วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 4 ส.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2568 กลับมาอัพเดทเรื่องร้อนๆ ของราคาทองคำ XAUUSD กันอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกว่ากำลังอยู่ในจุดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดต้องเจอกับพายุข้อมูลเศรษฐกิจลูกใหญ่จากฝั่งสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ภาพรวมตลาดการเงินโลกปั่นป่วน และแน่นอนว่าทองคำก็ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ
เช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดมาอาจจะดูย่อตัวลงเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวแถวๆ $3,347 ซึ่งเป็นการย่อตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่วิ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะเบื้องหลังการย่อตัวนี้มีเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าสนใจซ่อนอยู่
เรื่องของเรื่องคือ ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งปกติแล้วข่าวแบบนี้ควรจะส่งผลดีต่อราคาทองคำโดยตรง เพราะมันทำให้คนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed อาจจะต้องรีบลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ทำไมทองถึงยังโดนกดอยู่?
คำตอบส่วนหนึ่งมาจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นชั่วคราว แต่เชื่อเถอะว่านี่อาจเป็นเพียงภาพระยะสั้นเท่านั้น เพราะปัจจัยพื้นฐานที่หนุนราคาทองคำนั้นยังคงแข็งแกร่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย หรือความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่รอวันส่งให้ราคาทองคำพุ่งทะยานต่อไปได้เสมอ
ไขปริศนาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำไมตลาดถึงมองว่า Fed ต้องลดดอกเบี้ยสถานเดียว?
หัวใจสำคัญของเรื่องทั้งหมดในตอนนี้อยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด เริ่มจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือนกรกฎาคม ที่เพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 110,000 ตำแหน่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ช็อกตลาดยิ่งกว่าคือการปรับปรุงตัวเลขย้อนหลังของเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ที่ถูกปรับลดลงรวมกันถึง 258,000 ตำแหน่ง ทำให้ภาพรวมตลาดแรงงานที่เคยดูดีก่อนหน้านี้ กลายเป็นหนังคนละม้วนไปเลย
Bart Melek หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Securities บอกว่าตัวเลขที่ออกมาแบบนี้ ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ Fed จะต้องลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน ซ้ำเติมด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (ISM Manufacturing PMI) ที่ลดลงไปอยู่ที่ 48 ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตกำลังหดตัว
Susan Spence ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจภาคการผลิตของ ISM ให้ภาพที่น่ากลัวกว่านั้น โดยระบุว่าในเดือนกรกฎาคม กว่า 79% ของ GDP ภาคการผลิตของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 46% ในเดือนมิถุนายน ข้อมูลเหล่านี้เป็นเหมือนการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนอย่างชัดเจน และเมื่อเศรษฐกิจอ่อนแอ สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงยิ่งทวีความน่าสนใจในสายตานักลงทุน
ตลาดฟันธงลดดอกเบี้ย และสงครามการค้าที่กลับมาหนุนทอง
จากข้อมูลที่ว่ามาทั้งหมด ทำให้ตลาดการเงินเปลี่ยนมุมมองต่อทิศทางดอกเบี้ยของ Fed อย่างรวดเร็ว เครื่องมือ CME FedWatch Tool ชี้ว่าตอนนี้นักลงทุนให้โอกาสมากกว่า 92% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งพุ่งขึ้นมาจากระดับเพียง 38% ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว
Jamie Cox จาก Harris Financial Group ถึงกับบอกว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้แทบจะเป็นเรื่องที่นอนมา และอาจจะเป็นการลดถึง 0.50% เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปอีกด้วย นอกจากเรื่องดอกเบี้ยแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กลับมาสร้างความกังวลและหนุนราคาทองคำคือเรื่องสงครามการค้า ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศระลอกใหม่ เช่น แคนาดาโดนไป 35%, อินเดีย 25%, สวิตเซอร์แลนด์ 39% และไทยโดยไป 19% ซึ่งสร้างความสับสนวุ่นวายและเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการค้าโลกอย่างมหาศาล
Chris Vecchio จาก Tastylive.com มองว่าการขึ้นภาษีลักษณะนี้ จะทำให้ประเทศต่างๆ ลดการใช้เงินดอลลาร์ในการค้าขาย และหันมาหาสินทรัพย์อื่นเพื่อเป็นทุนสำรองแทน ซึ่งทองคำคือตัวเลือกที่ชัดเจนที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้
พายุยังไม่สงบ เป้าหมายถัดไปคือ $3,400 ใช่หรือไม่?
เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมารวมกัน ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจน แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่มีโอกาสสูงมาก และความตึงเครียดทางการค้าที่คุกคุ่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภาพรวมของราคาทองคำยังคงดูเป็นบวกอย่างยิ่ง
Lukman Otunuga นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสของ FXTM มองว่ากราฟทางเทคนิคกำลังส่งสัญญาณกระทิงที่แข็งแกร่ง และเป้าหมายถัดไปที่ $3,400 ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ $3,330 ได้อย่างมั่นคงในสัปดาห์นี้ โอกาสที่จะได้เห็นการวิ่งขึ้นไปทดสอบ $3,400 ก็มีสูงมาก ขณะที่ Michael Brown นักกลยุทธ์จาก Pepperstone ยังคงมุมมองบวกต่อทองคำ โดยชี้ไปที่แนวต้านถัดไปบริเวณ $3,445 และอาจได้เห็นการทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $3,500 ก่อนสิ้นปีนี้เลยทีเดียว
ดังนั้น สำหรับนักลงทุนแล้ว ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะความผันผวนที่เกิดขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย คือโอกาสสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางของราคาทองคำไปได้อีกไกล
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
หลังจากที่ราคาทองคำร่วงลงไปทดสอบบริเวณแนวรับแถว $3,293 แต่ไม่ทะลุ กลายเป็นว่ามีแรงซื้อมหาศาลผลักดันราคาให้ดีดตัวกลับขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้เกิดแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่เป็นการปฏิเสธแนวโน้มขาลงในระยะสั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจนอีกด้วย
เมื่อดูจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) จะพบสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ราคาสามารถทะลุผ่านเส้น EMA 200 (เส้นสีส้ม บริเวณ $3,330) ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่กดดันราคามาตลอด ขึ้นไปยืนได้อย่างมั่นคง การที่ราคาสามารถยืนเหนือเส้น EMA 200 ได้นั้น ถือเป็นการยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นในระยะกลาง นอกจากนี้ เส้น EMA 12 (เส้นสีแดง) ได้ตัดผ่านเส้น EMA 26 (เส้นสีฟ้า) ขึ้นไปแล้ว (Golden Cross) ซึ่งเป็นสัญญาณยืนยันการกลับมาของโมเมนตัมฝั่งซื้ออย่างเต็มกำลัง
ในส่วนของอินดิเคเตอร์ RSI ได้พุ่งทะยานขึ้นจากโซนกลางอย่างรวดเร็ว แต่ยังไปไม่ถึงเขต Overbought (ภาวะซื้อมากเกินไป) ที่ระดับ 70 สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง แต่ว่าการที่ RSI อยู่ในเขต Overbought ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงอาจมีการชะลอตัวหรือการย่อตัวเพื่อพักฐานในระยะสั้นได้
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพรวมทางเทคนิคได้เปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้นอย่าง โดยแนวรับที่สำคัญที่สุดซึ่งเปลี่ยนมาจากแนวต้านเดิมนั้น คือบริเวณเส้น EMA 200 ที่ระดับราคาประมาณ $3,330 เป็นจุดชี้วัดสำคัญ หากราคาสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ ภาพรวมขาขึ้นจะยังคงอยู่ และมีแนวรับถัดมาในโซน $3,315 - $3,320 ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้น EMA 12 และ 26 ตัดกัน
อย่างไรก็ตาม แนวต้านเป้าหมายที่ฝั่งกระทิงจะพยายามผลักดันราคาขึ้นไปทดสอบนั้น แนวต้านแรกจะอยู่ที่บริเวณจุดสูงสุดล่าสุดแถว $3,355 หากผ่านไปได้ แนวต้านถัดไปที่มีความสำคัญคือระดับ $3,372 และมีเป้าหมายทางจิตวิทยาที่ระดับ $3,400
แนวโน้มหลักในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าจึงให้น้ำหนักไปที่การปรับตัวขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังเนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อาจเกิดการย่อตัวเพื่อพักฐานได้ทุกเมื่อ โดยมีจุดสังเกตสำคัญคือระดับแนวรับ $3,330 ตราบใดที่ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับนี้ โอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $3,372 ยังคงมีสูง แต่หากราคาหลุดแนวรับสำคัญนี้ลงมา จะเป็นสัญญาณเตือนว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลัง และภาพรวมอาจกลับเข้าสู่ความผันผวนอีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,350
$3,338
$3,325
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,372
$3,400
$3,415
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน