TradingKey – เมื่อเทคโนโลยี AI แบบโอเพนซอร์ส ราคาถูกและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ยังคงท้าทายเหตุผลในการลงทุนมหาศาลใน AI Meta บริษัทแม่ของ Facebook จึงสร้างเส้นทางพาณิชย์ที่เป็นไปได้ด้วยกลยุทธ์ “AI + โฆษณา” ซึ่งนักลงทุนตอบรับอย่างชัดเจน หุ้น Meta ฟื้นตัวเกือบ 40% จากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
วันที่ 16 มิถุนายน หุ้น Meta เพิ่มขึ้น 2.90% ปิดที่ 702.12 ดอลลาร์ฯ นำตลาดกลุ่ม “Magnificent Seven” ในสหรัฐฯ โดยตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน หุ้น Meta พุ่งขึ้น 19.92% หรือราว 40% เทียบกับจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน
Meta ประกาศว่า WhatsApp จะเริ่มแสดงโฆษณาในส่วน “Updates” ซึ่งออกแบบมาเพื่อรบกวนประสบการณ์การส่งข้อความส่วนตัวให้น้อยที่สุด นับเป็นการเบนเข็มอย่างสิ้นเชิงจากคำมั่นสัญญา “ไม่มีโฆษณา” ในอดีตของ WhatsApp และเปิดช่องทางรายได้ใหม่ให้ Meta
ผู้บริหารของ WhatsApp ระบุว่า การเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งนี้ตอบโจทย์ความต้องการโฆษณามาโดยตลอด ในขณะเดียวกันก็ยังคงเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ปัจจุบัน WhatsApp มีผู้ใช้งานรายเดือน 3 พันล้านราย ครอบคลุม 200 ล้านบัญชีธุรกิจ และมีผู้เข้าชมหน้า Updates วันละ 1.5 พันล้านครั้ง
เมื่อตลาดเริ่มตั้งคำถามถึงศักยภาพการสร้างรายได้จาก AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี Meta ยังคงเดินหน้าลงทุนใน AI โดยเฉพาะโฆษณาขับเคลื่อนด้วย AI โดยในงบไตรมาส 1/2025 Meta ได้ปรับเพิ่มงบลงทุนตลอดปีเป็น 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่ง CEO มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยืนยันหนักแน่นว่าจะทุ่มลงทุนในปัญญาประดิษฐ์อย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญในวงการกองทุนมองว่า งบลงทุนก้อนโตเช่นนี้อาจก่อความกังวลบ้าง แต่มั่นใจว่า Meta สามารถใช้ AI ผลักดันการเติบโตของรายได้และเร่งประสิทธิภาพได้
ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Jensen Investment Management เชื่อว่าการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลผู้ใช้ในการสร้างรายได้ เป็นแอปพลิเคชัน AI ที่มีแนวโน้มสำเร็จสูงสุด ทำให้ Meta กลายเป็นฝ่ายรุก ขณะที่ Google ต้องถอยร่น เนื่องจากส่วนแบ่งตลาดการค้นหาอาจถูกสั่นคลอนโดยบริการ AI อย่าง ChatGPT
นักวิเคราะห์ประเมินว่า เครื่องมือสร้างสรรค์ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (generative AI) อาจช่วยหนุนการเติบโตของรายได้จากโฆษณาของ Meta เพิ่มขึ้น 1–2 จุดเปอร์เซ็นต์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และอาจแตะระดับเพิ่มได้ถึง 4 จุดเปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030