วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 4 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAUUSD ในตลาดโลกเปิดฉากการซื้อขายด้วยความร้อนแรง สร้างปรากฏการณ์ทะยานขึ้นทำลายสถิติ All-Time High อีกครั้ง โดยราคาพุ่งทะยานขึ้นไปเกือบแตะระดับ 3,580 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
การปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของอารมณ์ตลาดชั่ววูบ แต่เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของความกังวลต่อเศรษฐกิจและการเงินที่กำลังก่อตัวขึ้นทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนสถาบันและรายย่อยต่างหันมาให้ความสนใจทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกันอย่างล้นหลาม
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แผ่ว ปัจจัยสำคัญหนุนราคาทองคำสู่จุดสูงสุดใหม่
หัวใจสำคัญที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นในครั้งนี้ มาจากการเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกาที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ
โดยรายงานล่าสุดจาก JOLTS (Job Openings and Labor Turnover Survey) ซึ่งสะท้อนความต้องการแรงงานในตลาดพบว่า ตำแหน่งงานว่างในเดือนกรกฎาคมลดลงสู่ระดับ 7.18 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2021
ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแต่สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 7.38 ล้านตำแหน่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเคยแข็งแกร่งมาตลอด กำลังเริ่มสูญเสียแรงผลักดันและชะลอตัวลง
ข้อมูลนี้จึงเปรียบเสมือนการเทน้ำหนักให้กับฝั่งที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ ส่งผลให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจในสายตานักลงทุนเพิ่มขึ้นทันที
ดังที่ Aaron Hill หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดจาก FP Markets ได้ให้ทัศนะไว้ ว่าข้อมูลที่อ่อนแอนี้ตอกย้ำถึงภาวะตลาดแรงงานที่เย็นลง และเสริมความคาดหวังว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ และผลักดันให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นท่ามกลางความกังวลทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
เมื่อ “ความกลัว” ปกคลุมตลาด ทองคำฉายแสงในฐานะหลุมหลบภัยชั้นเลิศ
นอกเหนือจากปัจจัยด้านตลาดแรงงานแล้ว บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกในขณะนี้ก็กำลังตกอยู่ภายใต้บรรยากาศของความไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งในทางสถิติแล้วมักจะเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นและตลาดการเงินมีความผันผวนสูง นักลงทุนจำนวนมากจึงเริ่มโยกย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยงมายังทองคำในฐานะ “หลุมหลบภัย” (Safe Haven) ชั้นเลิศ
อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแม้ในทางทฤษฎี การที่ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นอาจไม่เป็นผลดีต่อทองคำ แต่หากมองลึกลงไปถึงสาเหตุ จะพบว่าการดีดตัวของผลตอบแทนในครั้งนี้เกิดจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ การก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาล และวินัยทางการคลัง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในสกุลเงินหลัก
ท้ายที่สุดแล้ว ความกังวลเหล่านี้กลับยิ่งขับเน้นให้สถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้อย่างแท้จริงโดดเด่นขึ้นมา ท่ามกลางความไร้เสถียรภาพของระบบการเงินโลก
มุมมองนักวิเคราะห์ ราคาเป้าหมายถัดไป $4,000 จะไกลเกินจริงหรือไม่?
การทะยานขึ้นของราคาทองคำอย่างแข็งแกร่งในครั้งนี้ ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักเริ่มปรับมุมมองและเป้าหมายราคาในทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้น
Michele Schneider หัวหน้านักกลยุทธ์จาก MarketGauge.com ซึ่งเคยคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำว่าทองคำจะทะลุระดับ 3,500 ดอลลาร์ ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจ ว่าการที่ราคาทองคำพักฐานสะสมพลังมาเป็นเวลานานหลายเดือนนั้น เป็นการปูทางไปสู่การพุ่งทะยานที่รุนแรง และเธอมองว่าเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 3,800-4,000 ดอลลาร์นั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก
เหตุผลสำคัญที่สนับสนุนมุมมองนี้คือ การเปลี่ยนท่าทีของ Jerome Powell ประธานเฟด ที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ 2%
ท่าทีดังกล่าวได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อกำลังซื้อของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะยาว และกระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลก แม้กระทั่งธนาคารกลางของหลายประเทศ หันกลับมาให้ความสำคัญกับทองคำในฐานะ “สกุลเงินของโลก” ที่แท้จริง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินและการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมสำหรับตลาดทองคำก็เป็นได้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากบทวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ที่เราได้ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณเตือนระยะสั้นจากดัชนี Stochastic RSI ที่เกิดภาวะ Bearish Crossover นั้น ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดได้ตอบสนองต่อสัญญาณดังกล่าวอย่างชัดเจน
โดยหลังจากที่ราคาทองคำได้พยายามไต่ระดับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่บริเวณประมาณ 3,580 ดอลลาร์ เราจะเห็นได้ว่าแรงซื้อเริ่มแผ่วลงอย่างมีนัยสำคัญและไม่สามารถยืนระยะอยู่ได้ จนเกิดแรงเทขายทำกำไรกดดันให้ราคาย่อตัวกลับลงมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 3,547 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
ภาพที่เกิดขึ้นนี้เป็นการยืนยันว่าการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้ากำลังเข้าสู่โหมดของการพักฐานเพื่อสะสมกำลัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของตลาดที่แข็งแกร่งและจำเป็นต่อการขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะต่อไป
เมื่อพิจารณาจากกราฟในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง จะเห็นว่าแท่งเทียนล่าสุดได้ปิดเป็นแท่งสีแดง แสดงถึงแรงขายที่เข้ามาควบคุมตลาดในระยะสั้น และราคากำลังทดสอบแนวรับแรกซึ่งก็คือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ระยะสั้น (เส้นสีแดง) หากราคาสามารถยืนเหนือเส้นนี้ได้ ก็ยังมีโอกาสที่จะสร้างฐานและกลับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง
แต่ในส่วนของอินดิเคเตอร์นั้น สัญญาณการชะลอตัวมีความชัดเจนมากขึ้น ดัชนี RSI ได้ปรับตัวลดลงจากเขต Overbought (ซื้อมากเกินไป) ซึ่งเป็นการระบายความร้อนของตลาดที่ดี แต่ในขณะเดียวกัน ดัชนี Stochastic RSI ก็ยังคงดิ่งหัวลงอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีสัญญาณการกลับตัว บ่งชี้ว่าโมเมนตัมในระยะสั้นยังคงเอนเอียงไปทางฝั่งของการปรับฐานหรือย่อตัวลงต่อได้อีก
สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า แนวต้านสำคัญได้ถูกกดลงมาอยู่ที่โซน 3,550 – 3,560 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณแนวต้านเดิมที่ราคาเคยพยายามจะผ่านขึ้นไป การที่ราคาจะกลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้ง จำเป็นต้องมีแรงซื้อที่มหาศาลพอที่จะทะลุผ่านโซนนี้และกลับไปยืนเหนือจุดสูงสุดล่าสุดที่ 3,580 ดอลลาร์ให้ได้
ในทางกลับกัน แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดได้ขยับมาอยู่ที่บริเวณ 3,520 ดอลลาร์ หากการย่อตัวครั้งนี้สิ้นสุดลงที่บริเวณดังกล่าว จะถือเป็นการพักฐานที่สมบูรณ์และเป็นจังหวะที่ดีในการพิจารณาเข้าซื้อตามแนวโน้มหลัก แต่หากแนวรับที่ 3,520 ดอลลาร์ถูกทำลายลง เป้าหมายถัดไปที่ราคาจะลงไปทดสอบคือแนวรับจิตวิทยาที่โซน 3,500 ดอลลาร์
ตราบใดที่ราคายังคงประคองตัวอยู่เหนือระดับ 3,500 ดอลลาร์ได้ ภาพรวมในระยะกลางยังคงไม่เสียหายและยังคงมุมมองที่เป็นขาขึ้นอยู่ ดังนั้น กลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในขณะนี้จึงยังคงเป็นการ “รอซื้อเมื่อย่อตัว” ณ บริเวณแนวรับสำคัญ มากกว่าการไล่ราคาซึ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างชัดเจน
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,520
$3,500
$3,480
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,550
$3,560
$3,580
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน