วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 24 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ยังคงร้อนแรงไม่เลิกสำหรับราคาทองคำ ที่ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ท้าทายทุกทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่เราเคยร่ำเรียนมา
โดยในช่วงเช้าเปิดตลาดเอเชียวันนี้ ราคาทองคำ XAUUSD พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,525 ดอลลาร์ นับเป็นการทำสถิติสูงสุดครั้งที่ 50 ของปีนี้ ส่งผลให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีพุ่งสูงถึง 70% ซึ่งถือเป็นปีที่ทองคำทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 ในขณะที่แร่เงินเพื่อนบ้านก็ไม่น้อยหน้า ปรับตัวขึ้นกว่า 130% ในปีเดียว
สิ่งที่น่าสนใจคือการเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะตลาดที่ควรจะเป็นลบต่อทองคำ แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งข่าวดีทางเศรษฐกิจออกมามากเท่าไหร่ ความกังวลกลับยิ่งผลักดันให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
นักลงทุนที่ถือสถานะ Long ไว้อาจกำลังเฉลิมฉลอง แต่สำหรับคนที่ตกรถ นี่คือช่วงเวลาที่บีบหัวใจที่สุดในการตัดสินใจว่าจะไล่ราคาต่อหรือรอการปรับฐานที่ดูเหมือนจะไม่มาถึงเสียที
ภาพลวงทางเศรษฐกิจ เมื่อตัวเลข GDP สวนทางเงินของประชาชน
ประเด็นที่นักลงทุนต้องขบคิดในวันนี้ คือความย้อนแย้งของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด โดย Bureau of Economic Analysis ได้เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของปี 2025 ที่ขยายตัวถึง 4.3% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% อย่างขาดลอย
ตัวเลขนี้สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออก
หากมองแค่ผิวเผิน นี่ควรจะเป็นข่าวร้ายสำหรับราคาทองคำ เพราะเศรษฐกิจที่ดีมักจะทำให้นักลงทุนเทขายทองเพื่อไปหาสินทรัพย์เสี่ยง
แต่ความจริงกลับซับซ้อนกว่านั้น เพราะในขณะที่ GDP โตระเบิด ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods) ประจำเดือนตุลาคมกลับดิ่งลงเหวถึง 2.2% ซึ่งแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก
การที่ภาคการผลิตส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างรุนแรงเช่นนี้ เป็นตัวบ่งชี้ว่าไส้ในของเศรษฐกิจจริงอาจไม่ได้สวยหรูเหมือนตัวเลข GDP และนี่คือรอยร้าวที่ทำให้นักเก็งกำไรยังคงเชื่อมั่นในการถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะถดถอยที่อาจซ่อนอยู่
วิกฤตความเชื่อมั่นและสัญญาณ Recession ที่ดังกว่าเดิม
สิ่งที่ตอกย้ำว่าทำไมราคาทองคำถึงยังยืนเหนือระดับ 4,400 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง คือรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) ที่ประกาศโดย Conference Board ซึ่งลดลงเหลือ 89.1 ในเดือนธันวาคม ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
Dana M Peterson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Conference Board ชี้ให้เห็นประเด็นที่น่าตกใจว่า ดัชนีความคาดหวัง (Expectations Index) ซึ่งสะท้อนมุมมองในอนาคตระยะสั้น ได้เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 80 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 แล้ว
ในทางสถิติระดับที่ต่ำกว่า 80 คือสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าของภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ผู้บริโภคเริ่มมองว่าตลาดแรงงานในอนาคตจะแย่ลง และรายได้ครัวเรือนจะไม่เติบโต
แม้ว่าคนรุ่น Gen Z และ Millennials จะยังพอมองโลกในแง่ดีอยู่บ้าง แต่ภาพรวมของคนวัยทำงานส่วนใหญ่เริ่มสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดทางการเงิน
ซึ่งสอดคล้องกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่กลับมาหลอกหลอน เมื่อราคาสินค้าและบริการยังคงกดดันกำลังซื้อ การที่ทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อและการเสื่อมค่าของเงินดอลลาร์จึงยังเป็นธีมการลงทุนหลักที่ไม่เปลี่ยนแปลง
สงครามเย็นยุคใหม่กับเดิมพันน้ำมันและภูมิรัฐศาสตร์
ปัจจัยสุดท้ายที่ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้กับขาขึ้นของราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่การซื้อขายเบาบางนี้ คือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นมาใหม่อย่างรุนแรง
ประธานาธิบดี Trump ได้ออกมาเตือนประธานาธิบดี Nicolas Maduro แห่งเวเนซุเอลาอย่างแข็งกร้าว โดยสหรัฐฯ ได้ยกระดับการปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันที่เดินทางเข้าออกเวเนซุเอลา และมีการยึดน้ำมันจากเรือที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร
สถานการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ แต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดพลังงานและความมั่นคงของอุปทานน้ำมันโลก
ข้อมูลจาก Kpler ระบุว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำถูกเพ่งเล็ง ความไม่แน่นอนนี้กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาในตลาดทองคำทันที แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 57.75 ดอลลาร์ แต่ความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะบานปลายกลายเป็นสงครามตัวแทนหรือการเผชิญหน้าทางทหาร คือสิ่งที่นักลงทุนสถาบันกลัวที่สุด
และเมื่อความกลัวปกคลุมตลาด ทองคำจึงเป็นหลุมหลบภัยเดียวที่ทุกคนไว้วางใจ ส่งผลให้แนวโน้มราคายังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แม้จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาบ้างก็ตาม
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ต่อเนื่องจากบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ที่ได้ประเมินถึงความร้อนแรงของราคาทองคำ ล่าสุดภาพรวมทางเทคนิคในกราฟราย 4 ชั่วโมงได้ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นแบบ Parabolic Move อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อราคาสามารถทะลุผ่านด่านแนวต้าน Fibonacci Extension 141.40% บริเวณ 4,494 - 4,497 ดอลลาร์ขึ้นมาได้สำเร็จ และปัจจุบันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 4,522 ดอลลาร์
การที่ราคายังคงรักษาระดับยืนเหนือกรอบบนของ Regression Trend Channel สีฟ้าได้อย่างมั่นคง และทิ้งห่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMAs) ออกไปเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่อย่างมหาศาลในตลาด
อย่างไรก็ตาม ในความร้อนแรงนี้มีจุดที่นักลงทุนจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นทวีคูณในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากราคากำลังเดินทางเข้าใกล้เป้าหมายสำคัญทางจิตวิทยาและทางเทคนิคระดับโลก นั่นคือระดับ Fibonacci Extension 161.8% ที่บริเวณ 4,566 - 4,568 ดอลลาร์
ซึ่งตามสถิติแล้วระดับ 161.8% มักจะเป็นจุดที่มีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างรุนแรง หรือเป็นจุดกลับตัวชั่วคราวที่สำคัญ
เมื่อประกอบกับสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ทั้ง RSI ที่ยังคงแช่อยู่ในโซน Overbought อย่างต่อเนื่อง ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าภาวะ Extreme Greed หรือความโลภสุดขีดกำลังครอบงำตลาด และความเสี่ยงของการเกิดการปรับฐานรุนแรงแบบฉับพลัน (Flash Crash หรือ Sharp Pullback) เพื่อกลับเข้าหาค่าเฉลี่ย (Mean Reversion) กำลังเพิ่มสูงขึ้นตามระดับราคาที่ไต่ขึ้นไป
ดังนั้น มุมมองสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ หากแรงซื้อยังคงผลักดันราคาขึ้นต่อ ให้จับตาดูปฏิกิริยาของราคาบริเวณ 4,566 - 4,568 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด การไล่ซื้อในโซนนี้มีความเสี่ยงสูงมาก
แต่หากราคาสูญเสียโมเมนตัมและเริ่มมีการย่อตัวลงมา แนวรับแรกที่เปลี่ยนจากแนวต้านเดิมจะอยู่ที่บริเวณ 4,497 ดอลลาร์ (Fib 141.4%)
หากรับไม่อยู่ แนวรับสำคัญถัดไปที่จะเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของขาขึ้นรอบนี้คือบริเวณ 4,443 ดอลลาร์ (Fib 127.2%) ซึ่งการย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับเหล่านี้แล้วสามารถดีดตัวกลับได้ จะถือเป็นการสร้างฐานเพื่อไปต่อที่มั่นคงกว่าการขึ้นรวดเดียวในปัจจุบัน

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,497
$4,443
$4,394
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,540
$4,566
$4,600
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


