วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 3 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAUUSD ในตลาดโลกเปิดศักราชใหม่ในวันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ด้วยการพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่บริเวณ 3,547 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงตลาดเอเชีย
การทุบสถิติครั้งนี้ได้จุดประกายความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมดังกล่าวกลับไม่สามารถยืนระยะได้อย่างมั่นคงนัก บรรยากาศการซื้อขายเริ่มแสดงให้เห็นถึงความลังเล หลังจากที่ราคาวิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงภาวะ “ซื้อมากเกินไป” (Overbought) อย่างสุดขีด ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มชะลอการไล่ราคาและอาจมีการขายทำกำไรระยะสั้นออกมา
นอกจากนี้ การฟื้นตัวและแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็เปรียบเสมือนแรงต้านที่เข้ามาสกัดการทะยานขึ้นของราคาทองคำ ทำให้การเคลื่อนไหวในช่วงนี้เต็มไปด้วยความผันผวน
เจาะลึกปัจจัยมหภาค ปฐมบทแห่งยุคทองคำครั้งใหม่
แม้จะเผชิญแรงกดดันในระยะสั้น แต่ภาพรวมของราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนเชิงพื้นฐานที่ทรงพลังหลายประการ
ประการแรกและสำคัญที่สุด คือความคาดหวังของตลาดที่แทบจะเอนเอียงไปในทิศทางเดียวกันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งถัดไปภายในเดือนนี้ ตลาดการเงินได้ประเมินล่วงหน้าไปแล้วว่า มีโอกาสสูงที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ยถึงสองครั้งภายในสิ้นปี 2025 ครั้งละ 0.25%
ประการที่สองคือ สภาวะ “หลบภัยความเสี่ยง” (Risk-Off Sentiment) ที่แผ่ขยายไปทั่วโลก สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทั้งจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น
สิ่งนี้ผลักดันให้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าสู่ทองคำในฐานะหลุมหลบภัยที่ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดจากสหรัฐฯ ยิ่งตอกย้ำภาพความน่าดึงดูดของทองคำ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ในเดือนสิงหาคมที่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นการยืนยันว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ กำลังหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่หก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจมาถึงเร็วกว่าที่คาด
จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้ชะตาทิศทางทองคำสัปดาห์นี้
สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่จะเป็นตัวชี้วัดทิศทางราคาทองคำได้อย่างชัดเจนที่สุดคือ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลในภาคแรงงาน เริ่มตั้งแต่ข้อมูลตำแหน่งงานเปิดรับสมัคร (JOLTS Job Openings) ตามมาด้วยการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และดัชนี PMI ภาคบริการ
อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาไม่กระพริบจะอยู่ที่การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์นี้ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดสุขภาพทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯ
หากตัวเลขออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ก็จะเป็นเหมือนการไฟเขียวให้ Fed สามารถดำเนินนโยบายลดดอกเบี้ยได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และอาจเป็นชนวนที่ส่งให้ราคาทองคำพุ่งทะยานทะลุแนวต้านสำคัญต่อไปได้ในทันที
มุมมองนักวิเคราะห์ เป้าต่อไปของราคาทองคำ
ท่ามกลางความผันผวนนี้ Michele Schneider หัวหน้านักกลยุทธ์จาก MarketGauge.com ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในทองคำเป็นอย่างยิ่ง
Schneider เชื่อว่าการที่ราคาทองคำใช้เวลาพักฐานสะสมพลังมานานหลายเดือน กำลังจะนำไปสู่การทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่รุนแรงและยั่งยืนกว่าที่เคยเป็นมา ตามหลักการทางเทคนิคที่ว่า “ยิ่งฐานราคาถูกสร้างมานานเท่าไหร่ การทะยานขึ้นก็จะยิ่งรุนแรงและไปได้ไกลมากเท่านั้น”
Schneider มองว่าเป้าหมายถัดไปของราคาทองคำที่ระดับ 3,800 ถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐนั้น เป็นระดับที่มีความเป็นไปได้สูงมากในทางปฏิบัติ และที่สำคัญ เธอย้ำว่านักลงทุนยังไม่ตกรถไฟขบวนนี้ เพราะช่วงเวลาที่ราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญทางประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิก (Parabolic move) ที่ราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
นอกจากนี้ เธอยังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนท่าทีของ Fed ที่เริ่มแสดงความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่ายุคของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายกำลังจะกลับมา และนั่นคือสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อราคาทองคำมากที่สุด
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำไม่ได้เพียงแค่ทดสอบแนวต้านประวัติศาสตร์ที่ $3,500 แต่สามารถทะลวงผ่านขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง เปิดฉากการวิ่งขึ้นในโหมด “Blue Sky Breakout” อย่างเต็มรูปแบบ
โดยราคาได้ผ่านเป้าหมายแรกที่ $3,520 ขึ้นมาเคลื่อนไหวในกรอบล่าสุดที่ประมาณ $3,539 และได้ทำจุดสูงสุดใหม่ใกล้บริเวณ $3,550 เป็นที่เรียบร้อย แนวโน้มหลักในภาพใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งอย่างไม่มีข้อกังขา แท่งเทียนสีเขียวที่เรียงตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่ราคายืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ทุกเส้น ยืนยันถึงโมเมนตัมฝั่งซื้อที่ยังคงควบคุมตลาดได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศที่สดใสนี้ เริ่มมีสัญญาณเตือนภัยระยะสั้นปรากฏขึ้นให้เห็น แม้ดัชนี RSI จะยังคงลอยตัวอยู่ในเขต Overbought (ซื้อมากเกินไป) ซึ่งเป็นเรื่องปกติในสภาวะตลาดกระทิงจัด แต่เมื่อพิจารณาที่ดัชนี Stochastic RSI ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ที่ตอบสนองไวกว่า จะเห็นสัญญาณ “Bearish Crossover” ได้อย่างชัดเจน โดยเส้น %K (สีน้ำเงิน) ได้ตัดลงต่ำกว่าเส้น %D (สีส้ม) ในโซนสูง นี่คือสัญญาณเตือนแรกที่บ่งชี้ว่าพลังในการพุ่งทะยานเริ่มแผ่วลง และตลาดอาจเข้าสู่ช่วงของการพักฐานหรือย่อตัวเพื่อสะสมพลังในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
สำหรับกลยุทธ์และแนวโน้มในระยะสั้น แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาคือจุดสูงสุดล่าสุดบริเวณ $3,550 หากมีแรงซื้อมากพอที่จะผลักดันราคาให้ผ่านขึ้นไปได้อีกครั้ง จะเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งและเปิดทางให้ราคาทองคำมุ่งหน้าสู่พื้นที่ที่ไม่เคยมีใครไปถึงมาก่อน
ในทางกลับกัน แนวรับแรกได้ถูกยกขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $3,528 ซึ่งเป็นแนวต้านย่อยเดิม แต่แนวรับที่สำคัญที่สุดและเป็นหัวใจของการทะยานขึ้นรอบนี้คือโซน $3,500 - $3,508 การย่อตัวลงมาแต่ยังสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ จะถือเป็นการพักฐานที่สวยงามและเป็นโอกาสให้นักลงทุนที่ตกรถได้พิจารณาเข้าซื้อ
แต่หากราคาหลุดแนวรับสำคัญนี้ลงไป จะถือเป็นสัญญาณลบที่บ่งชี้ว่าการทะลุขึ้นมาครั้งนี้อาจเป็นเพียง “การทะลุหลอก” (False Breakout) และอาจนำไปสู่การปรับฐานที่ลึกกว่าเดิมได้ ดังนั้น การไล่ซื้อที่ราคาสูงสุดในขณะนี้จึงยังคงมีความเสี่ยงสูง การรอจังหวะย่อตัวเพื่อเข้าซื้อบริเวณแนวรับสำคัญจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,520
$3,500
$3,480
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,550
$3,560
$3,580
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน