วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 3 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าของตลาดเอเชียเผชิญกับแรงกดดันระยะสั้น ส่งผลให้ราคาทองคำ XAUUSD ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 4,210 ดอลลาร์
พฤติกรรมของนักลงทุนในช่วงเวลานี้สะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังอย่างชัดเจน โดยมีการเลือกที่จะล็อกกำไรเข้าพอร์ตก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงค่ำของวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (ISM) ภาคบริการ
ถึงแม้จะมีการย่อตัวลงของราคา แต่ภาพรวมของตลาดทองคำยังคงมีปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งรออยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะความคาดหวังเรื่องนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงเป็นประเด็นหลักในการขับเคลื่อนราคา
Peter Grant รองประธานและนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะมีค่าจาก Zaner Metals ให้ความเห็นว่า การย่อตัวครั้งนี้เป็นเพียงการทำกำไรตามรอบปกติ ในขณะที่จุดโฟกัสใหญ่ของตลาดยังคงอยู่ที่ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สให้ลุ้นโอกาสสูงถึง 89% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธันวาคมนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่อยู่ที่ระดับ 71%
ความร้อนแรงของตลาดรายย่อยและสัญญาณจากแร่เงิน
สิ่งที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามในรอบนี้คือพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามามีบทบาทโดดเด่นอย่างมากในตลาดโลหะมีค่า
ข้อมูลจาก CME Group ระบุว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADV) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะสัญญา Micro Gold futures ซึ่งมีขนาดเพียงหนึ่งในสิบของสัญญาปกติ มียอดการซื้อขายเฉลี่ยพุ่งขึ้นถึง 235% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีเม็ดเงินจากนักลงทุนรายย่อยไหลเข้าสู่ตลาดเก็งกำไรทองคำอย่างมหาศาล และเป็นฐานที่ช่วยพยุงราคาไม่ให้ร่วงลงแรงแม้นักลงทุนสถาบันบางส่วนจะมีการปรับพอร์ตก็ตาม
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของราคาแร่เงิน (Silver) ยังส่งสัญญาณบวกที่น่าจับตามอง โดยราคาแร่เงินได้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพุ่งทะลุ 59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 100%
Chris Mancini ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอร่วมกองทุน GOLDX ของ Gabelli Funds มองว่าแร่เงินยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของมูลค่าเมื่อเทียบกับทองคำ โดยอัตราส่วนราคาทองคำต่อแร่เงิน (Gold-to-Silver Ratio) ในปัจจุบันอยู่ที่ 74 ซึ่งยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 68
นั่นหมายความว่าแร่เงินยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเพื่อกลับไปสู่จุดสมดุล และความร้อนแรงของแร่เงินนี้มักจะส่งผลทางจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาทองคำในท้ายที่สุด โดยทำหน้าที่เป็นตัวดึงดูดกระแสเงินทุนให้ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มโลหะมีค่าทั้งระบบ
ภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองสหรัฐฯ ตัวแปรที่ไม่อาจมองข้าม
สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่คอยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองเมื่อ Steve Witkoff ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เตรียมเข้าพบประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพในยูเครน
หากการเจรจามีสัญญาณของความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น หรือล้มเหลว ย่อมจะเป็นแรงส่งชั้นดีที่ผลักดันให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว
ในทางตรงกันข้าม หากเกิดความหวังในสันติภาพที่จับต้องได้ ก็อาจเป็นปัจจัยลบกดดันราคาในระยะสั้นได้เช่นกัน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงประเมินว่าความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกยังมีอยู่สูง
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือความเคลื่อนไหวทางการเมืองในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการสรรหาประธาน Fed คนใหม่
ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ส่งสัญญาณว่าจะประกาศรายชื่อผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก Jerome Powell ในต้นปีหน้า โดยชื่อของ Kevin Hassett ที่ปรึกษาเศรษฐกิจคนสนิทถูกจับตามองเป็นพิเศษ
Hassett มีแนวคิดสนับสนุนนโยบายดอกเบี้ยต่ำและมาตรการภาษีนำเข้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ Trump หาก Hassett ได้รับเลือกจริง ตลาดอาจตีความไปในทิศทางที่นโยบายการเงินของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายมากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาทองคำในระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่อาจกลับมาปะทุอีกครั้งจากนโยบายการคลังที่ร้อนแรง
ทิศทางราคาทองคำในอนาคตจะไปทางไหนต่อ
เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงเทคนิคและปริมาณสินค้าคงคลัง นักวิเคราะห์จาก Heraeus ชี้ให้เห็นถึงสภาวะตึงตัวของอุปทานกายภาพ
โดยเฉพาะในตลาดเซี่ยงไฮ้และ COMEX ที่ปริมาณสต็อกแร่เงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้เกิดภาวะ Backwardation ในตลาดฟิวเจอร์สจีน ซึ่งราคา Spot ซื้อขายสูงกว่าราคาล่วงหน้า
สัญญาณนี้บ่งชี้ถึงความต้องการที่แท้จริงที่แข็งแกร่งมาก ในขณะที่ราคาทองคำเอง แม้จะมีการย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับ แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน การที่ราคาสามารถรักษาระดับฐานนี้ไว้ได้ แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นใหญ่ยังคงไม่เสียทรง
สำหรับนักลงทุนและนักเก็งกำไร กลยุทธ์ในช่วงนี้คือการจับตาดูแนวรับบริเวณ 4,200 - 4,210 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้และมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้ ก็มีโอกาสสูงที่ราคาจะดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้าและความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องจากความเสี่ยงระดับมหภาค
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนอาจเกิดขึ้นได้เสมอ นักลงทุนควรบริหารจัดการความเสี่ยงและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ Fed ที่อาจส่งสัญญาณชี้นำทิศทางดอกเบี้ยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สถานการณ์ล่าสุดในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าราคาทองคำได้เข้าสู่รอบการพักฐานระยะสั้น (Correction) ตามสัญญาณเตือนจากอินดิเคเตอร์ที่ระบุไว้ก่อนหน้า
โดยปัจจุบันราคาได้ย่อตัวลงมาทดสอบบริเวณ 4,210 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดวัดใจสำคัญของรอบวัน
สอดคล้องกับภาพกราฟเทคนิคที่แสดงให้เห็นว่าแท่งเทียนมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ Fibonacci 61.8% เล็กน้อย และกำลังพยายามสร้างฐานราคาเพื่อยืนเหนือโซนแนวรับย่อยบริเวณ 4,206 - 4,212 ดอลลาร์ให้ได้
การย่อตัวลงครั้งนี้ถือเป็นพฤติกรรม Throwback หรือการลงมาทดสอบแนวต้านเดิมที่ถูกเบรกขึ้นไป เพื่อเปลี่ยนให้เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
ซึ่งหากราคาสามารถประคองตัวปิดแท่งเทียน 4 ชั่วโมงเหนือโซนนี้ได้ จะเป็นการยืนยันโครงสร้างขาขึ้นเพื่อเตรียมดีดตัวกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง
ด้านอินดิเคเตอร์จะเห็นความสอดคล้องที่น่าสนใจของการย่อตัวรอบนี้ โดยเฉพาะ Stochastic RSI ที่ล่าสุดลงมาแตะระดับขายมากเกินไป (Oversold)
สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าแรงขายทำกำไรระยะสั้นที่กดดันราคาลงมานั้นใกล้จะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หากกราฟสามารถเริ่มโค้งตัวกลับขึ้นในโซนด้านล่างได้ จะเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นรอบใหม่ที่กำลังจะก่อตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่รอเข้าซื้อสะสมในจังหวะย่อตัว
สำหรับแนวโน้มในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดการณ์ว่ากราฟจะมีความผันผวนในลักษณะ Sideway Down เพื่อปรับลดความร้อนแรงของอินดิเคเตอร์ก่อนที่จะเลือกทาง โดยมีโซนแนวรับสำคัญคือบริเวณ 4,175 ดอลลาร์
หากราคายังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับนี้ ภาพรวมใหญ่ยังคงเป้าหมายการขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 4,230 และ 4,276 ดอลลาร์ตามลำดับ
ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการจับตาดู หากเห็นสัญญาณการปฏิเสธราคาต่ำ (Rejection) หรือมีแรงซื้อกลับบริเวณ 4,200 - 4,210 ดอลลาร์ จะเป็นจุดที่ได้เปรียบในการเข้าถือสถานะฝั่งซื้อ (Buy) เพื่อลุ้นการดีดตัวกลับตามเทรนด์หลัก

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,195
$4,175
$4,135
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,212
$4,230
$4,275
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


