ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมง? เจาะลึกเวลาเทรด กลยุทธ์ทำกำไร

ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมง? เป็นคำถามง่ายๆ ที่นักลงทุนไทยต้องรู้ก่อนที่จะโดดไปลุยในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก บทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกถึงเบื้องหลังว่าทำไม มันถึงเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกต้องจับตา ชนิดที่ว่าพลาดแค่นาทีเดียวอาจตกรถหรือหมดตัวได้เลย
สรุปเวลาเปิด-ปิดตลาดหุ้นอเมริกา (แบบจำง่ายๆ)
ตลาดหุ้นอเมริกาที่เราพูดถึงกันหลักๆ ก็คือ New York Stock Exchange (NYSE) และ Nasdaq เวลาทำการมาตรฐานของเขาคือ 9:30 น. ถึง 16:00 น. ตามเวลาตะวันออก (ET) วันจันทร์ถึงศุกร์ และที่สำคัญคือ ไม่มีพักเที่ยง เหมือนบ้านเรานะครับ เทรดกันยาวๆ 6 ชั่วโมงครึ่งเต็มๆ
แต่ตลาดหุ้นอเมริกาเขาจะมีการปรับเวลาตามฤดูกาลที่เรียกว่า Daylight Saving Time (DST) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “เวลาออมแสง” ซึ่งเขาจะ ปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ในช่วงฤดูร้อนเพื่อใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ ผลกระทบต่อนักลงทุนไทยเต็มๆ เลยก็คือตารางชีวิตและตารางเทรดของเราจะเปลี่ยนไปปีละ 2 ครั้ง จำง่ายๆ แบบนี้
ช่วงเวลาปกติ (ประมาณต้นเดือน พ.ย. - ต้นเดือน มี.ค.)
ตลาดเปิด: 21:30 น. (สามทุ่มครึ่ง)
ตลาดปิด: 04:00 น. (ตีสี่) ของอีกวัน
ช่วง Daylight Saving (ประมาณต้นเดือน มี.ค. - ต้นเดือน พ.ย.)
ตลาดเปิด: 20:30 น. (สองทุ่มครึ่ง)
ตลาดปิด: 03:00 น. (ตีสาม) ของอีกวัน
อัปเดตสำหรับปี 2025
เริ่มใช้ Daylight Saving (เทรดเร็วขึ้น) ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2025
กลับสู่เวลาปกติ (เทรดช้าลง) ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2025
เจาะลึกช่วงเวลาแห่งการซื้อขาย
เอาล่ะ ทีนี้มาถึงไฮไลท์ การรู้ว่าตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมงมันไม่พอ? เพราะช่วง 30 นาทีแรกหลังตลาดเปิด (Opening Bell) และ 30 นาทีสุดท้ายก่อนตลาดปิด (Closing Bell) คือช่วงเวลาที่เดือดที่สุด!
มันคือสมรภูมิที่อารมณ์ ความโลภ และความกลัวปะทะกันอย่างรุนแรง ลองนึกภาพตาม ตลอดทั้งคืนในอเมริกา (ซึ่งเป็นเวลากลางวันของเรา) มีข่าวสารเกิดขึ้นมากมาย ทั้งรายงานผลประกอบการบริษัทที่ออกมาหลังตลาดปิดเมื่อวาน, ข่าวเศรษฐกิจที่ประธานาธิบดีทวีต หรือสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างถูกอัดอั้นไว้ รอวันระเบิดออกตอนระฆังเปิดตลาดดังขึ้น
Opening Bell (20:30 / 21:30 น.)
Volume เทรดมหาศาล คำสั่งซื้อขายที่สะสมมาทั้งคืนจะถูกจับคู่ในวินาทีแรกๆ ของตลาด กราฟราคาหุ้นอาจพุ่งทะยานหรือดิ่งเหวในแท่งเดียว!
ความผันผวนสูงสุดขีด ข่าวดีที่ออกมาอาจทำให้หุ้นเปิดกระโดด (Gap Up) หลายเปอร์เซ็นต์ ในทางกลับกัน ข่าวร้ายก็ทำให้เปิดดิ่ง (Gap Down) จนน่าใจหายได้เหมือนกัน ใครเล่น Day Trade ช่วงเวลานี้คือโอกาสทอง แต่ก็เสี่ยงสูงสุดเช่นกัน
สงครามจิตวิทยา อาการ FOMO (Fear Of Missing Out) หรืออาการกลัวตกรถจะเล่นงานนักลงทุนอย่างหนัก เห็นหุ้นเขียวยาวๆ ก็อยากจะกระโดดเข้าไปไล่ราคา กลัวไม่ได้กำไรเหมือนคนอื่น ซึ่งมักจะเป็นกับดักที่ทำให้เจ็บตัวกันมานักต่อนัก
ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในแต่ละช่วงเวลา
ชั่วโมงแรก (Golden Hour): ช่วง 20:30 - 21:30 น. (เวลาไทย) จะเป็นช่วงที่ Volume พีคที่สุด นักลงทุนสถาบัน กองทุนใหญ่ๆ จะเข้ามาซื้อขายกันอย่างดุเดือดเพื่อปรับพอร์ตตามข่าวสาร ทำให้ความผันผวนสูงมาก
ช่วงกลางวัน (Midday Lull): หลังจากนั้น Volume จะค่อยๆ ลดลง เป็นช่วงที่ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา
ชั่วโมงสุดท้าย (Final Countdown): ช่วง 02:00 - 03:00 น. (เวลาไทย) Volume จะกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง นักเทรดจะเข้ามาปิดสถานะของวัน ทำให้เป็นอีกช่วงที่ตลาดคึกคักและผันผวน
จับตาเวลาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ
อีกหนึ่งความลับที่นักลงทุนต้องรู้คือ “เวลานัด” ของการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งมักจะประกาศออกมาก่อนตลาดเปิดไม่นาน และตัวเลขเหล่านี้มักสั่นสะเทือนตลาดอย่างรุนแรง ตัวอย่างเวลานัดสำคัญ (ตามเวลาไทย) เช่น
19:30 น. ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI/PCE), ยอดค้าปลีก (Retail Sales), หรือตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims)
20:45 น. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)
21:00 น. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence)
ลองจินตนาการว่า 21:00 น. ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก นักลงทุนทั่วโลกเห็นพร้อมกันว่า “เฮ้ย เศรษฐกิจไม่ดีนี่หว่า” พอ 21:30 น. ตลาดเปิดเท่านั้นแหละ… แรงเทขายถล่มทลาย ใครที่ไมรู้เรื่องราวเหล่านี้ ก็อาจจะงงว่าทำไมอยู่ๆ หุ้นในพอร์ตถึงแดงเถือกโดยไม่มีสาเหตุ นี่แหละครับคือเหตุผล!
ช่วงเวลาพิเศษ Pre-Market และ After-Hours
ถ้าคิดว่าการเทรดจบแค่ตอนตีสามตีสี่...คุณคิดผิด เพราะตลาดอเมริกายังมี รอบพิเศษ (Extended Hours) ที่ข่าวใหญ่ๆ และดราม่าผลประกอบการมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้แหละ
Pre-Market (ก่อนตลาดเปิด) โดยประมาณ 15:00 - 20:30 น. (ช่วง DST) เป็นช่วงที่นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้ โดยอ้างอิงจากข่าวสารที่ออกมา แต่สภาพคล่องจะน้อยกว่าช่วงตลาดปกติมาก ราคาอาจเหวี่ยงแรงและคำสั่งอาจไม่ถูกจับคู่ทันที
After-Hours (หลังตลาดปิด) โดยประมาณ 03:00 - 07:00 น. (ช่วง DST) เป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ มักจะ ประกาศผลประกอบการ (Earnings Report) ที่ทุกคนรอคอย หากงบออกมาดีกว่าคาด ราคาหุ้นใน After-Hours ก็อาจจะพุ่งไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์
การเทรดในช่วงเวลาพิเศษนี้เปรียบเสมือนการได้แอบดูข้อสอบก่อนใคร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
เลือกกลยุทธ์ให้เหมาะกับช่วงเวลา
เมื่อรู้แล้วว่าตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมง การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบได้อีก
ช่วงผันผวนสูง (ชั่วโมงแรกและชั่วโมงสุดท้าย) ในช่วงที่ตลาดคึกคักและมีความผันผวนสูง กลยุทธ์ที่เหมาะคือการเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) และการเทรดแบบทะลุกรอบ (Breakout) โดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เพื่อยืนยันทิศทางแนวโน้ม หรือใช้ RSI เพื่อดูความแรงของโมเมนตัม การตัดสินใจต้องรวดเร็วและมีจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ที่ชัดเจน
ช่วงผันผวนต่ำ (ช่วงกลางวัน) เป็นช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หรือที่เรียกว่า Sideways กลยุทธ์ที่ได้ผลดีคือการเทรดในกรอบราคา (Range Trading) การใช้แนวรับ-แนวต้าน (Support & Resistance) เป็นหลักในการหาจุดเข้าซื้อและขาย หรือใช้ Stochastic Oscillator เพื่อหาจังหวะการกลับตัวในกรอบสั้นๆ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูงมากนัก

บทสรุป ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมง
การตอบคำถามว่า ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมง? ในมุมของนักลงทุนที่เอาจริงเอาจัง มันจึงไม่ใช่แค่ตัวเลข 20:30 หรือ 21:30 น. แต่มันคือการเข้าใจไดนามิกทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบๆ เวลานั้น เมื่อคุณเข้าใจแล้ว เวลาเปิด-ปิดของตลาดหุ้นอเมริกาจะไม่ใช่แค่ตัวเลขบนนาฬิกาอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็น “สัญญาณ” บอกเวลาเข้าทำศึก ที่คุณพร้อมทั้งข้อมูลและกลยุทธ์เพื่อไปคว้าโอกาสในตลาดที่ใหญ่และน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก แล้วคุณล่ะครับ… พร้อมจะลุยในสมรภูมิตอนสองทุ่มครึ่งคืนนี้แล้วหรือยัง?
ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดกี่โมงตามเวลาประเทศไทย?
โดยปกติ ตลาดหุ้นอเมริกาจะเปิด-ปิดในเวลาที่ต่างกันในแต่ละช่วงของปีเนื่องจากการปรับเวลาออมแสง (Daylight Saving Time) โดยช่วงเวลาปกติ (ประมาณ พ.ย. - มี.ค.) เปิด 21:30 น. และปิด 04:00 น. ส่วนช่วง Daylight Saving (ประมาณ มี.ค. - พ.ย.) เปิด 20:30 น. และปิด 03:00 น
สามารถซื้อขายนอกเวลาทำการปกติได้หรือไม่?
ได้ โดยจะมีช่วงพิเศษเรียกว่า Pre-Market (ก่อนตลาดเปิด) และ After-Hours (หลังตลาดปิด) ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ แต่จะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงเวลาปกติ
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน