วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในวันอังคารนี้อย่างแข็งแกร่ง โดย XAUUSD เคลื่อนไหวในแดนบวกใกล้ระดับ 4,135 ดอลลาร์ หลังจากที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา
ปัจจัยหนุนหลักยังคงมาจากกระแสคาดการณ์ที่รุนแรงขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ คือปฏิกิริยาของตลาดต่อความพยายามในการยุติการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ (Government Shutdown) ซึ่งกำลังสร้างมุมมองที่ซับซ้อนและน่าสนใจอย่างยิ่งต่อทิศทางของราคาทองคำ
เดิมพันครั้งใหญ่ของตลาด ทำไม Fed อาจต้องลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม?
แรงขับเคลื่อนหลักที่ผลักดันราคาทองคำในรอบนี้ มาจากความเชื่อมั่นของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed ภายหลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์ก่อน
ทั้งตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนและตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณชะลอตัว
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนทั่วโลกใช้ติดตามความน่าจะเป็นในการปรับเปลี่ยนนโยบายของ Fed สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดกำลังเดิมพันอย่างหนักกับการลดดอกเบี้ย โดยให้โอกาสสูงถึง 67% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม และเพิ่มโอกาสเป็นเกือบ 80% ภายในเดือนมกราคมปีหน้า
ในสภาวะเช่นนี้ ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและป้องกันความมั่งคั่งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Peter Grant รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสฝ่ายโลหะมีค่าจาก Zaner Metals ได้ตอกย้ำมุมมองนี้ โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจขยับขึ้นไปซื้อขายในกรอบ $4,200 ถึง $4,300 ภายในสิ้นปีนี้ และยังคงมองเป้าหมายที่ $5,000 ในไตรมาสแรกของปีหน้าเป็นเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้
สถานะการณ์ Shutdown ข่าวร้ายที่อาจกลายเป็นดีต่อราคาทองคำ
ประเด็นที่ซับซ้อนและน่าสนใจที่สุดในขณะนี้ คือสถานการณ์การปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทั่วไปแล้ว ภาวะสุญญากาศทางการเมืองเช่นนี้มักจะถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดกลับน่าขบคิดยิ่งกว่า เมื่อราคาทองคำและแร่เงินดีดตัวขึ้นแรง ท่ามกลางความหวังว่าสภาคองเกรสอาจบรรลุข้อตกลงยุติการ Shutdown ได้
ข้อมูลจาก Reuters ระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เริ่มเคลื่อนไหวในวันอาทิตย์เพื่อผลักดันมาตรการที่จะนำไปสู่การเปิดทำการของรัฐบาลกลางอีกครั้ง ซึ่งประธานาธิบดี Donald Trump ก็ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว โดยระบุว่ามีเสียงสนับสนุนจากฝั่งเดโมแครตเพียงพอที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
คำถามคือ ทำไมนักลงทุนทองคำจึงมองว่าการยุติ Shutdown เป็นข่าวดี?
คำตอบอยู่ในผลกระทบที่ต่อเนื่องไปยังการตัดสินใจของ Fed ตลอดช่วงเวลาที่รัฐบาลปิดทำการ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และรายงานการจ้างงาน ได้ถูกระงับไปด้วย ทำให้นักลงทุนและแม้แต่ตัว Fed เอง ตกอยู่ในสภาวะตาบอด
การที่ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการมาสนับสนุน ทำให้ Fed ขาดความมั่นใจในการประเมินทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน และอาจเป็นเหตุผลให้ Fed ต้องชะลอการตัดสินใจลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมออกไปก่อน
ดังนั้น การที่รัฐบาลกลับมาเปิดทำการได้โดยเร็ว จึงหมายถึงการปลดล็อคข้อมูลเศรษฐกิจที่ค้างคาอยู่ ซึ่งบรรดานักลงทุนสายกระทิงเชื่อมั่นว่า ตัวเลขที่จะออกมานั้น จะยืนยันภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และจะเป็นไฟเขียวที่ชัดเจนให้ Fed ดำเนินการลดดอกเบี้ยได้ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในที่สุด
Ole Hansen หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายสินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ให้ความเห็นไว้ว่า การเปิดทำการของรัฐบาลจะช่วยฟื้นการไหลเวียนของข้อมูล และที่สำคัญกว่านั้น คือการเบนความสนใจของตลาดกลับไปสู่ปัญหาที่แท้จริง นั่นคืองบประมาณที่เลวร้ายลงของสหรัฐฯ
ส่องเป้าหมายถัดไปของราคาทองคำอยู่ที่ $5,000 จริงหรือ?
แม้ว่าราคาทองคำจะทะยานขึ้นมายืนเหนือ 4,100 ดอลลาร์ และทำลายแนวต้านระยะสั้นที่สำคัญไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีระยะห่างพอสมควรจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 4,360 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชั้นนำหลายคนเริ่มมองว่าการปรับฐานในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจสิ้นสุดลงแล้ว
Tim Hayes หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ Ned Davis Research ยืนยันว่าเขายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ และมองว่าการย่อตัวที่ผ่านมาเป็นเพียงการทำกำไรระยะสั้นเท่านั้น โดยชี้ว่า สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่สนับสนุนทองคำ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งที่ Tim Hayes ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ความผันผวนของราคาทองคำ เขาระบุว่า สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น ความผันผวนที่พุ่งสูงขึ้นมักเป็นสัญญาณอันตราย แต่สำหรับนักลงทุนทองคำ ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นมักจะเป็นสัญญาณบวก
โดยสถิติในอดีตชี้ว่า เมื่อดัชนีความผันผวนของทองคำสูงกว่าค่าเฉลี่ย 1 ปี ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นในอัตราเลขสองหลักต่อปี
ในขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคเริ่มกลับมาเป็นบวก และความเชื่อมั่นของนักเก็งกำไรระยะสั้นได้คลายความร้อนแรงลงไปมากแล้ว ทำให้ตลาดมีสุขภาพดีขึ้น ปัจจัยเดียวที่ยังคงเป็นตัวถ่วงเล็กน้อยคือการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yields) ที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่ง Tim Hayes เตือนว่าระดับที่น่ากังวลคือหาก Real Yields พุ่งทะลุ 3.5%
สำหรับนักลงทุนที่มองภาพในระยะยาว การที่ราคาทองคำพุ่งทะยานพร้อมกับแร่เงิน (Silver) ซึ่งกำลังทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่สำคัญที่ $50 ถือเป็นสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
หากราคาแร่เงินสามารถยืนปิดเหนือระดับ $50 ได้อย่างมั่นคงหลายวันติดต่อกัน ก็อาจเป็นการเปิดประตูสู่การทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งในตลาดแร่เงิน และอาจรวมถึงราคาทองคำด้วย ในอีกไม่กี่สัปดาห์ หรือไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
อัปเดตสถานการณ์ล่าสุด จากการวิเคราะห์ในวันก่อนหน้า ต้องถือว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อนั้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ราคาทองคำไม่เพียงแต่ทะลุแนวต้านที่ $4,057 และ $4,087 แต่ยังพุ่งทะยานผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ $4,100 ขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด
จากภาพกราฟ จะเห็นว่าราคาได้ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 38.2% ที่บริเวณ $4,087 ขึ้นมาได้สำเร็จ สัญญาณนี้ถือเป็นบวกอย่างมากต่อแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดยเป้าหมายถัดไปที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด คือแนวต้าน Fibonacci 50.00% ที่ระดับ $4,135 ก่อนที่จะไปเจอระดับ Fibonacci 61.8% ที่ $4,195 ซึ่งเป็นด่านสำคัญที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของรอบนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มหลักจะเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน แต่ก็มีสัญญาณเตือนจาก RSI และ Stochastic RSI ที่ได้พุ่งขึ้นไปอยู่ในโซน Overbought อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ Stoch RSI ที่เริ่มเคลื่อนที่ในระดับสูงและอาจส่งสัญญาณตัดกันได้ทุกเมื่อ
สภาวะที่ร้อนแรงเช่นนี้ บ่งชี้ว่าราคาอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการย่อตัว หรือพักฐาน ในระยะสั้นได้ตลอดเวลา เพื่อลดความร้อนแรงดังกล่าวก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ
สำหรับกลยุทธ์ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า แนวรับสำคัญแรกได้ถูกยกสูงขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $4,087 หากราคาสามารถย่อตัวลงมาและยืนเหนือแนวรับนี้ได้ จะยังคงรักษามุมมองเชิงบวกเพื่อไปต่อที่ $4,195
แต่หากราคาหลุดแนวรับ $4,087 ลงมา แนวรับถัดไปคือบริเวณแนวต้านเดิมที่ $4,057 และ $4,000 ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และยังเป็นจุดที่สอดคล้องกับเส้น “แนวรับ Trend Line” ที่ลากชันขึ้นมาอีกด้วย ตราบใดที่ราคายังไม่หลุดแนวรับ Trend Line นี้ ภาพรวมของราคาทองคำในระยะสั้นก็ยังคงเป็นบวกอย่างชัดเจน

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,087
$4,057
$4,000
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,138
$4,195
$4,276
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


