วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 16 ตุลาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ โดย ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ราคาทองคำ XAUUSD เคลื่อนไหวอยู่ระดับ $4,228 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกครั้ง โดยแรงหนุนสำคัญยังคงมาจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้เกิดขึ้นสวนทางกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยอื่นมากกว่า
ตลาดเมินข้อมูลเศรษฐกิจ แต่เลือกจับตานโยบาย Fed เป็นหลัก
แม้ว่าดัชนีภาคการผลิตของรัฐนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Survey) ประจำเดือนตุลาคมจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 10.7 ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะติดลบที่ -1.8 อย่างมีนัยสำคัญ แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับไม่สามารถฉุดรั้งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้เลย
ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนกำลังมองข้ามข้อมูลเศรษฐกิจระยะสั้น และให้ความสำคัญกับทิศทางนโยบายการเงินของ Fed ในระยะยาวมากกว่า
คำกล่าวของ Jerome Powell ประธาน Fed เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ระบุว่าการชะลอตัวของการจ้างงานเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า Fed มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งข้อมูลจาก LSEG ระบุว่าตลาดได้คาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคมและธันวาคมไปเรียบร้อยแล้ว การลดดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยนั้นลดลง จึงเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงของคณะกรรมการ Fed หลายคน ไม่ว่าจะเป็น Michael Barr, Stephen Miran, Christopher Waller และ Michelle Bowman ซึ่งหากมีท่าทีที่แข็งกร้าว (Hawkish) เกินคาด อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำในระยะสั้นได้
สงครามการค้าและความกังวลเงินเฟ้อ ปัจจัยชั้นดีหนุนราคาทอง
นอกเหนือจากนโยบายของ Fed แล้ว ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ปะทุขึ้นอีกครั้งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง การที่ทั้งสองประเทศประกาศจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือเพิ่มเติมกับเรือขนส่งสินค้าระหว่างกัน จะส่งผลให้ต้นทุนการค้าสูงขึ้นและกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์จาก City Index ให้ความเห็นว่าเมื่อความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีนกลับมาอีกครั้ง นักลงทุนจึงมีเหตุผลมากขึ้นที่จะต้องป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนด้วยการกระจายมายังทองคำ
ขณะเดียวกัน มุมมองจากนักยุทธศาสตร์ของ J.P. Morgan ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความน่าสนใจของทองคำในภาวะปัจจุบัน
David Kelly ซึ่งเป็น Chief Global Strategist ของ J.P. Morgan Asset Management เตือนว่าการที่ Fed ชิงลดดอกเบี้ยอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อาจเพิ่มขึ้นจาก 2.8% ไปสู่ระดับ 3.5% ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025
สภาวะเงินเฟ้อที่สูงและต่อเนื่องเช่นนี้ จะลดทอนมูลค่าของพันธบัตรและเงินดอลลาร์ในระยะยาว ทำให้การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำและสินทรัพย์ในต่างประเทศมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
Jamie Dimonมอง ทองคำมีสิทธิ์ไปถึง $10,000
สิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือมุมมองจาก Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ได้เป็นผู้ที่สนับสนุนการลงทุนในทองคำ แต่เขากลับยอมรับในการประชุมล่าสุดว่า นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งในชีวิตของเขาที่รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลที่จะมีทองคำอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ และยังเสริมว่า แม้การถือทองคำจะมีต้นทุน แต่ในสภาวะที่ราคาสินทรัพย์แทบทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่สูงเกินไปแล้ว ราคาทองคำก็อาจพุ่งขึ้นไปถึง 5,000 หรือ 10,000 ดอลลาร์ได้อย่างง่ายดาย
มุมมองนี้สอดคล้องกับ Grace Peters ซึ่งเป็น Global Head of Investment Strategy ของ JPMorgan ที่ยังคงชื่นชอบทองคำ โดยชี้ว่านอกจากการกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์และสกุลเงินแล้ว ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญยังมาจากการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมถึงความต้องการจากนักลงทุนรายย่อยผ่านกองทุน ETF
โดยทาง JPMorgan ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำในระยะ 12 เดือนข้างหน้าไว้ที่ระดับสูงกว่า 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าแนวโน้มขาขึ้นของทองคำยังคงแข็งแกร่งและมีปัจจัยพื้นฐานที่หนักแน่นรองรับ
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สถานการณ์ของราคาทองคำยังคงดำเนินไปในทิศทางที่คาดการณ์ โดยล่าสุดจากกราฟราย 4 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าราคาสามารถทะยานผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ $4,200 ขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง และพุ่งขึ้นมาทดสอบเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ $4,230 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงพละกำลังของตลาดกระทิงที่ยังคงเข้าครอบงำตลาดอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมแนวโน้มหลักจะยังคงเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน แต่สัญญาณเตือนการกลับตัวซึ่งเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ได้ทวีความน่ากังวลและมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
สัญญาณ Bearish Divergence บนดัชนี RSI ปรากฏชัดเจนมากขึ้น เพราะในขณะที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) ที่ $4,230 แต่ดัชนี RSI กลับไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตามได้ และยังคงสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High) ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าโมเมนตัมของแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด
ประกอบกับดัชนี Stochastic RSI ที่ยังคงแช่อยู่ในเขต Overbought หรือภาวะซื้อมากเกินไปในระดับที่สูงมาก สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนว่าแรงเทขายทำกำไรก้อนใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ด้วยสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเช่นนี้ ทำให้ความเสี่ยงที่ราคาจะเกิดการพักฐานหรือย่อตัวลงในระยะสั้นมีสูงมาก กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงไม่ควรไล่ราคาที่บริเวณแนวต้าน $4,230 - $4,250 แต่ควรรอจังหวะที่ปลอดภัยกว่า
หากมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจริง แนวรับแรกที่ต้องจับตาคือโซน $4,200 - $4,180 ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมที่เพิ่งทะลุผ่านมา หากราคาย่อตัวลงมาแล้วสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ จะยังคงเป็นสัญญาณบวกและอาจเป็นจังหวะ “ย่อซื้อ” (Buy on Dip) ที่น่าสนใจ
แต่หากแนวรับดังกล่าวถูกทำลายลง เป้าหมายถัดไปของการย่อตัวจะอยู่ที่แนวรับสำคัญบริเวณ $4,150 การเทรดในสภาวะที่แนวโน้มแข็งแกร่งแต่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเช่นนี้ จำเป็นต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,200
$4,180
$4,150
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,230
$4,250
$4,280
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน