วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 1 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAUUSD เปิดสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนอย่างร้อนแรง โดยราคาขึ้นไปเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 3,440 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยแม้จะมีการย่อตัวลงเล็กน้อยจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ทะยานขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ แต่ทิศทางโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง
การทะยานขึ้นของทองคำในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ แต่ยังเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์และรายเดือนที่แข็งแกร่งในทางเทคนิค ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับแรงซื้อตามแนวโน้มเมื่อตลาดสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร หลังจากวันหยุดวันแรงงานในวันนี้
เศรษฐกิจสหรัฐฯ แกร่งเกินคาด แต่เงินเฟ้อยังคาใจ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาประกาศออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 2 ซึ่งเติบโตถึง 3.3% ต่อปี โดยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.1%
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์โดยตรง อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะดูสดใส แต่ปัญหาใหญ่ที่ยังคงกวนใจเฟดและนักลงทุนก็ยังเป็นอัตราเงินเฟ้อ
โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% อยู่ สถานการณ์นี้สร้างความซับซ้อนในการตัดสินใจเชิงนโยบายการเงินเป็นอย่างยิ่ง
ตลาดเดิมพัน “ลดดอกเบี้ย” เสียงสะท้อนจากผู้เชี่ยวชาญ
แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะยังไม่เข้าเป้า แต่ดูเหมือนว่าตลาดจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากเท่ากับสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 89% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ ความเชื่อมั่นดังกล่าวถูกตอกย้ำด้วยท่าทีของ Jerome Powell ประธานเฟด ที่ส่งสัญญาณในงานประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ว่าเขามีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมากกว่าการเร่งควบคุมเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ 2%
ซึ่ง Michele Schneider หัวหน้านักกลยุทธ์จาก MarketGauge มองว่าเป็นสัญญาณซื้อทองคำที่ชัดเจน สอดคล้องกับความเห็นของ David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะมีค่าของ High Ridge Futures ที่มองว่าแนวโน้มการลดดอกเบี้ยหนึ่งถึงสองครั้งภายในปีนี้ จะเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดรวมถึงทองคำ
ขณะที่ Chris Zaccarelli ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Northlight Asset Management เชื่อว่าตราบใดที่ตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญอย่าง PPI และ CPI ที่จะประกาศในวันที่ 10-11 กันยายนนี้ไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เฟดก็แทบจะการันตีได้เลยว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอน
จับตา “Stagflation” และการเมืองสหรัฐฯ ตัวแปรเบื้องหลัง
นอกเหนือจากประเด็นเรื่องดอกเบี้ยแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจซึ่ง Phillip Streible หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Blue Line Futures กล่าวถึงคือภาวะที่ทองคำกำลังเริ่ม “ได้กลิ่น” ของ Stagflation ซึ่งเป็นสภาวะที่เศรษฐกิจเติบโตช้าแต่อัตราเงินเฟ้อสูง เป็นสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อราคาทองคำอย่างยิ่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ ความวุ่นวายทางการเมืองภายในสหรัฐฯ ก็เป็นอีกตัวแปรที่ไม่สามารถมองข้ามได้ การที่ประธานาธิบดี Donald Trump พยายามแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด โดยเฉพาะการกดดันให้ปลด Lisa Cook ออกจากคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อค่าเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกอย่างรุนแรง
Naeem Aslam ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Zaye Capital Markets ให้ความเห็นว่าขณะนี้ Trump เป็นผู้กุมทิศทางของเฟด ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงและราคาทองจะสูงขึ้น
ด้าน Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight Research เสริมว่าความขัดแย้งนี้จะยิ่งทำลายชื่อเสียงของเงินดอลลาร์ และในสถานการณ์เช่นนี้ ยากที่จะคาดเดาได้ว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงไปได้ถึงเพียงใด และเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่ทองคำจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล
โดยสรุปแล้ว แม้ราคาทองคำจะมีการย่อตัวในระยะสั้น แต่ภาพรวมยังคงสดใสอย่างยิ่งจากความคาดหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับความเสี่ยงจากภาวะ Stagflation และความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยหนุนสำคัญ
แม้ในวันนี้จะเป็นวันหยุดของทางตลาดฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ปริมาณซื้อขายเบาบางลง แต่หลังจากนั้น นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่ง Bill Adams หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Comerica Bank ชี้ว่าหากตัวเลขออกมาอ่อนแอ ก็จะเป็นการการันตีการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ และอาจเป็นใบเบิกทางให้ราคาทองคำมุ่งหน้าสู่แนวต้านสำคัญที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ต่อไป
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ที่เราได้เฝ้าระวังการพักตัวเนื่องจากสัญญาณ Overbought ภาพที่ปรากฏในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความแข็งแกร่งของตลาดกระทิงที่เหนือความคาดหมาย ราคาทองคำไม่เพียงแต่ไม่ย่อตัวลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ $3,405 แต่กลับใช้ฐานราคาบริเวณนั้นเป็นสปริงบอร์ดดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทะลวงผ่านแนวต้านที่ $3,439 ไปได้อย่างง่ายดาย
โดยพุ่งขึ้นไปถึงระดับ $3,455 ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ $3,448 ในปัจจุบัน สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นว่ากระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าสู่ทองคำอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่งอย่างไม่มีข้อกังขา
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมจะดูสดใส แต่สัญญาณเตือนจากอินดิเคเตอร์ที่ปรากฏกลับยิ่งส่งเสียงดังและชัดเจนขึ้นในวันนี้ เมื่อพิจารณาจากกราฟ จะเห็นว่าดัชนี RSI ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงใกล้เขต Overbought แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือดัชนี Stochastic RSI ที่ได้ส่งสัญญาณตัดกันลง (Cross-over) ในเขต Overbought อย่างชัดเจนและกำลังดิ่งหัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าโมเมนตัมหรือแรงส่งในการซื้อเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างมีนัยสำคัญ และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเทขายทำกำไรในระยะสั้น
การที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่โมเมนตัมเริ่มแผ่วลงเช่นนี้ เป็นลักษณะที่นักเทคนิคเรียกว่า Bearish Divergence ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังจะเข้าสู่ช่วงพักฐานหรืออาจมีการกลับตัวในไม่ช้า
สำหรับกลยุทธ์และแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า แม้แนวโน้มหลักจะยังคงเป็นขาขึ้น แต่ความเสี่ยงในการไล่ซื้อ ณ ระดับราคานี้ถือว่าสูงมาก แนวรับที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ $3,439-$3,443 ซึ่งเป็นแนวต้านเก่าที่เพิ่งผ่านมา
การที่ราคาสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้จะเป็นกุญแจสำคัญที่บ่งบอกว่านี่เป็นเพียงการพักตัวเพื่อสะสมพลังไปต่อ โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่การทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ $3,455 และหากผ่านไปได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ $3,460 และ $3,480 ตามลำดับ
ในทางกลับกัน หากแนวรับที่ $3,439 ถูกทำลายลง จะเป็นสัญญาณลบในระยะสั้น และมีโอกาสสูงที่ราคาจะย่อตัวลงมาหาแนวรับถัดไปซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) บริเวณ $3,430
ดังนั้น การรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้แนวรับที่แข็งแกร่งยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่าการไล่ราคาในภาวะที่ตลาดร้อนแรงและเต็มไปด้วยสัญญาณเตือนเช่นนี้
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,439
$3,430
$3,400
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,454
$3,480
$3,500
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน