วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 12 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
เริ่มต้นเช้าวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568 ด้วยความร้อนแรงของตลาดโลหะมีค่า เมื่อราคาทองคำ XAUUSD ดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 สัปดาห์ แตะระดับ 4,275 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเปิดตลาดเอเชีย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่เป็นผลพวงโดยตรงจากการตัดสินใจของ Fed ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ในกรอบ 3.50% ถึง 3.75% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี
การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อทองคำ เนื่องจากช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยอย่างทองคำ ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐฯ และหันกลับมาซบสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม แม้ทิศทางจะดูสดใส แต่นักลงทุนต้องระวังแรงเหวี่ยง เพราะผู้กำหนดนโยบายของ Fed ได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการ “หยุดพัก” การลดดอกเบี้ยชั่วคราว เพื่อจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อที่พวกเขายังมองว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
สัญญาณอันตรายจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ เมื่อตัวเลขคนตกงานพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี
สิ่งที่น่าจับตามองและเป็นแรงหนุนชั้นดีให้กับราคาทองคำในรอบนี้ คือข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (DOL) ที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
โดยตัวเลขอยู่ที่ 236,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 44,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 220,000 รายอย่างมีนัยสำคัญ
ตัวเลขนี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง แม้จะมีนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าตัวเลขอาจคลาดเคลื่อนจากผลกระทบของวันหยุด Thanksgiving
แต่เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ ซึ่งช่วยลดความผันผวนระยะสั้น ก็ยังพบว่าตัวเลขขยับขึ้นมาอยู่ที่ 216,750 ราย
ภาพรวมของตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างชัดเจนนี้ เป็นตัวกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้ร่วงลง และกลายเป็นแรงหนุนสำคัญให้ทองคำยืนเหนือระดับ 4,200 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดจะเริ่ม price in ความเป็นไปได้ถึง 78% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าก็ตาม
Goldman Sachs ฟันธงเป้าหมายใหม่ เมื่อธนาคารกลางทั่วโลกแห่ตุนทองคำ
ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักลงทุนระยะยาว คือมุมมองจาก Goldman Sachs ที่ออกมาปรับเป้าหมายราคาทองคำสิ้นปี 2026 ขึ้นไปอยู่ที่ 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดย Daan Struyven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Goldman Sachs ชี้ให้เห็นถึงโครงสร้างตลาดที่กำลังเปลี่ยนไป โดยระบุว่าปัจจัยขับเคลื่อนหลักในปีหน้าจะไม่ใช่แค่เรื่องดอกเบี้ย แต่คือการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์สหรัฐฯ
หลังจากเห็นบทเรียนจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ธนาคารกลางจีนได้ทำการซื้อทองคำต่อเนื่องถึง 13 เดือน ในขณะที่ธนาคารกลางโปแลนด์ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด
โดย Struyven ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ตลาด ETF ทองคำทั่วโลกนั้นมีขนาดเล็กกว่าตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 70 เท่า
ดังนั้น หากนักลงทุนภาคเอกชนเริ่มขยับเงินทุนเพียงเล็กน้อยเพื่อกระจายความเสี่ยงเข้ามาใน ETF ทองคำ จะส่งผลให้ราคาดีดตัวขึ้นได้อย่างมหาศาล นี่คือ Hidden Upside ที่ตลาดยังอาจมองข้ามไป
บทสรุปทิศทางทองคำปี 2026 กับความเสี่ยงที่ต้องจับตา เมื่อความผันผวนคือโอกาส
ทางด้าน Ewa Manthey นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จาก ING ก็มีมุมมองที่สอดคล้องกัน โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเฉลี่ยอยู่ที่ 4,325 ดอลลาร์ในปี 2026 ปัจจัยหนุนยังคงเป็นเรื่องความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าในยุคประธานาธิบดี Trump และความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของเฟด
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ควรมองข้ามความเสี่ยงด้านลบที่อาจเกิดขึ้น เช่น กรณีที่ธนาคารกลางบางแห่งตัดสินใจเทขายทองคำเพื่อทำกำไร หรือข้อเสนอของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ Cynthia Lummis ที่เสนอให้ขายทองคำบางส่วนเพื่อไปซื้อ Bitcoin แม้โอกาสจะน้อยแต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง
สรุปแล้ว ภาพใหญ่ของทองคำยังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งจากปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจโลก
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักเก็งกำไร จังหวะย่อตัวจากการแข็งค่าชั่วคราวของดอลลาร์ หรือข่าวการเจรจาสันติภาพยูเครน อาจไม่ใช่สัญญาณให้ถอดใจ แต่เป็นจังหวะในการพิจารณาสถานะถือครอง เพื่อรอรับแรงกระแทกจากระลอกความต้องการของนักลงทุนรายย่อยที่กำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากเมื่อวาน สถานการณ์ล่าสุดบนกราฟราย 4 ชั่วโมงแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำได้สร้างแรงส่งขาขึ้นที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดยปัจจุบันราคาได้พุ่งทะลุแนวต้านแรกบริเวณ 4,256 ดอลลาร์ขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด และกำลังซื้อขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ 4,265 ดอลลาร์
แท่งเทียนที่ผ่านมาเป็นแท่งเขียวขนาดใหญ่ (Big Bullish Candle) ที่ยาวกว่าแท่งก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนถึงอารมณ์ของตลาดที่อยู่ในภาวะ Panic Buy หรือการไล่ราคาอย่างหนักหน่วง
โดยแรงซื้อนี้ได้ดันราคาให้ฉีกตัวหนีห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย EMA ขึ้นมาค่อนข้างมาก บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนฝั่งซื้อที่กลับมาครองตลาดอย่างสมบูรณ์ และหากราคาสามารถปิดเหนือระดับ 4,256 ดอลลาร์ได้ จะเป็นการยืนยันรูปแบบ Breakout ที่สมบูรณ์ เปลี่ยนสถานะจากแนวต้านเดิมให้กลายเป็นแนวรับสำคัญทันที
ในมุมมองของอินดิเคเตอร์ สัญญาณสนับสนุนขาขึ้นยังคงชัดเจนแต่เริ่มเข้าสู่โซนที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยค่า RSI ได้ขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับ 70 จุด ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่แตะระดับ Overbought อย่างเป็นทางการ แต่ก็เหลือพื้นที่ให้ราคาเหวี่ยงตัวขึ้นได้อีกไม่มากนักก่อนจะเจอแรงเทขายทำกำไร
ในขณะที่ Stochastic RSI ได้พุ่งเข้าสู่โซน Overbought (เหนือระดับ 80) เรียบร้อยแล้ว การที่เส้นสัญญาณแช่อยู่ในโซนบนเช่นนี้ ในทางเทคนิคระยะสั้นตีความได้ว่าเทรนด์มีความแข็งแกร่งสุดขีด (Super Bullish)
แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นสัญญาณเตือนว่าราคาอาจมีการแกว่งตัวผันผวนหรือย่อตัวระยะสั้นได้ทุกเมื่อเพื่อลดความร้อนแรง
ดังนั้นเป้าหมายถัดไปในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคามีโอกาสสูงที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาและแนวต้าน Fibonacci ถัดไปที่บริเวณ 4,276 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นด่านหินสำคัญ
สำหรับกลยุทธ์การเทรดใน 24 ชั่วโมงต่อจากนี้ นักลงทุนควรจับตาดูพฤติกรรมราคาที่บริเวณ 4,265 - 4,276 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด หากราคายังพุ่งต่อ การไล่ราคา (Follow Buy) ในโซนนี้มีความเสี่ยงสูงขึ้นเนื่องจาก Risk-to-Reward Ratio เริ่มไม่คุ้มค่า
การรอจังหวะย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับใหม่บริเวณ 4,256 ดอลลาร์ (ซึ่งเดิมคือแนวต้านที่เพิ่งถูกทำลาย) จะเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่า โดยถ้าราคาย่อลงมาแล้วไม่หลุดโซน 4,250 - 4,256 ดอลลาร์ จะถือเป็นการย่อเพื่อขึ้นต่อตามเทรนด์หลัก
แต่หากแรงเทขายออกมาหนักจนราคาหลุดกลับลงไปต่ำกว่า 4,250 ดอลลาร์ อาจจะต้องกลับไปมองแนวรับฐานเดิมแถว 4,230 ดอลลาร์อีกครั้ง
สรุปภาพรวมระยะสั้น โมเมนตัมยังเป็นขาขึ้นที่ได้เปรียบ แต่อยู่ในช่วงปลายรอบของการพุ่งขึ้นชุดนี้ จึงควรเน้นการย่อซื้อและไม่ควรประมาทแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นเมื่อชนแนวต้าน 4,276 ดอลลาร์

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,256
$4,230
$4,212
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,276
$4,300
$4,327
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


