แนวโน้มราคาทองคำในอนาคตปี 2568-2569 ทำไมทองถึงพุ่งแรงและจะไปต่อหรือไม่

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos
สารบัญ
สถานการณ์ราคาทองคำล่าสุด: ทำลายสถิติต่อเนื่องไม่หยุด!บิ๊กเนมวอลล์สตรีทคาดการณ์ทองปี 2568-2569 “กำลังจะขึ้นอีกเยอะ”4 ปัจจัยหลักที่ทำให้ทองคำขาขึ้นอย่างต่อเนื่องปัจจัยที่อาจทำให้ราคาทองคำกลับตัว: ระวังเทขายทำกำไร!สัญญาณทางเทคนิคกับราคาทองคำ: ดูยังไงให้จับจังหวะได้ดี?กลยุทธ์ซื้อขายทองคำสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันบทสรุป: ทองคำยังไปต่อได้อีกไกล แต่ระวังความผันผวน!

ราคาทองทะลุ 4,000 ดอลลาร์ไปแล้ว ใครที่ซื้อทองเก็บไว้ช่วงก่อนหน้านี้ ตอนนี้กำลังยิ้มร่าแก้มปริกันเลยใช่มั้ยล่ะ? แต่ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ยังลังเลไม่กล้าซื้อเพราะกลัวราคาจะร่วง บทความนี้มีคำตอบให้ มาดูกันว่าเหล่ากูรูระดับโลกคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำปี 2568-2569 ไว้อย่างไร


ชาร์ตแสดงราคา XAUUSD รายวัน


เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

สถานการณ์ราคาทองคำล่าสุด: ทำลายสถิติต่อเนื่องไม่หยุด!

ราคาทองคำในช่วงปลายปี 2568 นั้น เรียกได้ว่าร้อนแรงเกินต้าน ณ เดือนตุลาคม 2568 ราคาทองคำได้พุ่งทะยานผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปอย่างแข็งแกร่ง โดยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ราคาทองคำได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 4,059 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พูดง่ายๆ คือ ถ้าเทียบกับต้นปี 2568 ราคาทองเพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 52%! ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 เดือนในการไต่ระดับจาก 3,000 ดอลลาร์สู่ 4,000 ดอลลาร์ เทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ใช้เวลานานถึง 14 เดือนในการขยับจาก 2,000 ดอลลาร์สู่ 3,000 ดอลลาร์ การเร่งตัวนี้สะท้อนถึงแรงซื้อและความเชื่อมั่นมหาศาลที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ


ราคาทองล่าสุด

 ที่มา: Tradingview


ในประเทศไทยของเรา ราคาทองคำก็ได้ปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนทะลุเป้าหมายเดิมๆ ไปไกล โดยราคาทองคำแท่ง 96.5% ได้พุ่งทะยานผ่านระดับ 62,000 บาทต่อบาททองคำไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ 55,000 บาทต้องปรับมุมมองใหม่ทั้งหมด เพราะความร้อนแรงของทองคำนั้นเหนือกว่าทุกการคาดการณ์


ทำไมทองถึงขึ้นแรงขนาดนี้?

เรียกได้ว่าทองคำมีแรงซื้ออย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ขนาดที่นักวิเคราะห์เองยังออกปากว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ราคาทองคำไม่เพียงแต่พุ่งสูงทะลุจุดสูงสุดเดิม แต่ยังทำสถิติใหม่ติดต่อกันถึง 40 ครั้งในปีเดียว แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจสูงถึง 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงปลายปี 2568 แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้ราคาทะลุ 4,000 ดอลลาร์ไปแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะไปต่ออีกด้วย

บิ๊กเนมวอลล์สตรีทคาดการณ์ทองปี 2568-2569 “กำลังจะขึ้นอีกเยอะ”

ถ้าคุณกำลังกังวลว่าซื้อทองตอนนี้จะเสียวไปหรือเปล่า เหล่าสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลกกลับมองว่า นี่ยังแค่จุดเริ่มต้น! มาดูกันว่าพวกเขาคาดการณ์อนาคตทองคำไว้อย่างไร


Goldman Sachs สุด Bullish!

บิ๊กเนมแห่งวอลล์สตรีทนี้มีมุมมองเชียร์ทองคำแบบสุดขั้ว โดยล่าสุดได้ปรับเป้าราคาทองคำขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2569 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ 4,300 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs นำโดย Lina Thomas ระบุว่า ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลก และการไหลเข้าของเงินทุนในกองทุน ETF ทองคำ


 Goldman Sachs มองทองยังไปต่อได้อีก

 ที่มา: Goldman Sachs


ไม่เพียงเท่านั้น นักวิเคราะห์ Lina Thomas จาก Goldman Sachs ยังได้เพิ่มการคาดการณ์ราคาทองจากเดิมที่ 2,890 ดอลลาร์ มาเป็น 3,300 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568 เนื่องจากความต้องการซื้อทองคำจากธนาคารกลางที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้


UBS Group ก็มองบวกไม่แพ้กัน

ธนาคารยักษ์ใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์นี้ เดิมก็คาดการณ์ว่า ทองคำจะแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในเดือนธันวาคม 2568 โดยมีปัจจัยหลักคือ รูปแบบการสะสมทองคำของธนาคารกลางที่ไม่เคยมีมาก่อน ตามคำอธิบายของ Joni Teves นักยุทธศาสตร์ของ UBS ที่กล่าวว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้เพิ่มทองคำในคลังสำรองกว่า 1,200 ตันในปี 2567 เพียงปีเดียว


YLG ประเทศไทยก็เชียร์ไม่แพ้กัน

สำหรับในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายของสถาบันการเงินระดับโลกที่มองว่าราคาทองคำมีโอกาสไปถึง 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากคำนวณกลับมาเป็นราคาทองคำไทย 96.5% ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในประเทศจะพุ่งแตะระดับ 75,000 - 80,000 บาทต่อบาททองคำได้ภายในปี 2569 แม้ระหว่างทางอาจมีแรงเทขายทำกำไรบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ทิศทางยังเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง


YLG มองแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง

 ที่มา: thairath

4 ปัจจัยหลักที่ทำให้ทองคำขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทำไมทองถึงขึ้นแรงอย่างนี้? ไม่ใช่เพราะโชคช่วยแน่นอน แต่มีปัจจัยหนุนหลายประการที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง


1. สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจโลก

ความตึงเครียดทางการค้าได้ทวีความรุนแรงขึ้นสู่ระดับสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศแผนที่จะ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งหมดในอัตรา 100% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 การเคลื่อนไหวที่แข็งกร้าวนี้เป็นการตอบโต้ที่จีนขยายการควบคุมการส่งออกแร่หายากและเทคโนโลยีสำคัญอื่นๆ ความขัดแย้งที่รุนแรงนี้สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล และผลักดันให้นักลงทุนทั่วโลกต้องหันมาพึ่งพาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขั้นสูงสุด


17603415617192

ที่มา: indianexpress


2. นโยบายการเงินของธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ย

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยมีการปรับลดลง 0.25% ในเดือนกันยายน 2568 และตลาดยังคาดการณ์ ว่าจะมีการปรับลดลงอีกในเดือนตุลาคมและธันวาคม การลดดอกเบี้ยนี้ส่งผลโดยตรงให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ราคาทองคำในสกุลเงินอื่นน่าดึงดูดยิ่งขึ้น โดยปกติแล้ว ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ยจริง (Real Interest Rate) อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ (ซึ่งไม่ให้ผลตอบแทน) ลดลงอย่างมาก


3. การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก

นี่คือปัจจัยเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุด ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ได้เข้าซื้อทองคำสุทธิมากกว่า 1,000 ตันต่อปี ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (2565-2567) และยังคงซื้ออย่างต่อเนื่องในปี 2568 ส่งผลให้ปริมาณทองคำสำรองทั่วโลกแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษที่ประมาณ 36,699 ตัน แรงผลักดันหลักมาจากการกระจายความเสี่ยงออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (De-dollarization) ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในปี 2022 ทำให้หลายประเทศตระหนักถึงความเสี่ยงจากการพึ่งพาสกุลเงินเดียวมากเกินไป


ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเข้าคลังเพิ่มขึ้นมาก

 ที่มา: Goldman Sachs


4. นโยบายการเงินของกลุ่ม BRICS

กระแสข่าวว่ากลุ่ม BRICS กำลังเตรียมออกสกุลเงินดิจิทัล (BRICS Currency Digital) ที่มีทองคำหนุนหลัง เพื่อใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสมาชิก นี่ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ท้าทายดอลลาร์สหรัฐอย่างจริงจัง ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์เคยประกาศว่าจะขึ้นภาษี 100% ในกลุ่ม BRICS หากพวกเขานำสกุลเงินที่ท้าทายดอลลาร์มาใช้

ปัจจัยที่อาจทำให้ราคาทองคำกลับตัว: ระวังเทขายทำกำไร!

แม้ว่าแนวโน้มราคาทองคำจะยังคงขาขึ้น แต่ก็มีปัจจัยที่อาจทำให้ราคาทองกลับตัวลงได้เช่นกัน มาดูกันว่าอะไรที่อาจทำให้ทองร่วงแบบไม่ทันตั้งตัว


การเจรจาภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีนสำเร็จ

หากสหรัฐฯ และจีนสามารถนั่งลงเจรจาภาษีและมีสัญญาณบวก ราคาทองคำอาจพลิกกลับทันที เพราะความตึงเครียดทางการค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย


แรงกดดันจากการเทขายทำกำไร

หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและแรง ติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์ นักลงทุนทองคำอาจเริ่มทยอยขายทำกำไร ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้ราคาลดลง โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought)


การฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์

หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด และ Fed ชะลอการลดดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำ เพราะเมื่อดอลลาร์แข็งค่า ทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์ก็จะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น ทำให้ความต้องการซื้อลดลง


อัตราดอกเบี้ยที่ยังสูงกว่าที่คาด

หากเงินเฟ้อยังไม่ลดลงตามที่คาดการณ์ และ Fed จำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ราคาทองคำอาจได้รับผลกระทบในทางลบ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้ทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยมีความน่าสนใจน้อยลง

สัญญาณทางเทคนิคกับราคาทองคำ: ดูยังไงให้จับจังหวะได้ดี?

การดูสัญญาณทางเทคนิคก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนจับจังหวะการซื้อขายทองคำได้ดีขึ้น มาดูกันว่าจากกราฟราคาทองคำปัจจุบัน มีสัญญาณอะไรที่น่าสนใจบ้าง


การกระชากของราคา (Price Surge)

เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ เกินกว่าค่าเฉลี่ยปกติ แสดงว่ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนักและอาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นในระยะถัดไป เช่น ก่อนหน้านี้ในปัจจุบันที่ราคาทองพุ่งขึ้นมาเกิน 250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน แสดงถึงแรงซื้อที่มากกว่าปกติและเป็นสัญญาณบวกสำหรับแนวโน้มในอนาคต


การกระชากของราคา (Price Surge)

ที่มา: Tradingview


ดัชนี RSI (Relative Strength Index)

ในช่วงที่ผ่านมา ดัชนี RSI ของทองคำอยู่ในโซน Overbought หรือมีการซื้อมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจมีการปรับฐานในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หากมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องและ RSI สามารถทรงตัวที่ระดับสูง ก็แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง


แนวโน้มตลาด 3 ช่วง (Market Trend Three Phases)

ตามทฤษฎีการวิเคราะห์เทคนิค ตลาดมักจะมี 3 ช่วง คือ ช่วงสะสม (Accumulation) ช่วงการมีส่วนร่วมของประชาชน (Public Participation) และช่วงการแจกจ่าย (Distribution) ปัจจุบันราคาทองคำดูเหมือนจะอยู่ในช่วง Public Participation ที่ราคาเริ่มซึมซับแรงซื้อและข่าวดีต่างๆ ทำให้ราคาปรับขึ้นจากการเข้ามาซื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก

ทฏษฏีแนวโน้มตลาด 3 ช่วง

 ที่มา: intergold

รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)

มีการสังเกตเห็นรูปแบบแท่งเทียน Shooting Star ในกราฟราคาทองคำ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัวในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่แนวโน้มหลักเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง การปรับตัวลงอาจเป็นเพียงการพักฐานชั่วคราวเท่านั้น

กลยุทธ์ซื้อขายทองคำสำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นักลงทุนหลายคนกำลังมองหากลยุทธ์การซื้อขายที่เหมาะสม ผมขอนำเสนอ 3 กลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงพร้อมการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน


1. กลยุทธ์ซื้อเมื่อพักฐาน (Buy the Dip)

เนื่องจากทองคำกำลังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ราคาขึ้นมาเร็วมาก จึงมีโอกาสเกิดการพักฐานระยะสั้น กลยุทธ์นี้คือการรอเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมายังแนวรับที่สำคัญ


  • รอจังหวะที่ราคาปรับตัวลงมาที่แนวรับแรกบริเวณ 3,859 ดอลลาร์ (แนวรับเปิดเดือนตุลาคม) หรือแนวรับสำคัญที่ 3,782 ดอลลาร์

  • ยืนยันด้วยเครื่องมือเทคนิค เช่น RSI ปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 50 หรือดัชนี MACD เริ่มส่งสัญญาณกลับตัวขึ้น

  • กำหนดจุดตัดขาดทุนใต้แนวรับสำคัญถัดไป (ประมาณ 3,750 ดอลลาร์)

  • ตั้งเป้าทำกำไรที่จุดสูงสุดเดิม (4,059 ดอลลาร์) หรือแนวต้านถัดไปที่ 4,084-4,113 ดอลลาร์


17603418765560

ที่มา: Tradingview


ตัวอย่างเช่น หากราคาทองปรับลดลงมาที่ 3,850 ดอลลาร์ คุณสามารถเข้าซื้อที่ราคานี้ ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 3,750 ดอลลาร์ และรอให้ราคาฟื้นตัวกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่


2. กลยุทธ์ทดสอบจุด Break Out (Breakout Retest)

เมื่อราคาทองเพิ่งทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่สำคัญที่ 4,000 ดอลลาร์ อาจมีการกลับมาทดสอบแนวต้านเดิม (ที่กลายเป็นแนวรับใหม่) ซึ่งเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ


  • รอให้ราคาทองปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 3,980-4,000 ดอลลาร์

  • ยืนยันว่าแนวรับนี้สามารถต้านทานแรงขายได้ (ราคาเด้งขึ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น)

  • เข้าซื้อเมื่อเห็นแท่งเทียนกลับตัวเป็นบวก พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนใต้แนวรับเล็กน้อย (เช่น 3,950 ดอลลาร์)

  • เป้าหมายกำไรคือจุดสูงสุดล่าสุด (4,059 ดอลลาร์) และแนวต้านถัดไปที่ 4,100 ดอลลาร์


17603421296499

ที่มา: Tradingview


3. กลยุทธ์การเทรดตามจุด Fiboncci (Fibonacci Retracement)

ในภาวะที่ราคาทองปรับตัวขึ้นแรงจากจุดต่ำสุดรอบก่อนหน้า (สมมติประมาณ 3,500 ดอลลาร์) มาเป็น 4,059 ดอลลาร์ จุด Fibonacci จะช่วยหาระดับแนวรับที่น่าสนใจได้


  • ลากเส้น Fibonacci จากจุดเริ่มต้นการปรับตัวขึ้น (เช่น 3,500 ดอลลาร์) ไปยังจุดสูงสุดล่าสุด (4,059 ดอลลาร์)

  • มองหาจุดซื้อที่ระดับ 38.2% หรือ 61.8% ซึ่งเป็นระดับการย่อตัวที่พบบ่อย

  • เข้าซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้และแสดงสัญญาณการกลับตัว

  • ตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ระดับ Fibonacci ถัดไป


17603422712408

ที่มา: Tradingview

mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
เทรดทองคำกับโบรกเกอร์ชั้นนำในโลก🎁🎁🎁


แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

บทสรุป: ทองคำยังไปต่อได้อีกไกล แต่ระวังความผันผวน!

สรุปแนวโน้มราคาทองคำปี 2568-2569 ยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง โดยสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง Goldman Sachs คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2569 ขณะที่สถาบันอื่นๆ อย่าง UBS, J.P. Morgan, และ ANZ ก็มองเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน สำหรับราคาทองคำไทย นี่หมายถึงโอกาสที่จะได้เห็นระดับราคา 75,000-80,000 บาทต่อบาททองคำในอนาคต


สุดท้ายนี้ แม้ว่าราคาทองคำจะมีแนวโน้มขึ้นต่อไป แต่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความอ่อนไหวของราคาสูง มีปัจจัยหลากหลายที่ส่งผลกระทบต่อราคา ฉะนั้น ถ้าตั้งใจจะซื้อทองในปีนี้หรือปีหน้า ทำใจไว้เลยว่าตลาดอาจจะหวือหวา เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง แต่เทรนด์ใหญ่ยังบอกว่า ทองไปต่อ! แค่อย่าลืมจับจังหวะให้ดี และอาจต้องใจเย็นๆ รอให้ราคาพักฐานสักนิดก่อนค่อยเข้าไปช้อปปิ้งทองคำกัน!


บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >>

เทรดทองคำมือใหม่: คู่มือสู่ความสำเร็จในการลงทุนทองคำ

ซื้อทองร้านไหนดี? 10 อันดับร้านทองที่เหมาะกับการลงทุน

เทรดทองแอพไหนดี?แนะนำ 6 แอปเทรดทองที่นิยมใช้กัน

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
ตลาดทองเปิดกี่โมง พื้นฐานและเทคนิคที่นักลงทุนต้องรู้ถ้าคุณสนใจเทรดทองคำในตลาด ก็จะต้องมีคำถามว่า “ตลาดทองเปิดกี่โมง?” เพราะการเข้าใจเรื่องเวลาเปิด-ปิดถือเป็นพื้นฐานสำคัญ วันนี้ มาทำความเข้าใจกันว่าตลาดทองเปิดกี่โมง และช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมกับการเทรดทองคำที่สุด
ผู้เขียน  ชัญญาพัชร์ ประวาสุขInsights
3 เดือน 18 วัน อังคาร
ถ้าคุณสนใจเทรดทองคำในตลาด ก็จะต้องมีคำถามว่า “ตลาดทองเปิดกี่โมง?” เพราะการเข้าใจเรื่องเวลาเปิด-ปิดถือเป็นพื้นฐานสำคัญ วันนี้ มาทำความเข้าใจกันว่าตลาดทองเปิดกี่โมง และช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมกับการเทรดทองคำที่สุด
placeholder
เทรดทองแอพไหนดี?แนะนำ 6 แอปเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2568ทองคำเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเสมอมา เราจะเลือกเทรดทองแอพไหนดี คราวนี้เราจะแนะนำ 6 แอพเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2568!
ผู้เขียน  MitradeInsights
9 เดือน 15 วัน จันทร์
ทองคำเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนให้ความสำคัญเสมอมา เราจะเลือกเทรดทองแอพไหนดี คราวนี้เราจะแนะนำ 6 แอพเทรดทองที่นิยมใช้กันในปี 2568!
placeholder
คู่มือนักเทรดทองคำมือใหม่: ปูทางสู่ความสำเร็จในปี 2568การเทรดทองคำเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเริ่มต้นเทรดทองคำ บทความนี้ จะพาคุณเจาะลึกแง่มุมของการเทรดทองคำ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการทำกำไรสำหรับมือใหม่
ผู้เขียน  MitradeInsights
9 เดือน 28 วัน อาทิตย์
การเทรดทองคำเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามั่นคงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเริ่มต้นเทรดทองคำ บทความนี้ จะพาคุณเจาะลึกแง่มุมของการเทรดทองคำ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคการทำกำไรสำหรับมือใหม่
placeholder
ซื้อทองเก็บไว้ดีไหม 2568? วิเคราะห์เจาะลึกทุกปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลกและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ราคาทองได้พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บทความนี้ เราจะวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทอง พร้อมตอบคำถามว่าซื้อทองเก็บไว้ดีไหม
ผู้เขียน  ชัญญาพัชร์ ประวาสุขInsights
วันที่ 10 ธ.ค. 2024
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลกและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ราคาทองได้พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บทความนี้ เราจะวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทอง พร้อมตอบคำถามว่าซื้อทองเก็บไว้ดีไหม
placeholder
เทรดทองคำโบรกไหนดี? 6 โบรกเด็ด ปี 2025 ที่เทรดเดอร์ห้ามพลาดขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนแล้วก็เป็นธรรมดาที่จะอยากให้เงินลงทุนของตัวเองเติบโต สิ่งสำคัญนอกจากการเลือกสินทรัพย์และกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้วบัดดี้อย่างโบรกเกอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันโบรกเทรดทองคำในไทยยังมีไม่มากนัก แต่ด้วยการขยายโอกาสจากการสื่อสารที่เชื่อมโยงถึงกันทำให้โบรกเทรดทองต่างประเทศกลายมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และหากนักลงทุนยังมีคำถามคาใจที่ว่าสำหรับคนไทยโบรกเกอร์ทองคําไหนดี? คราวนี้เราก็จะพาไปทำความรู้จักโบรกเกอร์เทรดทองจากต่างประเทศทั้ง 6 แห่งที่เราเลือกสรรมา รับรองว่าบทความนี้ช่วยหาคำตอบได้แน่นอน
ผู้เขียน  MitradeInsights
4 เดือน 17 วัน พฤหัส
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักลงทุนแล้วก็เป็นธรรมดาที่จะอยากให้เงินลงทุนของตัวเองเติบโต สิ่งสำคัญนอกจากการเลือกสินทรัพย์และกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้วบัดดี้อย่างโบรกเกอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันโบรกเทรดทองคำในไทยยังมีไม่มากนัก แต่ด้วยการขยายโอกาสจากการสื่อสารที่เชื่อมโยงถึงกันทำให้โบรกเทรดทองต่างประเทศกลายมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และหากนักลงทุนยังมีคำถามคาใจที่ว่าสำหรับคนไทยโบรกเกอร์ทองคําไหนดี? คราวนี้เราก็จะพาไปทำความรู้จักโบรกเกอร์เทรดทองจากต่างประเทศทั้ง 6 แห่งที่เราเลือกสรรมา รับรองว่าบทความนี้ช่วยหาคำตอบได้แน่นอน
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์