วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 22 ส.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAUUSD วันนี้ เปิดตลาดมาด้วยความเคลื่อนไหวที่ไม่หวือหวามากนัก แต่บรรยากาศที่ดูเหมือนจะนิ่งสงบนี้เปรียบเสมือนความเงียบก่อนพายุลูกใหญ่จะมาถึง ตลาดการเงินทั่วโลกต่างกำลังจับจ้องและกลั้นหายใจรอคอยสัญญาณสำคัญจากการประชุมใหญ่ประจำปีของเหล่าผู้ว่าการธนาคารกลางที่ Jackson Hole ซึ่งจัดโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ โดยทุกสายตาต่างพุ่งเป้าไปที่ถ้อยแถลงของ Jerome Powell ประธานเฟด ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าค่ำคืนวันนี้ ซึ่งอาจเป็นการชี้ชะตาทิศทางของราคาทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ ในระยะสั้นไปจนถึงสิ้นปีนี้เลยทีเดียว
ตลาดจับตาสัญญาณจาก Powell
เบื้องหลังความสงบนิ่งนี้คือความคาดหวังและความกังวลที่อัดแน่นของนักลงทุนทั่วโลก คำถามสำคัญที่ทุกคนต้องการคำตอบจากปากของ Jerome Powell คือท่าทีและมุมมองของเฟดต่อการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
หลังจากที่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เผยให้เห็นถึงรอยร้าวและความเห็นต่างภายในคณะกรรมการ โดยเสียงส่วนใหญ่ยังคงมองว่าความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่อาจพุ่งสูงขึ้นนั้นน่ากังวลกว่าปัญหาในตลาดแรงงาน ซึ่งความกังวลนี้ได้รับแรงหนุนจากผลกระทบของกำแพงภาษีการค้าที่ยังคงคุกรุ่น การส่งสัญญาณใดๆ จาก Powell ในครั้งนี้ จึงไม่ต่างอะไรจากการโยนหินลงไปในน้ำ ที่จะสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วทั้งตลาดการเงินอย่างแน่นอน
ภาพเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจ ตัวเลขแข็งแกร่ง กดดันราคาทองคำ
ท่ามกลางการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่เพิ่งประกาศออกมากลับสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำอย่างไม่คาดคิด โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นจาก S&P Global ในเดือนสิงหาคม ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก ทั้งในภาคการผลิตที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 39 เดือน และภาคบริการที่ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจกำลังเติบโตในอัตราที่สูงถึง 2.5% ต่อปี ซึ่งเป็นภาพที่ขัดแย้งกับความหวังของตลาดที่อยากจะเห็นการลดดอกเบี้ยโดยสิ้นเชิง
Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global Market Intelligence ชี้ว่าข้อมูลชุดนี้อาจทำให้เฟดต้องกลับมาพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง แทนที่จะเป็นการลดดอกเบี้ย เพื่อสกัดกั้นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการไปยังผู้บริโภค สถานการณ์นี้เองที่ทำให้ราคาทองคำต้องเผชิญกับแรงเทขาย แต่ยังคงสามารถยืนหยัดเหนือแนวรับสำคัญที่ระดับ $3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
เส้นทางบนเส้นด้ายของ Fed บนเส้นด้าย
Mohamed El-Erian นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังและที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ Allianz ได้ให้ภาพของสถานการณ์ที่ Jerome Powell และเฟดกำลังเผชิญอยู่อย่างน่าสนใจ ว่า เป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง
เฟดกำลังติดอยู่ระหว่างปัญหาที่แก้ได้ยากสองด้าน ด้านหนึ่งคืออัตราเงินเฟ้อที่อยู่เหนือเป้าหมาย 2% มาเป็นเวลานานกว่า 4 ปี และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก ในขณะที่อีกด้านหนึ่งคือสัญญาณความอ่อนแอของตลาดแรงงานที่เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสวนทางกับตัวเลขอัตราการว่างงานที่ยังคงดูดี
นอกจากนี้ Powell ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง ความน่าเชื่อถือในการสื่อสารที่คลุมเครือ และเสียงแตกในคณะกรรมการที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ El-Erian วิเคราะห์ว่าการที่ Powell ยังคงยึดติดกับข้อมูลในอดีต อาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายในสภาวะที่โครงสร้างเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งจากผลกระทบของ AI และการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงาน
El-Erian ยังได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ว่าการที่ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานหลายอย่าง ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับสถานะของเงินดอลลาร์สหรัฐในเวทีโลก เขาชี้ว่าในยามที่เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนไม่ได้วิ่งเข้าหาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่กลับมุ่งหน้าเข้าหาทองคำแทน
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าบทบาทของทองคำในโลกการเงินกำลังเปลี่ยนไป มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของระเบียบโลกใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้น
ดังนั้น การแถลงของ Powell ในครั้งนี้ จึงมีความสำคัญมากกว่าแค่การส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ย แต่มันอาจเป็นการยืนยันถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่เฟดและเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
หลังจากที่โมเมนตัมฝั่งกระทิงกลับมาอย่างแข็งแกร่งในวันก่อนหน้า ภาพล่าสุดของกราฟราคาทองคำวันนี้แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอย่างยิ่ง
จากที่คาดการณ์ว่าราคาจะมุ่งหน้าสู่แนวต้าน $3,350 นั้น ปรากฏว่าแรงซื้อเริ่มแผ่วลงและยังไม่สามารถผลักดันราคาให้ผ่านไปได้ ทำให้ราคาเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway และค่อยๆ ปรับตัวลงมาทดสอบบริเวณแนวรับสำคัญซึ่งก็คือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ที่ระดับ $3,337 พอดี ซึ่งเป็นโซนที่บทวิเคราะห์ก่อนหน้าได้ให้ไว้ว่าเป็นปราการด่านแรกของฝั่งกระทิง การที่ราคาไม่สามารถไปต่อได้และกลับลงมาทดสอบแนวรับอย่างรวดเร็วเช่นนี้ บ่งชี้ว่าตลาดยังคงมีความลังเลและกำลังต่อสู้กันอย่างหนักระหว่างแรงซื้อและแรงขาย
เมื่อดูสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ประกอบ จะเห็นภาพการอ่อนแรงของฝั่งกระทิงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดมาจาก Stochastic RSI ซึ่งได้ปรับตัวลงจากเขต Overbought และเกิดสัญญาณตัดกันในทิศทางลง (Bearish Crossover) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการยืนยันว่าโมเมนตัมการซื้อในระยะสั้นได้สิ้นสุดลงและกำลังเข้าสู่รอบของการพักตัวหรือการย่อตัว
ขณะที่ดัชนี RSI แม้จะยังสามารถประคองตัวอยู่เหนือเส้นระดับ 50 ได้ แต่ก็เริ่มแสดงทิศทางการโค้งตัวลงอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงกำลังของฝั่งซื้อที่ลดน้อยถอยลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่แท่งเทียนที่ผ่านมา
ดังนั้น ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จุดชี้วัดสำคัญที่สุดจะอยู่ที่แนวรับกลุ่มเส้น EMA บริเวณ $3,337-$3,338 นี้ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนอยู่เหนือแนวรับนี้ได้ และมีแท่งเทียน 4 ชั่วโมงปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าว จะเป็นการส่งสัญญาณลบที่ชัดเจน และเป็นการยืนยันว่าภาพกระทิงที่เพิ่งก่อตัวขึ้นนั้นเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิคระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ราคาปรับตัวลงไปหาแนวรับถัดไปที่บริเวณ $3,325 และอาจลึกไปถึงฐานแนวรับเดิมที่แข็งแกร่งบริเวณ $3,310 อีกครั้ง
ในทางกลับกัน หากแนวรับนี้ยังคงทำงานได้อย่างแข็งแกร่งและราคาสามารถดีดตัวกลับขึ้นไปได้ ฝั่งกระทิงจำเป็นต้องรวบรวมกำลังเพื่อผลักดันราคาให้ทะลุผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ $3,358 ซึ่งเป็นยอดสูงสุดของรอบล่าสุดให้ได้ เพื่อฟื้นฟูโมเมนตัมเชิงบวกและกลับไปสู่เป้าหมายเดิมที่แนวต้าน $3,372 ต่อไป
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,338
$3,325
$3,310
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,350
$3,358
$3,372
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน