วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
สถานการณ์ในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ดูเหมือนจะเป็นบททดสอบจิตใจของนักลงทุนทองคำไม่น้อย เมื่อราคาทองคำ XAUUSD ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 4,350 ดอลลาร์ หลังจากที่พยายามไต่ระดับขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
การย่อตัวครั้งนี้เกิดจากแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นผสมโรงกับการดีดตัวกลับของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม หากเรามองลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่าการปรับลงครั้งนี้อาจมีกรอบที่จำกัด เพราะปัจจัยพื้นฐานยังคงทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับราคาอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ล่าสุดที่ตอกย้ำความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป
สิ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาล Venezuela ได้สั่งการให้กองทัพเรือคุ้มกันเรือขนส่งน้ำมัน ท่ามกลางคำขู่เรื่องการปิดล้อมทางทะเลจากสหรัฐฯ ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดี Donald Trump
ซึ่งสถานการณ์นี้ถือเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและแร่เงินโดยตรง
ในขณะที่ราคาทองคำกำลังพักตัว แต่ราคา Silver กลับสร้างความประหลาดใจด้วยการพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ระดับ 66.65 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการในภาคอุตสาหกรรมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสต็อกสินค้าที่ตึงตัว
ซึ่งปรากฏการณ์ที่ Silver วิ่งนำหน้าทองคำแบบนี้ มักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสภาวะตลาดกระทิงที่ยังคงมีความร้อนแรงซ่อนอยู่
จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และท่าทีของเฟด จุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางตลาดส่งท้ายปี
ไฮไลท์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกต่างเฝ้ารอคือการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันนี้
ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.1% เมื่อเทียบรายปี ในขณะที่ Core CPI คาดว่าจะอยู่ที่ 3.0%
หากตัวเลขออกมาตามคาดหรือสูงกว่า อาจทำให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมาอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับคำเตือนของ Christopher Waller หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ที่แม้จะสนับสนุนการลดดอกเบี้ยแต่ก็ย้ำว่าไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ในทางกลับกัน Raphael Bostic ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กลับมีมุมมองที่แข็งกร้าวกว่า โดยระบุว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยในปีหน้าเว้นแต่เงินเฟ้อจะลดลงอย่างชัดเจน
ความเห็นที่แตกต่างกันของคณะกรรมการเฟด สร้างความผันผวนให้กับตลาดพอสมควร โดยข้อมูลจาก LSEG ชี้ว่าตลาดฟิวเจอร์สให้โอกาส 31% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 22% หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเพียง 64,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานขยับขึ้นไปที่ 4.6%
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลงจริง ซึ่งอาจบีบให้เฟดต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ และนั่นจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะผลักดันให้ราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งหลังจากผ่านพ้นช่วงปรับฐานนี้ไปได้
ปี 2026 จะเป็นจุดจบของรอบวัฏจักร หรือจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่
ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้ คือมุมมองที่ขัดแย้งกันของสองนักวิเคราะห์ชื่อดัง ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของพอร์ตการลงทุนของคุณในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
เริ่มจาก Avi Gilburt นักวิเคราะห์สายเทคนิค ซึ่งเคยทำนายจุดสูงสุดของทองคำปี 2011 ได้อย่างแม่นยำออกมาเตือนด้วยความจริงจังว่า วัฏจักรขาขึ้นของทองคำและ Silver ที่ดำเนินมายาวนานนับทศวรรษกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว
เขาเชื่อว่าปี 2026 อาจเป็นจุดจบของรอบนี้ และเราอาจได้เห็นการปรับฐานครั้งใหญ่เข้าสู่ตลาดหมีกินเวลาหลายปี
แม้เขาจะมองว่าราคาทองคำยังมีโอกาสพุ่งขึ้นไปแตะระดับจิตวิทยาที่ 5,000 ดอลลาร์ได้ แต่หลังจากนั้นคือความเสี่ยง โดยเขามองข้ามปัจจัยพื้นฐานและเชื่อมั่นในรูปแบบของคลื่นราคามากกว่า
ในทางตรงกันข้าม Eric Strand ผู้จัดการกองทุน AuAg Funds กลับมองว่าราคาทองคำที่ระดับ 4,300 ดอลลาร์นี้ ยังถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เขาเชื่อมั่นว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 10,000 ดอลลาร์นั้นมีความเป็นไปได้สูง โดยมีปัจจัยหนุนจากการพิมพ์เงินและการขยายตัวของหนี้สาธารณะทั่วโลกที่จะบีบให้เกิด QE รอบใหม่
Strand แนะนำให้นักลงทุนมองข้ามความผันผวนระยะสั้นและโฟกัสไปที่หุ้นเหมืองทองคำ ซึ่งเขามองว่าเป็นโอกาสการลงทุนแบบ Asymmetric หรือความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนสูง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและมีการจ่ายปันผลที่ดีขึ้น
นอกจากนี้เขายังชี้เป้าไปที่ Silver ว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าทองคำอย่างมาก เนื่องจากอัตราส่วนราคาทองคำต่อเงิน (Gold-Silver Ratio) มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง ซึ่งหมายความว่าราคา Silver จะวิ่งได้แรงกว่าทองคำในขาขึ้นรอบถัดไป
การกระจายความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญ โดย Strand แนะนำให้ถือหุ้นเหมืองประมาณ 20-25 ตัว เพื่อลดความเสี่ยงเฉพาะตัวของบริษัท
สรุปแล้ว แม้ราคาทองคำจะเผชิญแรงเทขายในระยะสั้น แต่ภาพใหญ่ยังคงดูดี โดยเฉพาะเมื่อ Silver ทำหน้าที่เป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง การย่อตัวครั้งนี้จึงอาจเป็นเพียงการถอยหลังเพื่อกระโดดให้ไกลขึ้นก็เป็นได้
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำยังคงรักษาโมเมนตัมเชิงบวกได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 4,327 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ Fibonacci 88.70% หรือบริเวณ 4,328 ดอลลาร์ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สัญญาณจากแท่งเทียนปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงแรงพยายามของฝั่งซื้อที่ต้องการจะเหนือแนวรับนี้ให้ได้ แต่การที่ราคาสามารถยืนประคองตัวอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย EMA และรักษาตำแหน่งในโซนบนของ Regression Trend Channel ได้อย่างเหนียวแน่น ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของฝั่งกระทิงที่ยังคงคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้ทั้งหมด
ในส่วนของอินดิเคเตอร์ Stoch RSI ยังคงส่งสัญญาณสนับสนุนทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยเส้นสัญญาณทั้งสองเส้นยังคงเชิดหัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิด Golden Cross มาก่อนหน้านี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแรงส่งยังไม่หมดไปและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อก่อนจะเข้าสู่ภาวะ Overbought
ในขณะที่ดัชนี RSI ยังคงทรงตัวอยู่เหนือระดับ 50 บ่งบอกถึงสภาวะตลาดที่ยังมีความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งและไม่ได้อยู่ในภาวะตึงตัวจนเกินไปนัก ซึ่งเป็นลักษณะของการสะสมกำลังเพื่อเตรียมการเบรกเอาท์ครั้งใหญ่
โดยเป้าหมายถัดไปในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากราคาสามารถปิดแท่งเทียน 4 ชั่วโมงยืนเหนือระดับ 4,328 ดอลลาร์ได้อย่างเด็ดขาด จะเป็นการยืนยันรอบการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ Fibonacci 94.20% ที่ราคา 4,354 ดอลลาร์
และมีโอกาสต่อเนื่องไปถึงระดับ High เดิมที่ 4,384 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญสูงสุดตามเครื่องมือ Fibonacci Retracement
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นนักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ-แนวต้านย่อยอย่างใกล้ชิด โดยมีแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ 4,300 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยา
หากมีการย่อตัวลงมาแต่ไม่หลุดระดับนี้ จะถือเป็นการลงมาเพื่อ Retest แนวรับเพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นก่อนจะปรับตัวขึ้นต่อ
แต่ในกรณีที่มีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างรุนแรงจนหลุดแนวรับ 4,300 ดอลลาร์ แนวรับถัดไปที่ต้องให้ความสำคัญคือโซน 4,276 ดอลลาร์ (Fibonacci 78.60%) ซึ่งเป็นจุดตัดสินสำคัญของแนวโน้มระยะสั้น
สรุปภาพรวมในขณะนี้คือทองคำยังอยู่ในช่วง Breakout Watch หรือการเฝ้ารอการทะลุผ่านแนวต้านสำคัญเพื่อเปิด Upside ใหม่ โดยกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นการย่อตัวซื้อ (Buy on Dip) ในขณะที่เทรนด์ขาขึ้นยังคงทำงานได้ตามโครงสร้างราคาที่สมบูรณ์

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,327
$4,300
$4,276
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,354
$4,370
$4,384
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


