วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 14 ส.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
อรุณสวัสดิ์นักลงทุนทุกท่าน เช้าวันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568 นี้ ตลาดทองคำยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำในตลาดโลก (XAU/USD) ได้ไต่ระดับขึ้นแตะบริเวณ 3,365 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ นับเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดในขณะนี้คือการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ต่อไป
ความหวังลดดอกเบี้ยหนุนราคาทองคำพุ่งทะยาน
บรรยากาศการลงทุนในทองคำขณะนี้สดใสเป็นพิเศษ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่รุนแรงนัก ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอได้กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่โหมกระพือความเชื่อมั่นของตลาด ว่าเฟดใกล้จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน และอาจมีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกภายในสิ้นปี
ตามข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch Tool ตลาดได้ให้น้ำหนักความเป็นไปได้ที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนสูงถึง 94% เลยทีเดียว ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และเป็นผลดีโดยตรงต่อราคาสินทรัพย์ที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์อย่างทองคำ ดังที่ Nikos Tzabouras นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก tradu.com สรุปภาพรวมไว้อย่างชัดเจน ว่าขณะนี้ทองคำกำลังคึกคักเป็นอย่างมากจากความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟด
มุมมองจากกูรู ส่องอนาคตราคาทองคำ
ในขณะที่ตลาดยังคงเกาะติดสถานการณ์ราคาทองคำก็มีมุมมองที่น่าสนใจจากนักวิเคราะห์ชั้นนำออกมาตอกย้ำแนวโน้มเชิงบวก Ewa Manthey นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก ING ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ โดยมองว่าราคาทองคำจะยืนเหนือระดับ 3,300 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง และเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน Thorsten Polleit ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก University of Bayreuth ให้ภาพที่ใหญ่กว่านั้น โดยชี้ว่าทองคำกำลังอยู่ในจุดที่จะทะยานขึ้นครั้งสำคัญเชิงโครงสร้าง เนื่องมาจากการเสื่อมค่าของเงินกระดาษทั่วโลก ผู้คนกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในอำนาจซื้อของสกุลเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์ ปอนด์ หรือยูโร สังเกตได้จากราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น และใกล้ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
ปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เพราะจะยิ่งเพิ่มภาระและฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ เขาคาดการณ์ว่าเราอาจจะได้เห็นการกลับมาของนโยบาย “การกดดันทางการเงิน” (Financial Repression) ซึ่งรัฐบาลจะใช้นโยบายต่างๆ เพื่อลดภาระหนี้ของตนเอง และมองไปในระยะยาว 5-10 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปัจจุบัน
ความท้าทายและปัจจัยแวดล้อม อะไรคือตัวแปรที่ต้องจับตา?
อย่างไรก็ตาม เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ แม้แนวโน้มของทองคำจะดูสดใส แต่ก็ยังมีความท้าทายที่อาจจำกัดการปรับขึ้นของราคาอยู่บ้าง นั่นคือความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่ประธานาธิบดี Donald Trump ตกลงที่จะชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ออกไปอีก 90 วัน ช่วยลดความตึงเครียดในตลาดโลกลง และอาจลดความน่าสนใจของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำได้เช่นกัน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งตัวแปรที่น่าจับตาคือตลาดพันธบัตร แม้คาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังคงยืนอยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนยังต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงจากหนี้ที่เพิ่มขึ้น หากการลดดอกเบี้ยระยะสั้นไม่สามารถกดอัตราผลตอบแทนระยะยาวลงได้ มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดอาจต้องกลับมาใช้มาตรการซื้อพันธบัตรอีกครั้ง
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะเป็นปัจจัยบวกมหาศาลที่ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น บทสรุปในวันนี้ คือแม้จะมีปัจจัยท้าทายอยู่บ้าง แต่ปัจจัยหนุนพื้นฐาน โดยเฉพาะนโยบายการเงินของเฟด ยังคงเป็นพระเอกที่กำหนดทิศทางของตลาดทองคำอย่างแท้จริง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สถานการณ์ Sideways ในกรอบแคบที่เคยอึดอัด ตอนนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว โดยฝั่งซื้อได้แสดงพลังเข้าควบคุมตลาดอย่างชัดเจน ด้วยการส่งแรงซื้อเข้ามาผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 3,350 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยคอยกดดันราคาไว้ในวันก่อนหน้าได้อย่างสวยงาม
การทะลุผ่านครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อกและเปลี่ยนภาพรวมของตลาดในระยะสั้น จากที่เคยให้น้ำหนักฝั่งหมี กลับมาสู่โมเมนตัมของฝั่งกระทิงอีกครั้ง โดยขณะนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,365 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขึ้นมาทดสอบโซนแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 3,360-3,373 ดอลลาร์ ตามที่ได้คาดการณ์ไว้
ในด้านของ Indicators จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งเป็นการยืนยันการกลับตัวในครั้งนี้ ดัชนีชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI ได้พุ่งทะยานข้ามผ่านเส้นระดับ 50 ขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณคลาสสิกที่บ่งชี้ว่าโมเมนตัมของตลาดได้เปลี่ยนข้างมาอยู่ฝั่งกระทิงเป็นที่เรียบร้อย ลบภาพของตลาดที่เคยซบเซาในวันก่อนไปโดยสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน Stochastic RSI ที่เคยเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางอยู่บริเวณโซนล่าง ก็ได้ดีดตัวพุ่งทะยานขึ้นมาอย่างรุนแรง บ่งบอกถึงแรงซื้อที่กลับเข้ามาในตลาดอย่างหนาแน่นและมีนัยสำคัญ การที่ราคาปัจจุบันสามารถยืนอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ระยะสั้นได้นั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นในรอบนี้
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพรวมทางเทคนิคจึงให้น้ำหนักไปที่โอกาสในการปรับตัวขึ้นต่ออย่างชัดเจน เป้าหมายแรกที่ฝั่งกระทิงต้องผ่านให้ได้คือการทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 3,373 ดอลลาร์ หากมีแรงซื้อมากพอที่จะผลักดันให้ราคาทะลุและยืนเหนือระดับนี้ไปได้ จะเป็นการเปิดประตูสู่เป้าหมายถัดไปที่แนวต้านจิตวิทยาสำคัญบริเวณ 3,400 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือแนวรับสำคัญที่เพิ่งถูกทำลายลงมา ซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นแนวรับใหม่ที่แข็งแกร่ง นั่นคือโซน 3,350 ดอลลาร์ ตราบใดที่ราคายังสามารถรักษาฐานเหนือระดับนี้ไว้ได้ ภาพของแนวโน้มขาขึ้นจะยังคงอยู่ แต่หากมีแรงขายกดดันให้ราคากลับลงมาหลุดแนวรับ 3,350 ดอลลาร์อีกครั้ง จะถือเป็นสัญญาณอันตรายว่าการขึ้นมาในรอบนี้อาจเป็นเพียงการ “เบรกหลอก” (False Breakout) และตลาดอาจกลับเข้าสู่ภาวะซบเซาหรือปรับตัวลงอีกครั้งได้เช่นกัน
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,350
$3,338
$3,325
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,372
$3,400
$3,415
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน