วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 มิ.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เปิดตลาดมาวันนี้ บอกเลยว่าสาวกทองคำได้เฮกันลั่น! เพราะราคาทองคำยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ดีดตัวขึ้นมาจ่อๆ แนวต้านสำคัญที่หลายคนจับตาแถว $3,439 เข้าไปทุกที ล่าสุดราคาซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ $3,427 บอกเลยว่าสถานการณ์ตอนนี้มันส์หยดติ๋งจริงๆ

สาเหตุหลักที่ดันราคาทองคำให้พุ่งทะยานขนาดนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเอง ที่ปล่อยข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแต่ละตัว ทำเอานักลงทุนต้องร้อง! ทั้งตัวเลขเงินเฟ้อที่ดูจะใจเย็นลงกว่าที่คาด และตัวเลขคนว่างงานที่ยังดูน่าเป็นห่วง

ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) อาจจะทนแรงกดดันไม่ไหว ต้องยอมลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คิด ซึ่งแน่นอนว่าการลดดอกเบี้ยมันคือของหวานชั้นดีสำหรับราคาทองคำเลยทีเดียว

ยังไม่หมดแค่นั้น สถานการณ์ในตะวันออกกลางก็กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง มีข่าวแว่วๆ มาว่าอิสราเอลกำลังพิจารณาใช้ปฏิบัติการทางทหารกับอิหร่านในเร็วๆ นี้ ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดเข้าไปอีก ทำให้นักลงทุนต้องวิ่งหาหลุมหลบภัย ซึ่งทองคำก็คือหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยสุดคลาสสิกที่ทุกคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ นั่นเอง

ส่องตัวเลขสหรัฐฯ แบบจัดเต็ม ทำไมทองคำถึงพุ่ง?

ถ้าจะให้เจาะลึกกันแบบเน้นๆ ว่าทำไมทองคำถึงคึกคักเบอร์นี้ ต้องไปดูตัวเลขเด็ดๆ ที่เพิ่งประกาศออกมาสดๆ ร้อนๆ เลย

ตัวแรกคือ ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ PPI ที่เปรียบเสมือนตัวชี้นำเงินเฟ้อล่วงหน้า ปรากฏว่าตัวเลขเดือนพฤษภาคมออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้เยอะมาก เรียกว่าทำเอาตลาดเซอร์ไพรส์กันเป็นแถบๆ เพราะมันเป็นสัญญาณว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตเริ่มแผ่วลงแล้ว ซึ่งเมื่อรวมกับตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วดูดีเหมือนกัน ก็ยิ่งเป็นการส่งซิกแรงๆ ไปถึงเฟดว่า “ได้เวลาลดดอกเบี้ยแล้วนะ”

นอกจากเรื่องเงินเฟ้อแล้ว อีกหนึ่งตัวเลขที่สร้างความฮือฮาไม่แพ้กันก็คือ จำนวนคนยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงปรี๊ดเกิน 240,000 รายเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน แถมค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ยังพุ่งไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2023 อีกด้วย 

ยังไม่พอ! ตัวเลขผู้ที่ยังคงรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องก็พุ่งสูงสุดในรอบหลายปีเช่นกัน ภาพรวมทั้งหมดนี้มันตะโกนออกมาดังๆ เลยว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ กำลังสูญเสียโมเมนตัมอย่างเห็นได้ชัด และความอ่อนแอของตลาดแรงงานนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งแรงส่งสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำแข็งแกร่งและยืนเหนือระดับ $3,300 ได้อย่างสบายๆ

ทางด้านนักวิเคราะห์อย่าง Bill Adams จาก Comerica Bank ถึงกับบอกว่าข้อมูลที่ออกมามันน่าประหลาดใจ เพราะเขาคิดว่าตัวเลขน่าจะร้อนแรงกว่านี้จากผลของกำแพงภาษี แต่เมื่อมันออกมาเย็นเจี๊ยบแบบนี้ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่เฟดอาจจะต้องยอมกลับลำมาลดดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ก็เป็นได้

เม่าอเมริกันยังไม่ตื่น! แล้วใครกันที่ไล่ซื้อทองคำจนราคาพุ่ง?

เห็นราคาทองคำพุ่งเป็นว่าเล่นแบบนี้ หลายคนอาจจะคิดว่านักลงทุนรายย่อยในอเมริกาคงแห่กันเข้ามาซื้อทองกันฝุ่นตลบ แต่ช้าก่อน! ความจริงมันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

CEO ของบริษัทจัดการกองทุน ETF ทองคำยักษ์ใหญ่สองแห่งอย่าง Jan Van Eck จาก VanEck และ John Ciampaglia จาก Sprott ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า นักลงทุนอเมริกันแทบจะยังไม่ได้กระโดดเข้ามาในตลาดทองคำเลยด้วยซ้ำ

Jan Van Eck บอกว่านี่มันเพิ่งจะ “ยกแรก” ของเกมส์เท่านั้น เขายังเห็นเงินไหลออกจากกองทุน ETF ทองคำในอเมริกาอยู่เลย ซึ่งเขาตีความว่ามันไม่ใช่การเทขายทำกำไร แต่เป็นการที่คนที่เคย Short Sell รีบซื้อคืนเพื่อปิดสถานะของตัวเองมากกว่า แล้วคำถามคือ...ถ้าไม่ใช่รายย่อยอเมริกัน แล้วใครกันล่ะที่ไล่ซื้อทองคำเป็นบ้าเป็นหลัง?

คำตอบก็คือ “ธนาคารกลางทั่วโลก” โดยมีพี่ใหญ่อย่างจีนเป็นหัวหอก John Ciampaglia ชี้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “De-dollarization” หรือการลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าและความเสี่ยงต่างๆ ที่มาจากฝั่งอเมริกา ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจสุดๆ ในการกระจายความเสี่ยง

ศึกชิงบัลลังก์ Safe Haven! ทองคำจะไปต่อหรือพอแค่นี้?

มาถึงจุดนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่าแล้วอนาคตของราคาทองคำจะเป็นอย่างไรต่อไป? ตอนนี้ต้องบอกว่าแนวต้านสำคัญที่ระดับ $3,500 ถือเป็นด่านสุดหินที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าทองคำอาจต้องการสัญญาณที่ชัดเจนมากๆ จากเฟดว่าจะลดดอกเบี้ยแน่ๆ ถึงจะมีแรงพอที่จะทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ซึ่งเราคงต้องไปรอลุ้นกันในการประชุมเฟดครั้งถัดไปในวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ ว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคู่แข่งที่น่าจับตามองโผล่ขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งสินทรัพย์ปลอดภัย นั่นก็คือ “ทองคำดิจิทัล” หรือ Bitcoin นั่นเอง

มีข้อมูลที่น่าสนใจมากคือ ปัจจุบันมีชาวอเมริกันที่เป็นเจ้าของ Bitcoin มากถึง 50 ล้านคน เทียบกับคนที่เป็นเจ้าของทองคำซึ่งมีอยู่ 37 ล้านคน ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าเงินร้อนๆ และนักลงทุนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยมองว่า Bitcoin ก็เป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่ไม่ต่างจากทองคำ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเงินก็ไหลเข้าไปใน Bitcoin อย่างมหาศาล

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคู่แข่งสุดซ่าส์โผล่ขึ้นมา แต่บรรดา CEO ใหญ่ๆ ก็ยังเชื่อมั่นว่าวันของทองคำยังไม่จบง่ายๆ พวกเขายังมองว่านี่เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ และยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะวิ่งไปได้อีกไกล งานนี้บอกเลยว่าห้ามกระพริบตาเด็ดขาด!

เมื่อวานเราทิ้งท้ายกันไว้ว่าเกมได้เปลี่ยนเป็นโหมด “กระทิงบุก” เต็มตัว และเป้าหมายต่อไปคือ $3,410 กับ $3,439 วันนี้ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง เพราะกระทิงของเราไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย

จากภาพกราฟล่าสุด บอกเลยว่าโคตรเดือด! ราคาทองคำไม่เพียงแค่ทะลุแนวต้าน $3,410 ที่เราคุยกันไว้ แต่ยังระเบิดพลังพุ่งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนไม่มีอะไรกั้น จนตอนนี้ราคามาอยู่ที่หน้าด่าน $3,427 ซึ่งมีเป้าหมายคือแนวต้านสุดแกร่งที่ $3,439 นั่นเอง

แท่งเทียนสีเขียวแท่งล่าสุดที่เห็นในกราฟ 4 ชั่วโมงนั้นเป็นการประกาศรู้ว่า “รอบนี้ข้าเอาจริง” โมเมนตัมฝั่งซื้อที่เข้ามารุนแรงและชัดเจนมาก ดันราคาวิ่งฉีกหนีเส้นค่าเฉลี่ย (EMA) ทุกเส้น

แต่เดี๋ยวก่อน! มีจุดที่ต้องจับตาดูให้ดีเหมือนกัน ถ้าเราไปมองอินดิเคเตอร์จะเห็นสัญญาณบางอย่างที่น่าสนใจมากๆ เริ่มจาก RSI ที่ตอนนี้กำลังพุ่งทะยานเข้าสู่โซน Overbought หรือ “โซนซื้อมากเกินไป” การที่ RSI ยืนอยู่เหนือระดับ 70 แบบนี้ มันฟ้องว่าตลาดตอนนี้ร้อนแรงสุดขีด แรงซื้ออัดแน่นเข้ามาจนอาจจะถึงจุดที่ต้องมีการพักหายใจกันบ้าง

ส่วน Stoch RSI ยิ่งไปกว่านั้นอีก คือตอนนี้พี่แกวิ่งขึ้นไปติดเพดาน แช่อยู่ในโซน Overbought มาสักพักแล้ว นี่คือสัญญาณเตือนภัยที่บอกเราว่าแรงซื้อกำลังจะหมด หรืออย่างน้อยก็ต้องมีการย่อตัวเพื่อสะสมพลังกันใหม่

ดังนั้น ภาพรวมในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่โคตรวัดใจ! ตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่แนวต้าน $3,439 ว่ากระทิงจะยังมีแรงฮึดสุดท้ายหรือไม่ หากพลังซื้อยังคงบ้าคลั่งต่อเนื่องและสามารถยืนเหนือ $3,439 ได้อย่างแข็งแกร่ง เป้าหมายต่อไปที่เราจะเห็นก็คือการพุ่งทะยานไปทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ระดับ $3,500

แต่ในทางกลับกัน หากแนวต้าน $3,439 แข็งแกร่งเกินไป ประกอบกับสัญญาณ Overbought จากอินดิเคเตอร์ที่เตือนเราอยู่ มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้เห็นการย่อตัวหรือเทขายทำกำไรระยะสั้นลงมา ซึ่งแนวรับแรกที่ราคาจะถอยลงมาตั้งหลักก็คือแนว $3,410 ที่เพิ่งผ่านมาซึ่ง ถ้าเอาไม่อยู่จริงๆ ก็อาจจะไหลลงมาพักที่ฐานถัดไปแถว $3,372 ได้เหมือนกัน

สรุปตอนนี้คือ “กระทิงคลั่ง” ต้องลุ้นว่าแรงจะหมดก่อนหรือกำแพงจะพังก่อนกัน จุดชี้เป็นชี้ตายคือ $3,439 ถ้ายืนเหนือได้มั่นคงก็เตรียมตัวลุ้นแตะ $3,500 ได้เลย แต่ถ้าไม่ผ่านก็เตรียมตัวรับแรงย่อ!

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,410

• $3,372

• $3,322

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,439

• $3,480

• $3,500