วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ความเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2025 กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มโลหะมีค่าอย่างทองคำและเงินที่สามารถดีดตัวในช่วงข้ามคืน และกลับมาปิดบวกได้อย่างน่าสนใจ
โดยราคาทองคำ XAUUSD เช้าวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 4,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาโลหะเงิน (Silver) ขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 63.67 ดอลลาร์ สาเหตุหลักของการฟื้นตัวในครั้งนี้มาจากชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถูกปล่อยออกมาล่าสุด ซึ่งส่งสัญญาณที่นักวิเคราะห์เรียกว่าภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
นั่นก็เพราะตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้ร้อนแรงจนน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้เย็นลงจนเข้าขั้นวิกฤตในทันที ทำให้ตลาดตีความว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed อาจยังมีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2026 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำยังคงยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 4,300 ดอลลาร์ได้
แต่นักลงทุนต้องระวังให้ดีเพราะภายใต้ตัวเลขที่ดูเหมือนจะประคองตัวได้นั้น มีรอยร้าวที่ลึกกว่าที่ตาเห็นซ่อนอยู่
เจาะลึกตัวเลขจ้างงานและสัญญาณเตือนจากภาคธุรกิจที่เริ่มหมดแรง
แม้พาดหัวข่าวเศรษฐกิจจะระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 64,000 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 51,000 ตำแหน่ง แต่หากเราเจาะลึกลงไปในรายละเอียดจะพบความจริงที่น่ากังวล
ประการแรกคือตัวเลขของเดือนตุลาคมถูกปรับลดลงอย่างมหาศาลกลายเป็นติดลบ 105,000 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดแรงงาน
นอกจากนี้ อัตราการว่างงานยังขยับขึ้นต่อเนื่องแตะระดับ 4.6% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.5%
ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ชัดเจนว่าชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังประสบปัญหาในการหางานใหม่ และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคือการเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวลงเหลือเพียง 0.1% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 เป็นต้นมา
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก S&P Global ยังตอกย้ำภาพความอ่อนแอด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นประจำเดือนธันวาคม ที่ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 53
โดยเฉพาะภาคบริการที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global Market Intelligence ได้วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังสูญเสียโมเมนตัมในช่วงท้ายปี และสิ่งที่น่ากลัวคือต้นทุนการผลิตกำลังพุ่งสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกำแพงภาษี
สถานการณ์นี้ทำให้เกิดภาพความเสี่ยงที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อกลับเร่งตัวขึ้น หรือที่คล้ายกับภาวะ Stagflation อ่อนๆ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วเป็นแรงหนุนชั้นดีให้กับราคาทองคำในระยะสั้น
มุมมองสวนกระแสและคำเตือนเรื่องจุดจบของวัฏจักรขาขึ้นจาก Avi Gilburt
ท่ามกลางกระแสข่าวที่ดูเหมือนจะเป็นใจให้กับราคาทองคำ แต่ยังมีมุมมองที่แตกต่างจาก Avi Gilburt นักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อดังและผู้ก่อตั้ง ElliottWaveTrader ที่ออกมาเตือนสติเหล่านักเก็งกำไรว่า อย่าเพิ่งหลงระเริงไปกับตัวเลขพื้นฐาน เพราะกราฟเทคนิคกำลังบอกเล่าเรื่องราวที่น่ากลัวกว่านั้น
Gilburt มองว่าการพุ่งขึ้นของราคาทองคำและเงินที่ดำเนินมาตั้งแต่จุดต่ำสุดปี 2015-2016 กำลังเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของวัฏจักรแล้ว เขาเชื่อว่าปี 2026 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนำไปสู่การจบรอบขาขึ้นที่ยาวนานนับทศวรรษ และอาจตามมาด้วยตลาดหมี (Bear Market) ที่กินเวลายาวนานหลายปี
Gilburt ให้จุดสังเกตทางเทคนิคที่สำคัญมากสำหรับนักเทรด คือแนวต้านบริเวณ 4,383 ดอลลาร์ หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้ เราอาจได้เห็นการปรับฐานรุนแรงลงไปทดสอบระดับ 3,800 ดอลลาร์
ซึ่งเขามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อเล่นรอบเด้งสุดท้าย (Final Rally) ที่อาจพาราคาไปเฉียดระดับจิตวิทยาที่ 5,000 ดอลลาร์ ก่อนที่วัฏจักรจะจบลงอย่างสมบูรณ์และราคาทองคำอาจร่วงลงไปปรับฐานลึกถึงโซน 2,000 ดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้า
สิ่งที่น่าสนใจคือ Gilburt ย้ำว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแทบจะไม่มีผลต่อการจบรอบของวัฏจักรนี้ โดยเขายกตัวอย่างวิกฤตปี 2008 ที่ทองคำร่วงลงกว่า 30% พร้อมกับตลาดหุ้น ดังนั้นนักลงทุนไม่ควรวางใจว่าทองคำจะเป็นหลุมหลบภัยที่ปลอดภัยที่สุดเสมอไป
โอกาสสุดท้ายของ Silver และกลยุทธ์รับมือความผันผวนในปี 2026
แม้ภาพรวมระยะยาวจะดูน่ากังวล แต่ในระยะสั้นถึงกลางตลาดยังคงมีโอกาสให้นักเก็งกำไรได้แสวงหาผลตอบแทน
โดยเฉพาะในโลหะเงิน (Silver) ซึ่ง Gilburt มองว่ายังมีโอกาสที่จะวิ่งแบบ Parabolic หรือพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในลักษณะ Blow-off top โดยมีเป้าหมายราคาสูงถึง 75 ถึง 80 ดอลลาร์ หากราคาสามารถประคองตัวเหนือแนวรับสำคัญในช่วง 43-47 ดอลลาร์ไว้ได้
การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้จะคล้ายคลึงกับรูปแบบราคาที่เคยเกิดขึ้นในปี 2010-2011 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด เพราะจังหวะที่ราคาวิ่งแรงที่สุดและคนในตลาดมีความมั่นใจมากที่สุด มักจะเป็นจุดที่อันตรายที่สุดก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกรา
สรุปแล้ว สำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักเทรด ตอนนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมความพร้อม แม้ตลาดจะยังคงเก็งกำไรการลดดอกเบี้ยของ Fed อีก 3 ครั้งในปี 2026 ซึ่งเป็นปัจจัยบวก
แต่ความเสี่ยงเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและโครงสร้างราคาทางเทคนิคที่เริ่มตึงตัว บ่งชี้ว่าปีหน้าจะเป็นปีแห่งการวัดใจ
กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้คือการไม่ประมาท ติดตามแนวต้าน 4,383 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนบริหารความเสี่ยงหากราคาทองคำเริ่มแสดงอาการจบรอบตามที่นักวิเคราะห์สายเทคนิคได้เตือนไว้
เพราะในโลกของการลงทุน สิ่งที่ทำร้ายพอร์ตการลงทุนได้มากที่สุดไม่ใช่กราฟราคา แต่เป็นความเชื่อมั่นที่มากเกินไปในยามที่วัฏจักรกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดของราคาทองคำในกราฟราย 4 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 4,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภาพรวมทางเทคนิคได้ยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
โดยหลังจากที่ราคามีการย่อตัวลงมาพักฐานชั่วคราวเพื่อลดความร้อนแรง ก็ได้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างหนาแน่นในโซนแนวรับจิตวิทยา ทำให้แท่งเทียนกลับเป็นสีเขียวและพยายามดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบด่านสำคัญอีกครั้ง
สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้คือพฤติกรรมของอินดิเคเตอร์ Stoch RSI ที่ก่อนหน้านี้เราได้คาดการณ์ว่าจะย่อลงมาแตะโซนล่าง ซึ่งล่าสุดเส้นสัญญาณสีน้ำเงินได้ตัดขึ้นเหนือเส้นสีส้ม (Golden Cross) ในโซน Oversold เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งชี้หัวขึ้นอย่างชัดเจน
สอดคล้องกับเส้น RSI หลักที่เริ่มยกตัวขึ้นเหนือระดับ 50 บ่งบอกว่าโมเมนตัมฝั่งกระทิงได้กลับมาครองตลาดอีกครั้งและพร้อมที่จะผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อ โดยการพักตัวที่ผ่านมาเป็นเพียงการสะสมกำลังเพื่อกระโดดข้ามกำแพงแนวต้านเดิมเท่านั้น
สำหรับทิศทางราคาทองคำในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ถือเป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ โดยราคาปัจจุบันกำลังจ่อทดสอบแนวต้าน Fibonacci 88.70% ที่บริเวณ 4,327 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นด่านหินด่านแรก
หากแท่งเทียน 4 ชั่วโมงนี้สามารถปิดบวกและยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะเป็นการเปิดประตูสู่เป้าหมายถัดไปที่บริเวณกรอบบนของ Regression Trend Channel ซึ่งสอดคล้องกับระดับ Fibonacci 94.20% ที่ราคาประมาณ 4,354 ดอลลาร์ทันที
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นเมื่อราคาเข้าใกล้กรอบบนสุดของแชนเนล
แต่ตราบใดที่ราคายังสามารถประคองตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยและไม่หลุดแนวรับสำคัญโซน 4,276 ดอลลาร์ (Fibonacci 78.60%) ภาพรวมยังคงให้น้ำหนักในฝั่ง Buy เป็นหลัก โดยมองว่าการย่อตัวระหว่างวันเป็นจังหวะในการเข้าสะสมเพื่อเล่นรอบขาขึ้นระลอกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการส่งสัญญาณเชิงบวกของอินดิเคเตอร์ในชุดปัจจุบัน

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,300
$4,276
$4,256
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,327
$4,354
$4,384
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


