วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 ก.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 10 กรกฏาคม 2568 ราคาทองคำ XAUUSD กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ $3,325 ได้สำเร็จ สาเหตุหลักๆ มาจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังแข็งค่าอยู่ก็ตาม แต่หัวใจสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองหนีไม่พ้นท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในปี 2025 ซึ่งดูเหมือนว่าภายในคณะกรรมการเองก็เริ่มมีเสียงที่แตกต่างกันออกมาให้ได้ยินบ้างแล้ว ประกอบกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ยังคงร้อนระอุ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดในตอนนี้
ส่องท่าทีเฟด...เสียงแตกแต่ตลาดมองบวก?
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้คือรายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุด ที่เปิดเผยออกมาว่ากรรมการส่วนใหญ่ยังคงมองว่าการลดดอกเบี้ยภายในปีนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ มีกรรมการอยู่สองสามเสียงที่เปิดกว้าง พร้อมที่จะพิจารณาลดดอกเบี้ยได้เร็วที่สุดในการประชุมเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้เลย หากข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อย่าง Adam Button จาก Forexlive.com ชี้ให้เห็นว่า เสียงที่อยากจะรีบลดดอกเบี้ยนั้นยังเป็นเสียงส่วนน้อย และยังมีกรรมการอีกหลายคนที่มองว่ายังไม่ควรลดดอกเบี้ยด้วยซ้ำ ทำให้ภาพรวมของเฟดยังคงต้องรอความชัดเจนต่อไปอีกสักพัก
ทางด้าน Jeffrey Roach หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก LPL Financial ก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า รายงานการประชุมครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีที่เป็นกลางของเฟดแต่อย่างใด เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวมยังคงแข็งแกร่งพอที่จะประคองตัวไปได้ ทำให้เฟดมีเวลาที่จะประเมินผลกระทบจากนโยบายภาษีต่างๆ มากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดไม่ได้คาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะไม่มีการลดดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย ซึ่งถึงแม้ข่าวจากเฟดจะยังไม่ชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การส่งสัญญาณถึงโอกาสในการลดดอกเบี้ยในอนาคต ก็ถือเป็นปัจจัยบวกที่คอยพยุงราคาทองคำเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงไปแรง
ปัจจัยหนุนรอบด้าน...ไม่ใช่แค่เฟดที่ดันราคาทอง
นอกเหนือจากเรื่องดอกเบี้ยของเฟดแล้ว ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยอื่นๆ อีกหลายด้าน โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ประธานาธิบดี Donald Trump ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายภาษีกับคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมราว 20%-30% กับหลายประเทศ และยังส่งสัญญาณว่าจะเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% กับประเทศที่มีนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ และหันไปจับมือกับกลุ่ม BRICS สถานการณ์เหล่านี้สร้างความกังวลในตลาดและกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ยืนยันเทรนด์นี้ได้เป็นอย่างดี โดยรายงานว่ากองทุน ETF ทองคำทั่วโลกมียอดซื้อสุทธิเข้ามามหาศาลในเดือนมิถุนายนถึง 74.6 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการพลิกกลับจากการขายสุทธิในเดือนก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกองทุนในอเมริกาเหนือที่นำโดยความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากความขัดแย้งที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ กองทุนในยุโรปและเอเชียก็มียอดซื้อสุทธิเข้ามาเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกต่างเชื่อมั่นว่าความไม่แน่นอนต่างๆ และแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้
มุมมองนักวิเคราะห์ ทองแค่พักตัว เป้าต่อไปอยู่ตรงไหน?
หลังจากที่ราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงครึ่งแรกของปี หลายคนอาจเริ่มสงสัยว่าราคาทองคำมาถึงจุดสูงสุดแล้วหรือยัง? Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ให้คำตอบที่น่าสนใจว่ายังไม่ถึงเวลาหยุด
เขาเชื่อว่าช่วงที่ราคาทรงๆ ตัวอยู่ตอนนี้เป็นเพียงช่วงพักฐานเพื่อสะสมกำลังเท่านั้น ปัจจัยหลักๆ ที่เคยดันราคาทองคำให้พุ่งทะยานในช่วงที่ผ่านมายังคงอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก, ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์, นโยบายการค้าและคว่ำบาตร, ความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการคลังของสหรัฐฯ และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์
Hansen ชี้ว่าสิ่งที่อาจจะเข้ามาเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังคือ ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่จะกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนอย่างทองคำ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน ETF ให้ไหลกลับเข้ามามากขึ้น
ในทางเทคนิค Ole Hansen มองว่าราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพื่อสร้างฐานอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $3,500 เล็กน้อย โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ $3,245 และแนวรับถัดไปที่ $3,120 ตราบใดที่ราคายังไม่หลุดแนวรับสำคัญลงไป เขายังคงมีมุมมองที่เป็นบวกและเชื่อว่าการพักตัวครั้งนี้เป็นเพียงการหยุดชั่วคราว ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของขาขึ้นรอบนี้แต่อย่างใด
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ภาพรวมของราคาทองคำดำเนินไปตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้ในวันก่อน โดยราคาได้ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ $3,293 (Fibonacci 38.2%) ตามที่ประเมินไว้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแนวรับดังกล่าวได้ทำงานอย่างแข็งแกร่งและสามารถหยุดยั้งแรงเทขายเอาไว้ได้สำเร็จ ทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวฟื้นขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา จนกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ระดับราคาปัจจุบันประมาณ $3,324
การฟื้นตัวครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะราคาไม่เพียงแต่ดีดตัวขึ้นจากแนวรับเท่านั้น แต่ยังสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (EMA 12 และ 26) ได้อีกครั้ง และกำลังเผชิญหน้ากับด่านทดสอบที่สำคัญที่สุด นั่นคือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว EMA 200 (เส้นสีส้ม) บริเวณ $3,325-$3,329 ซึ่งเป็นโซนแนวต้านหลักที่กดดันราคาเอาไว้ในปัจจุบัน
การฟื้นตัวครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากสัญญาณบวกของดัชนีชี้วัดทางเทคนิค โดยดัชนี RSI ได้ดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งและกำลังจะข้ามผ่านระดับ 50 ขึ้นไป สะท้อนถึงโมเมนตัมที่เริ่มเปลี่ยนจากฝั่งขายกลับมาเป็นฝั่งซื้อ ขณะที่ Stochastic RSI ก็ได้ส่งสัญญาณซื้อที่ชัดเจนหลังจากตัดขึ้นจากโซนขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งเป็นการยืนยันถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาหนุนราคา
สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จุดชี้วัดสำคัญที่สุดคือการที่ราคาจะสามารถทะลุและยืนเหนือแนวต้านโซน $3,325-$3,329 ที่มีเส้น EMA 200 ขวางอยู่ได้หรือไม่
หากมีแรงซื้อมากพอที่จะผลักดันให้ราคาผ่านด่านนี้ไปได้สำเร็จ จะถือเป็นการเปลี่ยนโมเมนตัมกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะสั้นอย่างชัดเจน และเป็นการเปิดทางให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ $3,345 ได้อีกครั้ง
แต่ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญนี้ไปได้และถูกแรงขายกดดันให้ร่วงลงมาอีกครั้ง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะย่อตัวกลับลงไปทดสอบความแข็งแกร่งของแนวรับที่ $3,293 อีกรอบ ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาในบริเวณ $3,325-$3,329 จึงเป็นจุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้นนี้ได้อย่างชัดเจน
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,293
$3,256
$3,227
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,325
$3,344
$3,372
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน