วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงสร้างความคึกคักให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเมื่อคืนก่อนปิดตลาดได้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ $3,674 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน ทำให้ราคาย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่ยังคงยืนเหนือระดับจิตวิทยาสำคัญได้อย่างแข็งแกร่ง
ล่าสุดราคาทองคำ XAUUSD เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ $3,622 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมตลาดยังคงเป็นบวกอย่างชัดเจน ปัจจัยพื้นฐานและสัญญาณทางเทคนิคต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าตลาดกระทิงของทองคำยังไม่จบง่ายๆ
ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ สุดช็อก! ตัวเลขหายเกือบล้านตำแหน่ง จุดชนวนความผันผวน
ปัจจัยสำคัญที่สร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำอย่างหนักในชั่วข้ามคืน คือการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่สร้างความตกตะลึงให้กับตลาดอย่างยิ่ง โดยสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) ได้ปรับปรุงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรย้อนหลัง และพบว่าตัวเลขหายไปถึง 911,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับลดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และมากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถึงสามเท่า
ข้อมูลนี้เปรียบเสมือนการสกัดขาตลาดที่เคยเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งผลให้ราคาทองคำแกว่งตัวอย่างรุนแรง โดยในช่วงแรกหลังการประกาศข่าว ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปแตะ $3,674 ดอลลาร์ แต่ไม่ถึงสิบนาทีต่อมาก็ร่วงลงมาที่ $3,643 ดอลลาร์ ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่
เหตุการณ์นี้สะท้อนความสับสนของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี Chris Zaccarelli ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Northlight Asset Management ชี้ว่าภาพตลาดแรงงานที่ย่ำแย่ลงนี้อาจเป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นผลดีต่อทองคำ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง หากตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศออกมาในวันพฤหัสบดียังคงอยู่ในระดับสูง ก็จะยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Stagflation หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง ซึ่งจะเป็นโจทย์ที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับทิศทางการลงทุนในอนาคต
เฟดอยู่บนทางสองแพร่ง เดิมพันครั้งใหญ่ของนักลงทุนทองคำ
จากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเริ่มวงจรการลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้เพื่อพยุงเศรษฐกิจ ประเด็นนี้เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญที่สุดสำหรับราคาทองคำในปัจจุบัน
Jerry Prior ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโออาวุโสจาก KraneShares ให้ความเห็นว่าหากเฟดเริ่มส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยอย่างชัดเจน มีโอกาสที่เราจะได้เห็นราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึงระดับ $3,800 ดอลลาร์ภายในปีนี้
นักลงทุนจึงต้องจับตาการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการเฟด หรือที่เรียกว่า Dot Plot ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Prior ได้ให้มุมมองที่ลึกไปกว่านั้น โดยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ตลาดอาจยังมองข้าม นั่นคือปัญหาหนี้สินระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลสูญเสียความสามารถในการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว (Long-term bond yields) จนเฟดต้องเข้ามาแทรกแซงด้วยการพิมพ์เงินเพื่อซื้อพันธบัตรเหล่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างรุนแรง และอาจผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
หนี้ท่วมโลก และการด้อยค่าของเงินคือปัจจัยขับเคลื่อนทองคำยุคใหม่
หากมองในภาพใหญ่ การที่ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,500 และ $3,600 ดอลลาร์ขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งนั้น ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของข้อมูลเศรษฐกิจรายวันหรือการเก็งกำไรในระยะสั้น
Paul Wong นักกลยุทธ์การตลาดจาก Sprott Asset Management วิเคราะห์ว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากนักลงทุนในตลาดเริ่มตระหนักถึงความจริงที่ว่า “การด้อยค่าของสกุลเงิน” (Currency Debasement) คือทางออกเดียวที่รัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลกจะสามารถจัดการกับภาระหนี้สินมหาศาลของตนเองได้
เมื่อหนี้สินของรัฐบาลสูงเกินกว่าจะชำระคืนได้ด้วยวิธีการปกติ การทำให้มูลค่าของเงินที่ถืออยู่ในมือลดลงจึงเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สัญญาณเตือนที่ชัดเจนคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของตลาดต่อวินัยทางการคลังของรัฐบาลเหล่านั้น
ในสภาวะที่ความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิม สถาบันการเงิน และรัฐบาลกำลังถูกสั่นคลอน ทองคำจึงไม่ใช่แค่สินทรัพย์หลบภัย (Safe Haven) อีกต่อไป แต่ได้ยกระดับขึ้นเป็น “สินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง” (Safe Asset) ที่ปราศจากความเสี่ยงจากคู่สัญญาและไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลใดๆ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่ผลักดันให้ราคาทองคำเข้าสู่ตลาดกระทิงรอบใหม่อย่างเต็มตัว และมีเป้าหมายทางเทคนิคต่อไปที่ระดับ $3,900 ดอลลาร์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากภาพกราฟทางเทคนิคราย 4 ชั่วโมง ราคาทองคำยังคงแสดงพลังของตลาดกระทิงอย่างชัดเจน โดยแท่งเทียนสามารถยกตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่องและยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ได้อย่างมั่นคง สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดจากอินดิเคเตอร์เริ่มส่งสัญญาณเตือนที่น่าสนใจซึ่งนักลงทุนไม่ควรมองข้าม แม้ว่าดัชนี RSI และ Stochastic RSI จะเคลื่อนตัวอยู่ในโซน Overbought (ภาวะซื้อมากเกินไป) มาสักระยะ ซึ่งสะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่ง แต่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอินดิเคเตอร์ทั้งสองได้เริ่มหักหัวลงจากจุดสูงสุดอย่างรวดเร็วและชัดเจน
ปรากฏการณ์นี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมหรือแรงส่งของฝั่งซื้อเริ่มแผ่วลง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการย่อตัวหรือพักฐานในระยะสั้นเพื่อลดความร้อนแรงของตลาด
สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า แม้ภาพใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น แต่ความเสี่ยงในการปรับฐานมีสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาเป็นด่านแรกยังคงอยู่ที่บริเวณ $3,655 หากแรงซื้อสามารถกลับมาและผลักดันราคาให้ผ่านไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่โซน $3,680
ในทางกลับกัน แนวรับที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือบริเวณ $3,625 ซึ่งเป็นแนวต้านเก่าที่เพิ่งถูกทำลายไป หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ มีโอกาสสูงที่จะย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับถัดไปซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA ที่ประมาณ $3,600-$3,605 ซึ่งถือเป็นแนวรับที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นนี้
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น การไล่ซื้อที่ระดับราคาปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงจากการพักตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ กลยุทธ์ Buy on Dip ยังคงใช้ได้ผล แต่ควรพิจารณาเข้าซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับสำคัญ เช่น $3,625 หรือ $3,605 และเริ่มมีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน
การหลุดแนวรับแรกที่ $3,625 จะเป็นสัญญาณเตือนถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมราคาที่อาจเกิดขึ้น
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,625
$3,600
$3,580
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,655
$3,680
$3,700
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน