคคลทั่วไป จึงเป็ฯการครองตลาดสุขภาพแบบที่ใครไม่สามารถตามทันได้เลย

 

  ●    ความคืบหน้าในการผลิตผลิตภัณฑ์ยาใหม่ ๆ ในเครือ Johnson & Johnson การมาของตัวยา Spravato 

(esketamine) สำหรับการรักษาอาการโรคซึมเศร้าที่ดื้อต่อการรักษา และ Balversa (erdafitinib) ยาสำหรับการต่อต้านแพร่กระจายของมะเร็งท่อปัสสาวะ เชื่อว่าตัวยาทั้งสองนี้ จะทำรายได้เข้ามาให้กับทาง Johnson & Johnson สูงถึงหนึ่งพันล้านบาทเลยทีเดียว อีกทั้งการผลิตเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ในการรักษาโรคทั่วไป อาทิ สะเก็ตเงิน รวมไปถึงโรคที่รักษาได้ยากอย่าวมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ทีมงานพัฒนาเวชภัณฑ์ ยังคงผลิตเวชภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเข้าสู่สายการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นขาที่เข็มแข็งที่คอยค้ำยันความยิ่งใหญ่ให้กับ Johnson & Johnson ได้เป็นอย่างดี

 

  ●    การครองตลาดเครื่องมือทางการแพทย์ Johnson & Johnson มีสายการผลิตของเครื่องมิเครื่องใช้ทางการแพทย์

อยู่ด้วย โดยในปีนี้ทางบริษัทต้องการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่าในปีก่อน ๆ ผ่านนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ได้รับการค้นคว้าและผลิตขึ้นมา เรียกได้ว่า ในกลุ่มสินค้าด้าน เวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ถือเป็ฯหัวใจหลักสำคัญในการเจริญเติบโตของ Johnson & Johnson เลยก็ว่าได้

 

  ●    ความน่าเชื่อถือในตลาดหุ้น แม้ว่า Johnson & Johnson จะประสบปัญหาการฟ้องร้องของชดเชยค่าเสียหายจาก

ผลกระทบจากการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปโภคบริโภคอยู่บ้าน เช่นกรณี มะเร็งปาดมดลูกในหญิงชราที่คาดว่าเดจากการทาแป้งจอห์นสัน & จอห์นสันในที่ลับมากว่า 60 ปี จนบริษัทจำต้องจ่ายเงินชดเชยให้ถึง 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อของหุ้น Johnson & Johnson ได้รับผลกระทบ ตกลงมาแม้แต่น้อย โดยความเชื่อมั่นของหุ้น Johnson & Johnson ยังอยู่ในอันดับที่สูงมาก เรียกได้ว่า เป็นหุ้นพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ที่จะหาอะไรมาทำให้สั่นคลอนได้ยากเหลือเกิน 

ซื้อ ขาย ถือไว้ อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดกับการลงทุนหุ้น Johnson & Johnson

ปัจจุบันแห่งความสำเร็จที่ต้องนำมาพิจารณาว่า มีเงินตรงหน้าจะคว้าหุ้น Johnson & Johnson นั่นคือความสำเร็จในการผลิตวัคซีนของ Johnson & Johnson ที่ประกาศว่าจะมีการทดลองใช้ในเดือนกันยายน 2020 คงทำให้ภาวการณ์ซื้อขายหุ้น Johnson & Johnson ชะลอตัวไปบ้างเพื่อรอดูความสำเร็จอันนี้ เชื่อแน่ว่าเมื่อมีการประกาศความสำเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโคโรนา เชื่อแน่ว่าราคาของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะทะยานไปไกลกล่านี้เป็นแน่ แม้ราคาสำหรับนักลงทุนชาวไทย ก็อยู่ในเกณฑ์สูงก็ตาม แต่ถ้าเป็นไปได้ ช่วงเวลานี้คือเวลาที่ควบเก็บ Johnson & Johnson เข้าพอร์ตเอาไว้ แต่คงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาอยู่เสมอ อย่างเข้าไปในจังหวะที่ติดดอยก็เป็นพอ มองว่าสำหรับนักลงทุนชาวไทย การที่หุ้นขยับตัวขึ้นไป 3-5 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นกำไรที่งดงาม ส่วนจะวัดดวงถือต่อไปรอให้วัคซีนสำเร็จ เพื่อให้ราคาดีดขึ้นก็สามารถทำได้ ส่วนตัวมองว่า ขอปรับลดลงซักนิด แล้วรีบถือเอาไว้ เดี๋ยวพลาดรถไฟแห่งความรวยของหุ้น Johnson & Johnson นะครับ


▼ เทรดหุ้นเมริกากับโบรกเกอร์ชั้นนำด้วยค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ ▼

  • บวก/ลบ สูงสุด
  • ฟอเร็กซ์
  • สินค้าโภคภัณฑ์
  • ดัชนี
  • สกุลเงินดิจิตอล

*** ลงทุนมีความเสี่ยง CFD อาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา โปรดทราบว่าท่านจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์


เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำการลงทุนได้ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้นและผู้อ่านไม่ควรใช้บทความนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนใด ๆ Mitrade ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ใด ๆ ตามบทความนี้และไม่รับประกันความถูกต้องของเนื้อหาของบทความนี้

Share this story