วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 7 พ.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ราคาทองคำ XAU/USD ร้อนแรงสุดๆ ทะยานแตะ $3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ พุ่งกว่า 2.70% ทำนิวไฮรอบ 2 สัปดาห์ แล้วปัจจัยหนุนหลักๆ มีอะไรบ้าง? มาดูกัน
อย่างแรก ตลาดจีนคัมแบ็กกลับมาเปิดทำการหลังหยุดยาว พลังซื้อจากแดนมังกรไม่เคยผิดหวัง เปิดมาปุ๊บก็จัดหนักเลย ต่อมาคือ ความกังวลนโยบายการค้าสหรัฐฯ ประธานาธิบดี Trump บอกจะกำหนดภาษีเอง แถมยืดหยุ่นด้วย นักลงทุนก็เลยงงๆ เพราะก่อนหน้า Scott Bessent รัฐมนตรีคลัง เพิ่งเปรยเรื่องดีลกับ 17 ประเทศ งานนี้ต้องตามดูว่าจะเอายังไง
แต่ที่เดือดสุดๆ คือ ความตึงเครียดอินเดีย-ปากีสถาน Bloomberg รายงานว่าอินเดียโจมตีค่ายผู้ก่อการร้าย ในปากีสถาน (แต่ไม่โดนฐานทัพนะ) ตอบโต้เหตุในแคชเมียร์ ปากีสถานก็เตือนอาจเผชิญหน้ากันเร็วๆ นี้จากปัญหาสิทธิใช้น้ำและข้อกล่าวหาเดิมๆ สถานการณ์แบบนี้แหละดันทองวิ่งกระฉูด
ยังไม่หมด ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐฯ เดือนมีนาคมก็สูงกว่าคาด และทุกสายตาจับจ้องการตัดสินใจของ FOMC (เฟด) คาดว่าจะคงดอกเบี้ย แต่สำคัญคือต้องฟัง Jerome Powell ประธาน Fed แถลงหลังประชุม ว่าจะมีทิศทางนโยบายยังไง อันนี้ตัวตัดสินตลาดเลย ห้ามพลาด!
กูรูฟันธง ทองคำจะไปถึงไหน? สัญญาณเศรษฐกิจน่าห่วงหรือป่าว?
เมื่อโลกมันร้อนแรงเบอร์นี้ นักลงทุนก็แห่ตุนทองคำกันยกใหญ่ ป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ดันราคาไป $3,400 ดอลลาร์ Mike McGlone จาก Bloomberg Intelligence ฟันธงว่าทองคำจะยังเป็นดาวเด่นอีกนาน เพราะคนกลัวเศรษฐกิจถดถอยแรงขึ้น
ที่น่าจับตาคือ McGlone ชี้ว่า ความต่างราคาน้ำมันกับทองคำมันถ่างออกไปมาก ราคาน้ำมันลงเกือบ 21% ทองคำขึ้น 26% ในปี 2025 ส่วนต่างเกือบ 50% คุณพระ! ใหญ่เป็นอันดับสี่ในรอบ 100 ปี (ตั้งแต่ ค.ศ. 1925) สัญญาณเตือนภัยดังลั่นว่าเศรษฐกิจโลกอาจแย่ถึงขั้นวิกฤตที่สุดในประวัติศาสตร์!
McGlone มองอีกว่าทองคำพุ่ง 30% ทำนิวไฮ $3,500 เดือนก่อน เหมือนเดจาวู คล้ายช่วงปี 2007 และ 1935 พอน้ำมันดิ่งด้วย สองสัญญาณนี้บอกว่าเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก แม้ความไม่แน่นอนภาษีและมาตรการรัดเข็มขัดรัฐบาลสหรัฐฯ จะซ้ำเติม แต่ McGlone บอกแนวโน้มนี้มีมาก่อน Trump ชนะเลือกตั้ง แกเชื่อว่าเศรษฐกิจแบบนี้จะยังหนุนราคาทั้งสองอย่างต่อไป
เป้าหมายล่ะ? McGlone มอง น้ำมันดิบอาจลงไป $40 ส่วนทองคำแนวต้านถัดไป $4,000! ถ้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก...ทองอาจมีแรงส่งถึงจุดนั้น
McGlone ยังย้ำว่าราคาทองคำอาจขึ้นไปเท่าดัชนี S&P 500 หากเศรษฐกิจถดถอยหนัก ดันตลาดหุ้นไปใกล้ 4,000 จุด โดยอัตราส่วน SPX/ทองคำมีแนวโน้มกลับไปที่ 1:1 ส่วนแนวรับทองคำมองแถว $3,000 สบายๆ
ทองคำยุคใหม่ ไม่ใช่แค่เซฟโซน แต่เป็น “ของมันต้องมี” ในพอร์ต
ทองคำยังเป็นตัวตึงดึงดูดนักลงทุน โดย FTSE Russell เชื่อสุดๆ ว่านักลงทุนต้องถือทองคำ “เยอะกว่านี้อีกมาก” พวกเขาประกาศว่า ทองคำกลับมาเป็น “สินทรัพย์การเงินที่เป็นกลาง” (neutral monetary asset) ที่สำคัญอีกครั้ง ในยุคเศรษฐกิจโลกเปราะบาง
พวกเขามองว่าทองคำไม่ใช่แค่หลุมหลบภัยอีกต่อไปเ แต่มันคือ “เครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่โคตรจำเป็น” ในโลกที่ตลาดหุ้นและพันธบัตรเผชิญมรสุม ทั้งจากความไม่แน่นอนและเงินเฟ้อสูง พูดง่ายๆ ทองคำไม่ใช่แค่สินทรัพย์ปลอดภัย แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ไดนามิกสุดๆ สำหรับฝ่าฟันความซับซ้อน
พวกเขาเสนอสูตรเด็ด ปรับพอร์ตจาก 60/40 (หุ้น/พันธบัตร) เป็น 60/20/20 (หุ้น/พันธบัตร/ทองคำ)
ทำไม? ข้อมูล 15 ปี ฟ้องว่าพอร์ตนี้ให้ผลตอบแทนดีกว่า แถมลดความผันผวน มันปัง! ตั้งแต่ปี 2010 พอร์ต 60/20/20 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 7.5% (Sharpe ratio 0.38) เทียบกับพอร์ตเดิมที่ 6.3% (Sharpe ratio 0.28) เริ่ดกว่าเห็นๆ
นักวิเคราะห์ยังบอกไว้ว่าการมีทองคำในพอร์ตช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อการป้องกันความเสี่ยงแบบเดิมๆ ใช้ไม่ค่อยได้ผล และแม้บางคนลังเลเข้าตอนทองเหนือ $3,300 แต่ FTSE Russell ชี้ว่าเทียบกับวิกฤตอดีต ทองคำยังมีอัพไซด์อีกเยอะมาก อย่างวิกฤตเงินเฟ้อปี 1972-1976 ทองพุ่งกว่า 300% ล่าสุดตั้งแต่ปี 2020 ถึงจุดสูงสุดเดือนก่อน ทองก็บวก 90% โดยยังไม่ปรับฐานใหญ่ ของมันต้องมีจริงๆ
แบงก์ชาติทั่วโลกพร้อมใจ “ตุนทอง” มันมีนัยยะอะไรซ่อนอยู่?
นอกจากรายย่อยและสถาบันจะอินกับทอง อีกผู้เล่นรายใหญ่เบิ้มๆ ที่ดันราคาทองแรงคือ บรรดาธนาคารกลางทั่วโลก FTSE Russell ชี้ว่าขณะที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและเงินเฟ้อหนุนทอง การที่แบงก์ชาติเดินหน้าตุนทองก็เป็นอีกกุญแจสำคัญดันราคาทองรอบนี้
พวกเขาให้เหตุผลว่าแม้แรงจูงใจซื้อทองของแต่ละแบงก์ชาติจะต่างกัน แต่กลยุทธ์พื้นฐานสอดคล้องกัน คือ แบงก์ชาติอาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับโลกที่แบ่งขั้วภูมิรัฐศาสตร์และการเงินมากขึ้น ซึ่งทองคำจะทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองที่เป็นกลาง ต้านทานภาษี ไม่ว่าจะเพื่อป้องกันความเสี่ยงภายนอก หรือรักษาเสถียรภาพในประเทศ บทบาททองในพอร์ตสำรองก็เพิ่มขึ้นชัดเจน
ตัวเลขน่าสนใจมาก โดยแบงก์ชาติทั่วโลกเพิ่มทองคำสำรองกว่า 1,000 ตันต่อปี ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว World Gold Council บอกว่าแบงก์ชาติยังซื้อต่อเนื่อง แม้ชะลอลงบ้าง โดย ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมา ซื้อไป 243.7 ตัน และยังซื้อกันอยู่
FTSE Russell สรุปว่า ทองคำมีพฤติกรรมต่างออกไป ความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์อื่น ทำให้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ดี โดยเฉพาะเมื่อสินทรัพย์อื่นแย่พร้อมกัน แต่มูลค่าไม่คงที่ ทองมักดึงดูดเงินทุนช่วงตลาดเครียด (เงินเฟ้อ/ฝืด) และกลับตัวบางส่วนเมื่อตลาดมั่นใจ พฤติกรรมทางยุทธวิธีนี้ทำให้ทองต่างจากสินทรัพย์เติบโตแบบถือยาว ประโยชน์อยู่ที่การจัดสรรยืดหยุ่นช่วงวิกฤต ไม่ใช่ถือถาวร
สรุปสั้นๆ คือ ทองยุคนี้ไม่ใช่แค่ของสะสม หรือสินทรัพย์ปลอดภัยไก่กา แต่มันคือ สินทรัพย์ลับสุดยอด ที่นักลงทุนตัวจริงต้องมีติดพอร์ต เพื่อรับมือความผันผวนและสร้างผลตอบแทนระยะยาว
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
อัปเดตสถานการณ์ราคาทองคำกันต่อ หลังจากเมื่อวานเรายังดีใจกันว่าราคาทองคำเบรค $3,366 ขึ้นมายืนสวยๆ เหนือ $3,400 ได้สำเร็จ แรงซื้อดูดีมีอนาคตซะเหลือเกิน แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะเราเห็นแรงขายเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก อาจจะเป็นการขายทำกำไรของคนที่ซื้อมาจากข้างล่าง หรืออาจจะมีข่าวอะไรมากระทบจนคนแห่เทขายก็เป็นได้ ทำให้บรรยากาศที่เคยสดใสเริ่มมีเมฆครึ้มเข้ามาปกคลุมซะแล้ว
ด้าน RSI ตอนนี้อาจจะเริ่มหักหัวลงมาบ้าง สะท้อนว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อเริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วน Stoch RSI ที่เคยแช่อยู่ในโซน Overbought มานานสองนาน การเจอแท่งแดงยาวแบบนี้เข้าไป ก็เหมือนเป็นสัญญาณให้เริ่มม้วนตัวลงมาจากโซนนั้น ซึ่งก็เป็นการยืนยันว่าอาจจะมีการพักตัวหรือย่อตัวเกิดขึ้นจริงๆ
ทีนี้มาโฟกัสกันที่แนว $3,366 ที่เมื่อวานเรายกให้เป็นจุดวัดใจสำคัญ ตอนนี้มันยิ่งทวีความสำคัญขึ้นไปอีก เพราะการที่ราคาเคยขึ้นไปสูงกว่านี้แล้วโดนตบกลับลงมาเป็นแท่งแดงยาว มันทำให้แนวรับ $3,366 กลายเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดสุดๆ ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
การยืนเหนือ $3,366 ให้ได้แบบมั่นคงแข็งแรง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าเกิดแรงขายยังไม่หมด และทุบทะลุแนว $3,366 ลงไปได้ คราวนี้แหละงานเข้า ภาพอาจจะเปลี่ยนจากกระทิงเป็นหมีอ่อนๆ แนวต้าน $3,409 - $3,410 ที่เคยหวังไว้อาจจะต้องพับโครงการไปก่อน แล้วเราอาจจะได้เห็นราคาทองถอยลงไปตั้งหลักกันใหม่ที่แนว $3,330
แต่ถ้าแนว $3,366 ยังคงรับไหว ก็ยังพอมีลุ้นว่านี่อาจจะเป็นแค่การสับขาหลอก หรือการพักตัวระยะสั้นเพื่อไปต่อ แต่เป้าหมาย $3,409 อาจจะต้องใช้เวลาและแรงฮึดมากกว่าเดิม เพราะความมั่นใจของตลาดโดนสั่นคลอนไปพอสมควรแล้ว
สรุปสั้นๆ ณ จุดนี้ บอกเลยว่า $3,366 คือจุดลุ้น หลังจากเจอแท่งแดงยาวเข้าไป เกมเปลี่ยน ความระทึกบังเกิด ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จับตาดูแนวนี้ให้ดีชนิดห้ามกระพริบตา ถ้ายืนได้ก็ยังมีหวังลุ้นไปต่อแบบเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าหลุด บอกเลยว่าเตรียมตัวรับแรงกระแทก อาจจะต้องถอยมาดูเชิง หาจังหวะกันใหม่ยาวๆ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,366
$3,331
$3,278
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,409
$3,440
$3,474
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน