วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 22 ตุลาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยเจอกับแรงเทขายมหาศาลในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยราคาทองคำร่วงลงไปแตะระดับ $4,000 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ $4,100 ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาทองคำ XAUUSD จะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 วัน แต่หากมองย้อนกลับไป ราคาทองคำยังคงบวกขึ้นมามากกว่า 56% นับตั้งแต่ต้นปี 2025
แรงขายถล่มทำกำไร หรือสัญญาณอันตรายที่ยังไม่จบ
แรงเทขายที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถูกจุดชนวนขึ้นตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดลอนดอนและลากยาวมาจนถึงช่วงการซื้อขายในอเมริกาเหนือ คำถามสำคัญในหมู่นักลงทุนคือ นี่คือการเทขายทำกำไรตามปกติ หรือเป็นสัญญาณของปัญหาที่ลึกกว่านั้น?
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า นี่คือการขายทำกำไรทางเทคนิคในตลาดที่ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงมาก่อนหน้านี้ ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้นจากประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และการที่ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นทำสถิติสูงสุดใหม่ เป็นตัวกระตุ้นแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่าการปรับฐานในทองคำเป็นเรื่องของการขายทำกำไร โดยระบุว่าสถานะการถือ Positioning อยู่ในจุดที่ตึงตัวอย่างมากในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน Risk Parity และ Vol-Control ที่ใช้เลเวอเรจใกล้เต็มเพดาน รวมถึงแรงซื้อจากธนาคารกลางที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และการที่นักลงทุนรายย่อยในจีนยังคงชะลอการซื้อ
Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์ตลาดจาก City Index และ FOREX.com เห็นพ้องว่าการเทขายในวันนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้ว เมื่อพิจารณาจากขนาดของการปรับขึ้นในปีนี้
เขาระบุว่า บางคนอาจจะมองว่าทำไมมันถึงใช้เวลานานขนาดนี้ หลังจากที่มีแรงซื้อเข้ามามหาศาล แต่ในที่สุดนักลงทุนก็เริ่มที่จะเทขายทำกำไร ไม่ว่าจะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม และผลกระทบจากการขายทำกำไรและการล้างสถานะฝั่งซื้อ (Long-side Liquidation) ได้สร้างแรงกดดันด้านการขายอย่างแท้จริง หลังจากที่ตลาดเป็น One-way traffic หรือขาขึ้นทางเดียวมาตลอด
เสียงเตือนจากอดีตที่ปรึกษา Fed อันตรายในตลาดเครดิต และวิกฤตที่ซ่อนอยู่
อย่างไรก็ตาม มีอีกมุมหนึ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และกำลังเป็นที่จับตามอง Danielle DiMartino Booth อดีตที่ปรึกษาประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาดัลลัส ได้ออกมาเตือนว่า “วิกฤตสภาพคล่อง” (Liquidity Crisis) เชิงระบบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และสิ่งนี้จะบีบให้ Fed ต้องยุติการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ไม่ใช่เพราะทำสำเร็จ แต่เพราะระบบการเงินกำลังจะพังทลาย
Booth ยืนยันว่า ดูเหมือนว่าระบบกำลังขาดแคลนสภาพคล่องอย่างเพียงพอ และการที่ Fed ยังคงดำเนินนโยบายดึงสภาพคล่องออก (QT) เดือนละ 95,000 ล้านดอลลาร์ คือต้นตอของปัญหา
Booth ให้ความเห็นว่า การดิ่งลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำไม่ใช่การปฏิเสธปัจจัยพื้นฐานของทองคำ แต่เป็นสัญญาณของการบังคับขาย เนื่องจากตลาดกำลังอยู่ในภาวะ “Dash for Cash” หรือการแย่งชิงเงินสด ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เดียวกับที่เห็นในช่วงเดือนมีนาคม 2020
เขาคิดว่าเรากำลังเห็นภาพซ้ำของสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 เมื่อคนโดน Margin Call หรือต้องการเงินสดอย่างเร่งด่วน พวกเขามักจะ “ขายสินทรัพย์ที่กำไรดีที่สุด” (Sell their winners)
Booth ชี้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการลุกลามจากมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่หละหลวมในช่วงยุคดอกเบี้ยศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับความกังวลของ Andrew Bailey ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ และคำเตือนล่าสุดของ Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan Chase
เมื่อถูกถามถึงสัญญาณสุดท้ายที่จะยืนยันว่าวิกฤตนี้กำลังลุกลามสู่สาธารณะ Booth ชี้ไปที่ตลาด “CLO” (Collateralized Loan Obligation)
ถ้าเราเริ่มเห็นส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Spreads) ของ CLO เริ่มถ่างกว้างขึ้น นั่นจะบอกได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด Private Credit เหตุการณ์นั้นกำลังไหลเข้าสู่ตลาดสาธารณะแล้ว
หลังทุบหนัก แนวรับสำคัญอยู่ตรงไหน และภาพใหญ่ของราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นหรือไม่
สำหรับนักเทรดและนักลงทุนในระยะสั้นถึงกลาง การจับตาแนวรับทางเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง Fawad Razaqzada ให้ความเห็นว่า เขากำลังจับตาแนวต้านที่กลายเป็นแนวรับที่ $4,100 ตามด้วย $4,080 และ $4,060 ถ้าหากราคายังหลุดระดับเหล่านี้ การย่อตัวกลับไปสู่แนวรับจิตวิทยาสำคัญถัดไปที่ $4,000 ก็มีความเป็นไปได้สูง
ในขณะที่ Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่า ราคาทองคำสามารถปรับตัวลดลงได้ถึง $3,973 โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
แม้จะมีความเสี่ยงในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพใหญ่ Hansen ยืนยันว่า ทั้งทองคำและโลหะเงินยังคงอยู่ในตลาดกระทิงเชิงโครงสร้าง ซึ่งขับเคลื่อนโดยการประเมินมูลค่าความน่าเชื่อถือในระบบการเงินโลกใหม่ (Re-pricing of trust in global finance)
ปัจจัยพื้นฐานยังคงถูกครอบงำด้วยธีมเดิมๆ ที่ผลักดันให้ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่มาโดยตลอด ทั้งจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในระเบียบการเงินแบบเก่า ทั้งการสะสมทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลาง รวมถึงอุปสงค์ใหม่จากกองทุน ETF ในโลกตะวันตก และความต้องการจากภาคครัวเรือนในจีนที่มองหาทางเลือกท่ามกลางการตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์
Ricardo Evangelista นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ActivTrades กล่าวว่า เขายังคงคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นต่อไปแม้จะมีการปรับฐานล่าสุด เนื่องจากเทรดเดอร์ยังคงมองว่าการย่อตัวของราคายังเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
เขาเสริมว่า ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้า และการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนสถานะหลุมหลบภัยของทองคำ
นอกจากนี้ การคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้และในเดือนธันวาคม ก็ควรเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเช่นกัน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงมีแนวโน้มจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สถานการณ์ล่าสุดจากกราฟราคาทองคำ Timeframe 4 ชั่วโมง ได้เปลี่ยนแปลงไปจากวันก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ สัญญาณ Bearish Divergence บนดัชนี RSI ที่เราได้เฝ้าระวังไว้ ได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจน โดยได้กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงมาอย่างรุนแรง ทะลุแนวรับสำคัญหลายระดับลงมา ทั้งโซน $4,220 และ $4,186
ในขณะที่วิเคราะห์นี้ ราคาทองคำได้ร่วงลงมาบริเวณ $4,100 โดยได้ชะลออยู่ในช่วงแนวรับ Fibonacci 23.60% ซึ่งเป็นการยืนยันโมเมนตัมขาลงที่แข็งแกร่งในระยะสั้นอย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่แนวรับ $4,057
หากแนวรับนี้ยังคงถูกทำลาย แรงขายอาจผลักดันให้ราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับจิตวิทยาที่ $4,000 หรือเป้าหมายถัดไปตาม Fibonacci 38.20% ที่บริเวณ $3,900 ได้เลย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า มีสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่งจากดัชนี Stochastic RSI (Stoch RSI) ซึ่งปัจจุบันได้ดิ่งลงสู่เขต Oversold หรือ ขายมากเกินไป (ดังที่ปรากฏในวงกลม) โดยเส้นสัญญาณทั้งสองได้ลดลงไปอยู่ในระดับต่ำมาก บ่งชี้ว่าแรงขายในระยะสั้นนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนเกินไป และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการดีดตัวทางเทคนิค (Technical Rebound) เพื่อปรับฐานในระยะสั้นได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น กลยุทธ์ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงเป็นการเฝ้าระวังการสร้างฐานที่แนวรับ $4,100 - $4,087 หากราคาสามารถยืนอยู่ได้และเกิดการดีดตัวกลับ เป้าหมายแรกของการรีบาวด์คือการกลับไปทดสอบแนวต้าน $4,135 (แนวรับเดิมที่เพิ่งหลุดมา) แต่ตราบใดที่ราคาทองคำยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือโซน $4,186 ได้ ภาพรวมในระยะกลางยังคงถูกกดดันด้วยแนวโน้มขาลงที่เพิ่งได้รับการยืนยันนี้

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,085
$4,055
$4,00
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,135
$4,186
$4,220
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


