วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 9 ม.ค. 2567
![coverImg](https://tw.mitrade.com/cms_uploads/img/20230817/98fe6ab2b5c9401698576099544e7b84.jpeg)
ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,033 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,038.2
ราคาทองคำฟื้นขึ้นมาได้เล็กน้อยหลังจากราคาปรับตัวลงอีกครั้งเมื่อวันที่ผ่านมา ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจขยายจุดยืนที่เข้มงวดออกไปอีกทำให้เกิดแรงกดดันในการขายทองคำในระยะสั้น
รายงาน Nonfarm Payrolls (NFP) ในวันศุกร์ชี้ไปที่ตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงมีความยืดหยุ่นและกดดันให้นักลงทุนต้องลดความคาดหวัง ในทางกลับกันปัจจัยนี้ยังคงให้การสนับสนุนพันธบัตรคลังสหรัฐที่ยกระดับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเป็นแรงส่งเสริมสำหรับดอลลาร์สหรัฐและกดดันทองคำ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Raphael Bostic ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ Fed จากแอตแลนต้า ระบุว่าจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง ความคิดเห็นของเขาคือการคงนโยบายการเงินที่ตึงตัวไว้ แม้ว่าความเสี่ยงโดยรวมในระบบเศรษฐกิจจะมีความสมดุลระหว่างความเสี่ยงที่เกิดจากราคาที่สูงขึ้นกับความเสี่ยงที่เกิดจากราคาที่สูงขึ้น รวมถึงการเติบโตของการจ้างงานที่ช้าลง
“ถ้าให้พูดตามตามผมมีความเห็นว่าควรจะเข้มงวดกว่านี้” Bostic กล่าวในความคิดเห็นที่งานเลี้ยงอาหารในแอตแลนต้า
เขาต้องการให้แน่ใจว่าอยู่ในจุดนั้นจริงๆ ในแง่ของการคืนอัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ของ Fed ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ความคิดเห็นของเขาขัดแย้งกับความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม
Bostic ย้ำมุมมองที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตรารวมสองครั้งภายในสิ้นปี 2024 และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่สาม
แต่เขายังมองข้ามความเสี่ยงของความจำเป็นที่ใกล้จะเกิดขึ้นในการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อรักษาเศรษฐกิจที่ดูเหมือนว่าจะยังมีโมเมนตัมในตัวเอง
รายงานการประชุมของ Fed เมื่อวันที่ 12-13 ธันวาคม ระบุว่าผู้กำหนดนโยบายบางรายรู้สึกว่าธนาคารกลางอาจกำลังเข้าใกล้จุดที่ความเข้มงวดเพิ่มเติมในการควบคุมราคาอาจส่งผลเสียต่อการว่างงานที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผมไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่เราอยู่ตอนนี้” Bostic กล่าว
แต่เขายังรู้สึกด้วยว่าความเสี่ยงของความเป็นไปได้นั้นเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และกล่าวว่าเขาพยายามจับตาดูสัญญาณที่บ่งบอกว่าความแข็งแกร่งของตลาดงานกำลังถดถอยให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
“เราต้องอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลง” Bostic กล่าว และเขากำลังมุ่งความสนใจไปที่การสนทนากับผู้นำทางธุรกิจในประเด็นต่างๆ เช่น มีการวางแผนการเลิกจ้างหรือไม่ แต่ “เรายังไม่เห็นสิ่งนั้นในตอนนี้” เขากล่าว
ถึงแม้ราคาทองคำจะยังคงสามารถยืนเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่ราคาก็ถูกดึงขึ้น ดึงลงเนื่องจากตลาดพยายามปรับความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจได้เร็วเพียงใด
รายงานการประชุม FOMC ประจำเดือนธันวาคม ซึ่งดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าเฟดไม่รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ทองคำเกิดการเทขาย จากนั้นในเช้าวันศุกร์ รายงาน Nonfarm Payrolls ที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ได้ผลักดันให้ทองคำแตะระดับต่ำสุดที่ 2,025 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อมา ISM Services PMI ที่แย่กว่าที่คาดได้ผลักดันให้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่สูงกว่า 2,063 ดอลลาร์
การสำรวจทองคำรายสัปดาห์ของ Kitco News ล่าสุดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยครึ่งหนึ่งคาดหวังว่าทองคำจะยังคงสามารถเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ ในขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดสองในสามมีทัศนคติเชิงบวกต่อแนวโน้มระยะสั้นของทองคำ
James Stanley นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ Forex.com คิดว่าราคาทองคำมีจะฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ “เราอยู่ในจุดสำคัญของแนวต้านระยะยาว และไม่มีข้อสงสัยเลยว่าทองคำจะสามารถสร้างความชัดเจนได้ในปีนี้ แต่แค่สงสัยว่าจะเป็นช่วงไหนของปี โดย Core CPI ที่คาดว่าจะมาที่ 4%”
Adrian Day ประธานบริษัทจัดการสินทรัพย์ Adrian Day ได้เปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นต่อราคาทองคำเป็นภาวะกระทิง
“รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด แต่เห็นได้ชัดว่าทองคำกลับมองข้ามไป” เขากล่าว “ธนาคารกลางสหรัฐจะไม่เปลี่ยนทิศทางอีก อาจจะแค่เคลื่อนไหวช้ากว่าตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ซึ่งถือเป็นแง่ดี”
Sean Lusk ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายการป้องกันความเสี่ยงเชิงพาณิชย์ของ Walsh Trading เชื่อว่าการขายออกในปัจจุบันหลังการปรับข้อมูลการจ้างงานและหลังจาก ISM ทั้งคู่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed แต่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่คุกรุ่นยังช่วยสนับสนุนราคาทองคำ
“หากเป็นเช่นนั้นต่อไป หรือเราทำสงครามในวงกว้างขึ้น นั่นจะเป็นการระดมพลัง และมาตรวัดความกลัว ของทองคำอาจจะเพิ่มขึ้น ตามประวัติ แนวต้านน้อยจะสูงขึ้นในตลาดช่วงแรกของปี แต่เราจะมาดูกันว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่”
Lusk เตือนว่าไม่มีอะไรที่แน่นอนอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Fed และกระทรวงการคลังมีความขัดแย้งกัน
มันดูยุ่งวุ่นวายเหลือเกิน และเขาไม่คิดว่าสมาชิก FOMC จะไม่รู้ว่าผลกระทบจะเป็นอย่างไรหากพวกเขาเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพราะนั่นไม่ได้กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่จะมีปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจ
“ผมคิดว่าไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ทองคำจะได้รับความนิยม เนื่องจากเมื่ออัตราเพิ่มขึ้นในปีที่แล้ว ทองคำกลับย่อตัวไปบ้าง แต่ทองคำยังคงจบปีไปด้วยผลดีและแสดงให้เห็นว่ามีกำไรที่ดีจริงๆ ทองคำขึ้นเกือบ 15% และจบสูงกว่า $2,050 ซึ่งถือว่าไม่เลว”
Lusk กล่าวว่าในช่วงเวลาแห่งความเข้มแข็งตามฤดูกาล ระหว่างวันนี้จนถึงวันวาเลนไทน์ เขาคาดว่าทองคำจะขึ้นไปถึง 2,175 ดอลลาร์
เขาจะเฝ้าดูว่าตัวเลข CPI ในสัปดาห์นี้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ยังมีความมั่นใจ
นักวิเคราะห์ของ Wall Street เก้าคนเข้าร่วมในการสำรวจ Kitco News และพวกเขาก็มีมุมมองกระทิงเช่นเดียวกับที่เคยเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญ 6 คนหรือ 66% คาดว่าจะเห็นราคาทองคำสูงขึ้นในสัปดาห์นี้
ขณะที่นักวิเคราะห์เพียงคนเดียวซึ่งคิดเป็น 11% คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะลดลง
ผู้เชี่ยวชาญสองคนที่เหลือหรือ 22% มีมุมมองกลางๆ ต่อทองคำในสัปดาห์นี้
ในขณะเดียวกัน 301 เสียงในการสำรวจออนไลน์ของ Kitco โดยผู้เข้าร่วมสำรวจระมัดระวังมากกว่าผู้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลง
นักลงทุนรายย่อย 149 ราย คิดเป็น 50% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้
อีก 79 คน หรือ 26% คาดว่าน่าจะลดลง
ขณะที่อีก 73 รายหรือ 24% เป็นมีมุมมองกลางๆ ต่อแนวโน้มระยะสั้น
การสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยคาดว่าราคาทองคำจะซื้อขายที่ประมาณ 2,049 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้
เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับราคาทองคำในสัปดาห์นี้คือรายงาน CPI เดือนธันวาคม ซึ่งจะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี หากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลง อาจกระตุ้นให้ตลาดมองโลกในแง่ดีอีกครั้งเกี่ยวกับกรอบเวลาสำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
นอกจากนี้ ตลาดจะได้รับข้อมูลสินค้าคงคลังขายส่งในเดือนพฤศจิกายน และ MBA Mortgage Applications ในวันพุธ การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และ PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมในวันศุกร์
Adam Button หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินของ Forexlive.com กล่าวว่าฤดูกาลและข้อมูลการจ้างงานล่าสุดชี้ไปที่ราคาทองคำที่สูงขึ้น แต่การตอบสนองต่อ CPI จะเป็นกุญแจสำคัญ
“ข้อมูลการจ้างงานเป็นตัวบ่งชี้ที่ล้าหลัง ในขณะที่ข้อมูล ISM Services เป็นตัวบ่งชี้นำหน้า” Button กล่าว “ทั้งสองมีความผันผวน แต่หากตัวเลข ISM ถูกต้อง ก็ยังมีจุดอ่อนในเส้นทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะสนับสนุนให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ย”
Button เน้นย้ำให้นักลงทุนยังคงจับตาราคาทองคำต่อไป “โดยพื้นฐานแล้วมันขึ้นอยู่กับ CPI” เขากล่าว
“หาก CPI อ่อนตัว ทองก็ต้องปรับตัวขึ้น หากข้อมูลออกมาอ่อนๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตราย”
![mitrade](https://resource.mistorebox.com/operation/seo-admin-pubilc/templates/assets/ad-th/mitrade.png)
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมืองจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์!💰
แนวโน้มทางด้านเทคนิคของราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา โดยลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ Fibonacci 61.8% ตามคาดการณ์ก่อนที่ราคาจะดีดกลับขึ้นไปอีกครั้ง แต่แรงขายอาจจะยังไม่จบและมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงอีกครั้ง
เมื่อวานราคาปรับตัวหลุดเส้น Trend Line ลงมาก่อนที่จะมาเจอแนวรับทางเทคนิคและดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริเวณ Trend Line ได้เปลี่ยนมาเป็นแนวต้านในขณะนี้ ซึ่งบริเวณ $2,035 - $2,040 จะเป็นจุดบรรจบกันของ Trend Line และ EMA ในระดับ 4 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นแนวกดดันราคาก่อนที่จะไปเจอแนวต้าน Trend Line ถัดไปที่บริเวณ $2,060
ทางด้านของแนวรับแรกจะอยู่ที่ $2,030 ซึ่งเป็นแนวรับ Fibonacci 50% แต่แนวรับที่น่าจะถูกทดสอบอีกครั้งคือบริเวณ Fibonacci 61.8% ที่ $2,017 และแนวโน้วแรงขายยังคงมีอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับตัวลงไปถึงระดับ $2,000 เช่นกัน
กราฟทองคำ 4 ชั่วโมง
แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,030 - $2,017
แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,035 - $2,040
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน