CATL ระดมทุน 4.6 พันล้านดอลลาร์ในฮ่องกง ขับเคลื่อนความหวังพลังงานสะอาด
สรุปสาระสำคัญ:
- CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน เปิดการขายหุ้นในตลาดฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ระดมทุนได้ถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- หุ้น CATL แสดงความแข็งแกร่งด้วยการพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 14% สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพทางเทคโนโลยี
- แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันจากประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ CATL เชื่อว่าสมรรถภาพในการดำเนินธุรกิจไม่สะเทือนจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ
TradingKey - CATL หรือ Contemporary Amperex Technology Co. Ltd. ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสามารถระดมทุนได้กว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง) หรือราว 1.5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ราคาหุ้นยังพุ่งสูงสุดถึง 14% แตะที่ 299.80 ดอลลาร์ฮ่องกง
นักวิเคราะห์คาดว่า CATL ยังมีโอกาสขยายวงเงินการระดมทุนเพิ่มอีกสูงสุดถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หากบริษัทใช้สิทธิในการเพิ่มทุนเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดระดมทุนรวมภายในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ปัจจุบันหุ้นของ CATL ในตลาดฮ่องกงแสดงให้เห็นค่าราคาซื้อขายที่ประมาณ 17 เท่าของกำไร ณ ขณะนั้น และมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% ตามการประเมินของนักวิเคราะห์
จอห์นสัน หว่าน หัวหน้าฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรมจีนจาก Jefferies ชี้ว่า “นี่คือการลงทุนที่ไม่ต้องคิดมาก” ขณะเดียวกัน คารีน เฮิร์น หุ้นส่วนจาก East Capital Group กล่าวว่า CATL เป็นแชมป์ในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและเป็นตัวแทนความสำเร็จของจีนในฐานะผู้นำด้านพลังงานสีเขียวระดับโลก
แม้ว่าการตั้งราคาหุ้นที่ระดับ 263 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น จะเสนอส่วนลดต่ำกว่าการจดทะเบียนครั้งที่สองโดยบริษัทอื่นๆ ในจีน ซึ่งปกติแล้วจะมีราคาอยู่ต่ำกว่า ตลาดแผ่นดินใหญ่ประมาณ 25% ตามข้อมูล Hang Seng Stock Connect China AH Premium แต่หุ้น CATL ยังสามารถมีราคาที่สูงกว่าในตลาดเซินเจิ้นซึ่งลดลงในวันเดียวกัน ทำให้สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพทางเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทันสมัย แม้ว่า บริษัทจะเผชิญกับแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และถูกขึ้นบัญชีดำโดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ที่อ้างถึงความเกี่ยวพันกับกิจกรรมทางทหาร แต่บริษัทได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด
CATL เป็นหนึ่งในบริษัทจีนล่าสุดที่ออกมาระดมทุนแม้ว่าจะมีมาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวจะน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทรถยนต์รายใหญ่อื่น ๆ เช่น Toyota, Stellantis และ General Motors ที่เตือนเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ
บทความแนะนำ
