วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดเอเชียเช้าวันพฤหัสบดีนี้เปิดตัวได้อย่างร้อนแรง โดยราคาทองคำ XAUUSD ได้ปรับตัวสูงขึ้นจนแตะระดับ 4,209 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา
การดีดตัวขึ้นครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยพื้นฐานสำคัญรองรับ โดยเฉพาะความชัดเจนทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา ที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและลงมติเพื่อยุติภาวะ Government Shutdown ที่ยืดเยื้อและสร้างความกังวลให้กับตลาดการเงินมาอย่างยาวนาน
ซึ่งหากข้อตกลงนี้ผ่านความเห็นชอบ จะทำให้หน่วยงานรัฐกลับมาเบิกจ่ายงบประมาณได้จนถึงวันที่ 30 มกราคม ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมามีความชัดเจนอีกครั้ง
ปัจจัยหนุนที่สำคัญยิ่งกว่าการกลับมาเปิดทำการของรัฐบาล คือผลพวงที่จะตามมาในเรื่องของข้อมูลเศรษฐกิจ
การยุติชัตดาวน์หมายถึงการที่หน่วยงานต่างๆ จะสามารถกลับมารายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญได้ตามปกติ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เปรียบเสมือนเข็มทิศให้นักลงทุนและธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้ในการกำหนดทิศทางดอกเบี้ย
ความคาดหวังของตลาดในขณะนี้จึงพุ่งเป้าไปที่การประชุมเดือนธันวาคม โดยเครื่องมือ CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงถึงประมาณ 64% ที่เฟดจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ความขัดแย้งในนโยบายดอกเบี้ยและสัญญาณจากเจ้าหน้าที่เฟด
แม้ตลาดจะเทน้ำหนักไปที่การลดดอกเบี้ย แต่เสียงจากคณะกรรมการเฟดยังคงแตกออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ฝั่งหนึ่งมองว่านโยบายการเงินในปัจจุบันเข้มงวดเกินไป ดังเช่น Stephen Miran ผู้ว่าการเฟดที่ออกมาแสดงความเห็นว่าเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยกำลังชะลอตัวลง ซึ่งช่วยลดแรงกดดันด้านราคาได้มาก
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งยังคงแสดงท่าทีระมัดระวัง หรือ Hawkish โดยเฉพาะ Raphael Bostic ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ที่เพิ่งประกาศเตรียมลงจากตำแหน่งในช่วงต้นปีหน้า
Bostic ยืนยันหนักแน่นว่าเขาต้องการเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อกำลังกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2% ก่อนที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย โดยเขามองว่าความเสี่ยงด้านเสถียรภาพราคานั้นมีความเร่งด่วนและชัดเจนกว่าความเสี่ยงในตลาดแรงงานที่สัญญาณยังคงคลุมเครือ
ถ้อยแถลงของ Bostic สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของกลุ่มสายเหยี่ยวในเฟดที่ไม่ต้องการรีบร้อนผ่อนคลายนโยบายการเงินจนกว่าจะมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าน้ำหนักของคำพูด Bostic อาจลดน้อยลงเนื่องจากการประกาศเกษียณอายุที่กำลังจะมาถึง ทำให้เขาจะไม่มีสิทธิ์โหวตในนโยบายดอกเบี้ยอีกต่อไป
สิ่งที่ตลาดให้ความสำคัญมากกว่าในขณะนี้คือถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ ที่จะทยอยออกมา อาทิ Neel Kashkari, Alberto Musalem และ Beth Hammack ซึ่งหากมีสัญญาณที่ผ่อนคลายหรือ Dovish ออกมา ก็จะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะดันให้ราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญต่อไปได้
มุมมองทางจิตวิทยาตลาด ทองคำจะเป็นขาขึ้นรอบใหม่หรือแค่การรีบาวด์
ในเชิงเทคนิคและการวิเคราะห์กราฟราคา นักวิเคราะห์ชั้นนำต่างเริ่มกลับมามองบวกต่อทิศทางราคาทองคำอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงปรับฐานมาได้อย่างแข็งแกร่ง
Alex Kuptsikevich หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดจาก FxPro ซึ่งเคยมีมุมมองเชิงลบเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่โดยระบุว่าข่าวลือเรื่องการจบสิ้นของขาขึ้นทองคำนั้นดูจะเกินจริงไปมาก
การที่ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญและดีดตัวกลับขึ้นมาได้ แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงหนาแน่น โดยทองคำ Spot ปรับตัวขึ้นกว่า 3% ในสัปดาห์นี้
สิ่งนี้สะท้อนว่าการเทขายในช่วงตุลาคมเป็นเพียงการระบายความร้อนของตลาดที่เข้าเขต Overbought และเมื่อนักเก็งกำไรระยะสั้นได้เทขายทำกำไรออกไปแล้ว ตลาดจึงกลับมาสู่สมดุลและพร้อมสำหรับการปรับตัวขึ้นรอบใหม่
สอดคล้องกับมุมมองของ Nick Cawley จาก Solomon Global และ David Morrison จาก Trade Nation ที่เห็นพ้องต้องกันว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนราคาทองคำอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ย
แม้ว่ากราฟรายวันอาจแสดงสัญญาณความลังเลของนักลงทุนบางกลุ่มที่ยังกังวลกับการปรับฐาน แต่สัญญาณจาก MACD เริ่มกลับมาดูดีขึ้นในเชิงบวก
นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นควบคู่ไปกับทองคำยังเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ เพราะปกติสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยมักจะวิ่งสวนทางกัน
จับตาประเด็นร้อน ความเป็นอิสระของเฟดและการเมืองสหรัฐฯ ตัวแปรดันทองพุ่ง
นอกเหนือจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจแล้ว ประเด็นทางการเมืองที่กำลังคุกรุ่นอาจกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี เมื่อศาลฎีกาสหรัฐฯ ประกาศรับฟังการไต่สวนในวันที่ 21 มกราคม เกี่ยวกับอำนาจของประธานาธิบดี Donald Trump ในการปลด Lisa Cook ผู้ว่าการเฟดออกจากตำแหน่ง
โดย Trump พยายามผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเอกสารจำนอง แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์และตลาดมองว่า นี่คือความพยายามในการแทรกแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลาง เพื่อนำคนที่สนับสนุนนโยบายดอกเบี้ยต่ำเข้ามาทำหน้าที่แทน
ซึ่งหาก Trump ประสบความสำเร็จในการควบคุมเฟด จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจทางการเงินครั้งประวัติศาสตร์
Rhona O’Connell หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดจาก StoneX ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า หากศาลตัดสินให้เป็นคุณต่อประธานาธิบดีและนำไปสู่การลดทอนความเป็นอิสระของเฟด เราอาจได้เห็นราคาทองคำพุ่งขึ้นอีกถึง 500 ดอลลาร์
เพราะเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐและความน่าเชื่อถือของสกุลเงิน หากธนาคารกลางถูกมองว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง ความเชื่อมั่นในดอลลาร์สหรัฐจะลดฮวบ และเงินทุนจะไหลเข้าสู่ทองคำอย่างมหาศาล
แม้ว่ากระบวนการทางกฎหมายอาจใช้เวลาและคำตัดสินคงไม่ออกมาในเร็ววัน แต่ความไม่แน่นอนนี้ รวมถึงการสิ้นสุดวาระของประธานเฟด Jerome Powell ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต้องถือครองทองคำไว้ในพอร์ตเพื่อประกันความเสี่ยงจากพายุทางการเมืองที่กำลังก่อตัวขึ้น
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ในส่วนของการวิเคราะห์ทางเทคนิคกราฟราคาทองคำ XAU/USD จากกรอบเวลา 4 ชั่วโมง จะเห็นได้ชัดเจนว่าราคายังคงเคลื่อนตัวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีเส้นแนวรับ Trend Line ที่ลากขึ้นมาเป็นตัวพยุงราคาไว้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงล่าสุดได้ชะลอตัวลง หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 61.80% ที่บริเวณ 4,195 ดอลลาร์ แต่ไม่สามารถยืนเหนือได้ และเริ่มมีการย่อตัวกลับลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 4,187 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาจาก Indicators จะพบสัญญาณเตือนถึงการพักตัวในระยะสั้นที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะดัชนี RSI ที่พุ่งเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) ซึ่งสะท้อนถึงภาวะที่ตลาดร้อนแรงเกินไป
แม้ Stochastic RSI จะปรับตัวลงจากเขต Overbought แล้ว แต่การที่ RSI ยังอยู่ในระดับสูง อาจเป็นสัญญาณว่าราคาทองคำมีโอกาสจะเกิดการย่อตัวหรือพักฐานในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
สำหรับกลยุทธ์การเทรดในระยะสั้น การไล่ราคาซื้อ ณ จุดนี้จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง นักลงทุนอาจพิจารณารอจังหวะย่อซื้อที่บริเวณแนวรับสำคัญ
โดยแนวรับแรกที่คาดว่าราคาจะลงมาทดสอบอยู่ที่โซน 4,137 - 4,135 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 50.0% และเป็นแนวต้านเดิมที่เพิ่งทะลุผ่านมา
หากแนวรับนี้ยังไม่สามารถหยุดการย่อตัวได้ แนวรับถัดไปและน่าสนใจเข้าซื้อจะอยู่ที่บริเวณ 4,087 ดอลลาร์ (Fibonacci 38.20%) ซึ่งมีกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) และอยู่ใกล้กับเส้นแนวรับเทรนด์ไลน์ขาขึ้นเส้นสำคัญรองรับอยู่
ตราบใดที่ราคายังไม่หลุดแนวรับเทรนด์ไลน์ดังกล่าว ภาพรวมแนวโน้มหลักของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น
ในทางกลับกัน หากราคาทองคำสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 4,195 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง เป้าหมายถัดไปในขาขึ้นจะเปิดกว้างไปถึงแนวต้าน Fibonacci 78.60% ที่ระดับ 4,276 ดอลลาร์ต่อไป

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,135
$4,087
$4,057
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,195
$4,250
$4,276
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


