วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 25 ต.ค. 2567

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ราคาทองคำโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับ $2,743 ในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะได้เปรียบเหนือ Kamala Harris รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่าความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำ สะท้อนถึงความวิตกกังวลของตลาดต่อผลการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีการแข่งขันที่เข้มข้น
นอกจากนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงทวีความรุนแรง หลังจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่าน โดยการโจมตีเตหะรานอาจนำไปสู่การยกระดับความรุนแรงของความขัดแย้งในภูมิภาค ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น นักวิเคราะห์จาก ANZ ยังชี้ว่าความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับการลงทุนในทองคำ
ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัวเกินคาด กระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน
ข้อมูลล่าสุดจาก U.S. Census Bureau และ U.S. Department of Housing and Urban Development เผยว่ายอดขายบ้านใหม่ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 4.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.2% โดยมียอดขายที่อัตราปรับตามฤดูกาลแล้วที่ 738,000 หน่วย สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 720,000 หน่วย และสูงกว่าตัวเลขเดือนสิงหาคมที่มีการปรับลดลงเหลือ 709,000 หน่วย จากเดิม 716,000 หน่วย ราคาขายของบ้านใหม่อยู่ที่ 426,300 ดอลลาร์สหรัฐ และราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 501,000 ดอลลาร์สหรัฐ สินค้าคงคลังบ้านที่รอการขาย ณ สิ้นเดือนกันยายนมีจำนวน 470,000 หน่วย คิดเป็นอุปทานสำหรับ 7.6 เดือนที่อัตราการขายปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์ยังคงให้ความสนใจกับตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นภาคส่วนสำคัญที่มีส่วนขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญความท้าทายจากการที่ Federal Reserve (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและอุปทานที่จำกัด ส่งผลให้ราคาบ้านยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ซื้อบ้านรายใหม่หลายรายไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด ดันราคาทองพุ่งทะยาน
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ตุลาคมลดลงเหลือ 227,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 242,000 ราย และลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 241,000 ราย สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานที่ยังคงดีกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 basis points (bps) ในการประชุมครั้งล่าสุด เนื่องจากกังวลว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินอาจมากเกินไป ส่วนจำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ตุลาคมอยู่ที่ 1.897 ล้านราย สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.880 ล้านราย และสูงกว่าสัปดาห์ก่อนที่ 1.867 ล้านราย ข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดของวัน
ภาคบริการสหรัฐฯ เติบโตแข็งแกร่ง แม้ภาคการผลิตยังซบเซา
ทางด้านรายงาน Flash Purchasing Managers Index จาก S&P Global เผยว่าดัชนี PMI ภาคบริการในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็น 55.3 จาก 55.2 ในเดือนกันยายน สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 55.0 สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบสองเดือน ในขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเป็น 47.8 จาก 47.3 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 47.5 แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม รายงานระบุว่ากิจกรรมทางธุรกิจในไตรมาสที่ 4 เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง แต่การเติบโตถูกขับเคลื่อนโดยภาคบริการเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ผลผลิตภาคการผลิตยังคงหดตัวต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ชี้ทองคำยังมีโอกาสทะยานต่อ หนุนด้วยปัจจัยการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์
Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ระบุว่าราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นแม้จะเผชิญแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 17 basis points มาอยู่ที่ 4.20% ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ของ Bloomberg แข็งค่าขึ้น 0.6% นักลงทุนใช้โลหะมีค่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากการที่พรรครีพับลิกันอาจได้ครองทั้งทำเนียบขาวและรัฐสภา (Red Sweep) ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ใกล้ระดับ 2,740 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่ราคาเงินทะลุแนวต้านที่ 32.50 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกบปีก่อน นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ยังรวมถึงความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการคลัง ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐที่ผลักดันให้เกิดอุปสงค์จากธนาคารกลาง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และธนาคารกลางอื่นๆ ยังช่วยลดต้นทุนการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนอย่างทองคำและเงิน สภาวะเช่นนี้กำลังกระตุ้นความสนใจในกองทุน ETF ที่อิงกับทองคำ โดยเฉพาะจากผู้จัดการสินทรัพย์ในตะวันตกที่เคยเป็นผู้ขายสุทธิจนถึงเดือนพฤษภาคม 2024
BRICS เตรียมจัดตั้งตลาดโลหะมีค่า หวังลดการพึ่งพากลไกราคาตะวันตก
รัสเซียเสนอให้กลุ่มประเทศ BRICS จัดตั้งตลาดโลหะมีค่าของตนเอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกลไกการกำหนดราคาทองคำ เงิน แพลทินัม และโลหะมีค่าอื่นๆ ที่ดำเนินการโดยตะวันตกมาอย่างยาวนาน ข้อเสนอนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำประเทศ BRICS ได้ลงนามในปฏิญญาสนับสนุนการเพิ่มการแลกเปลี่ยนโลหะมีค่าระหว่างประเทศสมาชิกบนพื้นฐานของมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ร่วมกัน โดย Anton Siluanov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรัสเซียระบุว่า กลไกดังกล่าวจะรวมถึงการสร้างเครื่องมือสำหรับตัวชี้วัดราคาโลหะ มาตรฐานการผลิตและการค้าทองคำแท่ง การรับรองผู้เข้าร่วมตลาด ตลอดจนการชำระบัญชีและการตรวจสอบภายในประเทศ BRICS โดยคาดว่าตลาดโลหะมีค่า BRICS จะกลายเป็นผู้กำหนดราคาหลักสำหรับโลหะมีค่า
Andy Schectman ประธานและเจ้าของ Miles Franklin Precious Metals ระบุว่า การประชุมสุดยอด BRICS ครั้งนี้อาจเร่งให้เกิดการปฏิรูประบบการเงินโลกครั้งใหม่ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึง 150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ตามเอกสารแนวคิด สกุลเงินใหม่ที่เรียกว่า “Unit” จะผูกมูลค่า 40% กับทองคำ และ 60% กับตะกร้าสกุลเงินของประเทศ BRICS โดยถูกออกแบบให้เป็น “สกุลเงินที่ปลอดการเมือง” เพื่อตอบสนองความกังวลของประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นอาวุธทางการเงิน
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ $2,733 ซึ่งเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA 12, EMA 26 และ EMA 200 สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง
จากการวิเคราะห์กราฟรายชั่วโมง พบว่าราคาได้สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ $2,760 ก่อนจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามา ทำให้ราคาปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ $2,715 ซึ่งเป็นระดับที่มีเส้น EMA 26 พาดผ่าน และราคาสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อยังคงมีความแข็งแกร่ง
การเคลื่อนไหวของดัชนี RSI ในขณะนี้อยู่ในโซนกลาง ไม่ได้แสดงสัญญาณภาวะซื้อขายมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold) อย่างไรก็ตาม จากการเกิด Bearish Divergence ระหว่าง RSI กับราคา ซึ่งเป็นสัญญาณถึงการพักตัวในระยะสั้นขณะนี้
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามองอยู่ที่ระดับ $2,740, $2,750 และ $2,760 ตามลำดับ ส่วนแนวรับสำคัญอยู่ที่ $2,715, $2,685 และ $2,671 โดยหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับแรกได้อย่างแข็งแกร่ง มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป
คาดการณ์แนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวในกรอบ $2,715-2,750 โดยยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหากสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างมั่นคง แต่นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเข้ามาเพิ่มเติมหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญได้ โดยเฉพาะบริเวณ $2,760 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุด
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,715
$2,685
$2,671
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$2,740
$2,750
$2,760
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน