แนวโน้มราคาทองคำในอนาคตปี 2567
ทองคำเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมสูงจากอดีตถึงปัจจุบันด้วยทางเลือกที่หลากหลาย ทองคำแท่งเป็นสินทรัพย์สำหรับการลงทุนชั้นเยี่ยม, กองทุนและ ETF ทองคำสามารถซื้อขายได้คล่องตัวและสามารถใช้ประกันความเสี่ยงพอร์ต, และสำหรับสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงราคาทองคำก็ใช้เก็งกำไรได้รวดเร็วด้วยสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเพิ่งปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา แล้วในปี 2567 นี้ทองคำจะยังสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ คราวนี้เราจะมาดูแนวโน้มราคาทองคำในอนาคตสำหรับปี 2567 กัน
เหตุการณ์ที่กระทบราคาทองคำในปี 2566 ที่ผ่านมา
เมษา 2566 การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐส่งผลให้ราคาพันธบัตรลดลง กระทบต่อฐานะทางการเงินของ SVB จนเกิดการแห่ถอนเงินของผู้ฝากและรัฐบาลกลางต้องเข้ามาแทรกแซง ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดของเดือนที่ $2053 และยังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในต้นเดือนพฤษภาคมที่ $2082 ก่อนที่เรื่องราวจะคลี่คลายไปโดยไม่เกิดการลุกลาม พร้อม ๆ กับราคาทองคำที่ค่อย ๆ ปรับตัวลดลง
ในช่วงต้นเดือนตุลาคมราคาทองคำแกว่งตัวลงมาทำจุดต่ำสุดของปีที่ $1811 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ตะวันออกกลางเริ่มเกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส เหตุการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผลักดันให้ราคาทองคำกลับขึ้นมายืนเหนือ $2000 อีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมา
ในช่วงปลายปี การประชุม FOMC รอบต้นเดือนธันวาคม 2566 ธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณยุติการขึ้นดอกเบี้ยและเผยแนวโน้มที่มีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงได้ในปีถัดไป ราคาทองคำได้ถีบตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $2150 แล้วกลับมาแกว่งตัวในกรอบ $1970 – $2090 ไปจนตลอดปี 2566 และปิดสิ้นปีไปที่ $2062.68 นับเป็นการปรับตัวขึ้นถึง 13.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ให้ผลตอบแทน 24.5% ในปี 2566
ปัจจัยที่ต้องจับตามองสำหรับแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567
แม้ในปี 2566 ราคาทองคำจะถูกกดดันจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลให้ดอกลลาร์แข็งค่า กดดันให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับขึ้นได้อย่างที่ควรจะเป็น แต่ปัจจัยเช่นความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับตัวขึ้นนี้จะต่อเนื่องได้ยาวนานต่อไปในปี 2567 หรือไม่ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องจับตามอง
1. ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2567 และความเสี่ยง
Wold Gold Council ได้ออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567 โดยมองความเป็นไปได้ของการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกไว้ 3 แนวทางซึ่งส่วนใหญ่ให้น้ำหนักในการผลักดันราคาทองคำให้อยู่ในระดับสูง นั่นคือการเกิด Soft Landing ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 45-65% และ Hard Landing ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้น 25-55% ทั้งสองทางนี้สามารถผลักดันให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้จากความต้องการถือทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะการเกิด Hard Landing ที่มีแนวโน้มจะทำให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นได้อย่างเป็นประวัติการณ์ ส่วนในความเป็นไปได้ที่สามคือการเกิด No Landing หรือไม่เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจนั้นจะไม่มีผลหรือส่งผลทางลบให้กับราคาทองคำ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเพียง 5-10% เท่านั้น
ดังนั้นในภาพรวมทางเศรษฐกิจปี 2567 การชะลอตัวทางเศรษฐกิจไม่ว่าจะ Soft Landing หรือ Hard Landing ก็เป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนราคาทองคำได้ต่อไป
2. ภาพรวมทางภูมิรัฐศาสตร์และการเลือกตั้งใหญ่ในหลายประเทศสำคัญทางเศรษฐกิจ
ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตึงเครียดมาตั้งแต่ปลายปี 2565 คาดว่าจะดำเนินไปอย่างเข้มข้นและมีความผันผวนไม่แน่นอนสูงขึ้นในปี 2567 โดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลางอันเป็นแหล่งผลประโยชน์ทางทรัพยากรแหล่งสำคัญของโลกและมีประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาเข้ามาเกี่ยวข้อง ความขัดแย้งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรง
นอกจากนี้ในปี 2567 ยังเกิดความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งใหญ่ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนและธนาคารกลางจะยังสำรองทองคำเพิ่มต่อไป
3. การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ ในโลกและการลดอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคารกลางโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐมีผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกประเภทหนึ่งปรับตัวลดลง การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการถือพันธบัตรจากผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้น และความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยมีแนวโน้มที่จะย้ายไปยังสินทรัพย์อื่นเช่น ทองคำ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐจึงน่าจับตามองในฐานะตัวขับเคลื่อนหนึ่งของการปรับขึ้นราคาทองคำในปี 2567 นี้
4. การวิเคราะห์ด้านอุปสงค์และอุปทานต่อทองคำ
อุปทานทองคำมีแนวโน้มที่จะคงที่จนกว่าจะมีการพบแหล่งทองคำใหม่ ๆ ในปริมาณมากจึงจะสามารถส่งผลต่อราคาทองคำให้ปรับตัวลงได้ ในส่วนของอุปสงค์หรือความต้องการซื้อ ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำที่สุดคือทองคำสำรองโดยธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ และเริ่มเข้าซื้อทองคำมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ซึ่งในปีดังกล่าวธนาคารกลางทั่วโลกเก็บทองคำเข้าสำรองแล้วกว่า 1,000 ตัน และยังเข้าซื้อต่อในปี 2566 นับถึงเดือนกันยา (3 ไตรมาส) มีการเก็บเพิ่ม 798 ตัน จนถึงเดือนกันยา 2566 ธนาคารกลางทั่วโลกถือทองคำรวมแล้วกว่า 35,827.5 ตัน และยังมีแนวโน้มที่ความไม่แน่นอนและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์จะส่งผลให้ธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ยังเดินหน้าเข้าซื้อทองคำต่อไปในปี 2567
ปัจจัยทั้งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ในปีหน้ามีแนวโน้มชะลอตัว ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และทิศทางแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความต้องการสูงในปี 2567 โดยเฉพาะจากผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดทองคำอย่างธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะผลักดันราคาทองคำในปี 2567 ต่อไป
แนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567
มองแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567 ภาพจากกราฟรายสัปดาห์ราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดใหม่เท่าที่เคยทำได้ไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ $2047 และเกิดการย่อตัวโดยที่ไม่ได้หลุดจุดต่ำสุดเดิม ทำให้มองว่าการเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินอยู่ยังไม่ได้มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง และยังสามารถรักษาภาพรวมในขาขึ้นเอาไว้ได้ ร่วมกับอินดิเคเตอร์อย่าง MA(10, 30, 60) ที่ยังเรียงจากมากไปน้อย ยืนยันการปรับตัวในแนวโน้มขาขึ้น เช่นเดียวกับ MACD ที่ยังบอกการขึ้นของราคา ทำให้มองว่าแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567 จะยังดำเนินต่อไปในกรอบแนวโน้มขาขึ้น สลับการปรับฐานได้เป็นระยะ ๆ ด้วยแนวรับ 2005, 1930 และ 1810
คว้าโอกาสการเทรดทองคำเดี๋ยวนี้!
✔️ เทรดด้วยเลเวอเรจสูงถึง 200:1
✔️ เทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
✔️ โบนัสต้อนรับ $100 💵
✔️ เงินเสมือนจริงฟรี $50, 000 💸
สรุป
ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีเสน่ห์และน่าสนใจอยู่เสมอสำหรับนักลงทุน แม้ในภาวะที่ไร้ปัจจัยกดดันทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับคำแนะนำให้ติดพอร์ตไว้เพื่อประกันความเสี่ยงเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จนถึงปี 2567 ความไม่แน่นอนในตลาดโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้นไม่เพียงแค่ความเสี่ยงด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงความไม่แน่นอนและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สามารถพัฒนาเป็นสงครามได้ในอนาคต ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับคำแนะนำสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและให้ผลตอบแทนได้อย่างงดงาม ซึ่งด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทองคำจึงเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามจากแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต 2567 ที่เรานำมาฝากกันในคราวนี้
อ้างอิง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน