วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 29 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAU/USD เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ด้วยการทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะระดับประมาณ 3,770 ดอลลาร์ สร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โมเมนตัมที่แข็งแกร่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการจับตาของนักลงทุนทั่วโลก หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้
แม้ว่าในทางเทคนิคราคาทองคำจะเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่ากระแสกระทิงในตลาดจะแข็งแกร่งเกินกว่าจะต้านทานได้ ปัจจัยพื้นฐานที่หนักแน่น ตั้งแต่การเข้าซื้อของธนาคารกลางไปจนถึงความต้องการสินทรัพย์ทางเลือก กำลังผลักดันให้ทองคำเข้าใกล้แนวต้านจิตวิทยาที่สำคัญอย่าง 3,800 ดอลลาร์ เข้าไปทุกขณะ
เจาะลึกข้อมูล PCE ใบเบิกทางให้ Fed ลดดอกเบี้ย หนุนหลังราคาทองคำ
หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนราคาทองคำในรอบนี้คือตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญสูงสุด โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคมที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนี Core PCE (ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน) ขยับขึ้น 2.9% ซึ่งตัวเลขทั้งสองสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทุกประการ
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข แต่เป็นการตีความของตลาด Tai Wong เทรดเดอร์อิสระด้านโลหะมีค่าให้ความเห็นว่า ข้อมูลนี้ไม่มีอะไรที่จะขัดขวาง Fed จากการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังอีกครั้งในการประชุมเดือนตุลาคม
การที่เงินเฟ้อไม่ได้ร้อนแรงจนน่ากังวล ได้เปิดทางให้ Fed สามารถหันไปให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการลดดอกเบี้ยได้สะดวกขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลดีต่อทองคำโดยตรง เพราะการลดดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ (ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย) ลดลง และทำให้ทองคำมีความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ล่าสุดสะท้อนว่า ตลาดให้โอกาสเกือบ 88% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม และอีก 65% สำหรับการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม
เมื่อทองคำไม่สนดอลลาร์แข็งค่า และข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีอีกต่อไป
สิ่งที่น่าสนใจและสะท้อนความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงของราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการที่ราคาสามารถปรับตัวขึ้นได้ แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่โดยปกติแล้วควรจะกดดันราคาทองคำ
Adam Button หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สกุลเงินของ Forexlive.com ชี้ให้เห็นว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของทองคำ ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยอดขายบ้านใหม่ GDP หรือยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นกว่า 1% แต่ทองคำก็ยังสามารถพุ่งขึ้นได้
ปรากฏการณ์นี้ส่งสัญญาณว่าตลาดทองคำไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเรื่องการลดดอกเบี้ยของ Fed เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มีแรงหนุนจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ใหญ่กว่านั้น
Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์จาก City Index ระบุว่าทองคำได้รับการสนับสนุนจากการเข้าซื้ออย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งมีสาเหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ และภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงเหนียวแน่น
ด้าน Kevin Grady ประธานของ Phoenix Futures and Options เสริมว่าตอนนี้ตลาดอยู่ในมือของผู้ซื้อรายใหญ่อย่างธนาคารกลาง ซึ่งมองว่าการซื้อทองคำเป็นประเด็นความมั่นคงของชาติเพื่อกระจายความเสี่ยงจากเงินดอลลาร์ และพวกเขาจะไม่เทขายเพียงเพราะราคาสูงขึ้น
ปัจจัยเหล่านี้ได้สร้างฐานแนวรับที่แข็งแกร่ง ทำให้ราคาทองคำสามารถยืนหยัดและปรับตัวขึ้นได้สวนทางกับปัจจัยลบในระยะสั้น
จับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ ชี้ชะตา $4,000 และความเสี่ยงที่ต้องระวัง
สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ทิศทางราคาทองคำจะอยู่ที่ข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยประกาศออกมาตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์
หากข้อมูลออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ ก็จะเป็นการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัว และจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ Fed ต้องรีบลดดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อทองคำ และอาจเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาทะลุผ่านแนวต้าน $3,800 ไปสู่เป้าหมายถัดไปที่นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มพูดถึงอย่าง $4,000 ได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง David Morrison นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Trade Nation ได้เตือนว่า ในทางเทคนิคแล้วราคาทองคำอยู่ในภาวะ Overbought อย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจต้องมีการปรับฐาน (Correction) หรือพักตัวเพื่อสะสมกำลัง (Consolidation) ก่อนที่จะสามารถสร้างโมเมนตัมเพื่อพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้
ดังนั้น แม้ภาพรวมแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน แต่ความผันผวนในระยะสั้นอาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งอาจทำให้ตลาดต้องกลับมาประเมินความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยของ Fed ใหม่อีกครั้ง
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สถานการณ์ของราคาทองคำได้พัฒนาไปในทิศทางที่เป็นบวกอย่างชัดเจนตามที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่กราฟแท่งเทียน 4 ชั่วโมงสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ $3,760 ขึ้นมาได้สำเร็จ
สิ่งที่น่าสนใจและเป็นการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นคือ การที่ราคาได้ย่อตัวลงมาทดสอบบริเวณแนวต้านเดิมที่ $3,760 อีกครั้ง และสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง การทดสอบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการพิสูจน์ว่าแนวต้านเดิมได้เปลี่ยนบทบาทมาเป็นแนวรับใหม่ที่แข็งแกร่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมราคาที่คลาสสิกของตลาดกระทิง และส่งผลให้ภาพรวมทางเทคนิคมีน้ำหนักเอนเอียงไปในฝั่งซื้ออย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อพิจารณาอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคประกอบ จะเห็นภาพที่สอดคล้องกันอย่างชัดเจน ดัชนี RSI ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 และกำลังไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าโมเมนตัมของฝั่งซื้อยังคงเป็นฝ่ายควบคุมตลาด และยังมีพื้นที่เหลือเฟือที่จะวิ่งขึ้นต่อก่อนจะเข้าสู่โซน Overbought (ภาวะซื้อมากเกินไป)
ขณะที่ Stochastic RSI แสดงสัญญาณที่น่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเส้นสัญญาณได้ดีดตัวขึ้นจากโซนล่างอย่างรวดเร็วและชันเจน กำลังมุ่งหน้าเข้าใกล้เขต Overbought แต่ยังไม่เข้าสู่โซนดังกล่าว ซึ่งตีความได้ว่ามีแรงซื้อในระยะสั้นเข้ามาหนุนตลาดอย่างหนาแน่น และยังมีโอกาสที่ราคาจะถูกผลักดันให้สูงขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ แท่งเทียนราคายังคงลอยตัวอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับเคลื่อนที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง
สำหรับกลยุทธ์ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า มุมมองยังคงเป็นการหาจังหวะ “ย่อซื้อ” (Buy on Dip) โดยมีแนวรับสำคัญที่ต้องจับตาคือ $3,760 ตราบใดที่ราคายังสามารถรักษาระดับเหนือโซนนี้ได้ ภาพรวมยังคงเป็นบวกอย่างยิ่ง โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่การกลับขึ้นไปทดสอบยอดล่าสุดบริเวณ $3,780 และหากผ่านไปได้ เป้าหมายถัดไปที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองคือแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ $3,800
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและราคากลับหลุดแนวรับ $3,760 ลงไป จะถือเป็นสัญญาณลบที่บ่งชี้ถึงการเกิด False Breakout ซึ่งอาจเปิดทางให้แรงขายกลับเข้ามากดดันราคาให้กลับลงไปสู่กรอบเดิมที่แนวรับ $3,725 ได้อีกครั้ง แต่น้ำหนักของความเป็นไปได้ในปัจจุบันยังคงเทให้กับโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อมากกว่า
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,760
$3,740
$3,725
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,780
$3,790
$3,800
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน