วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 2 ก.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ราคาทองคำ XAUUSD ในตลาดโลกเช้านี้เปิดตัวอย่างร้อนแรงที่ระดับ $3,495 ต่อออนซ์ จ่อทดสอบจุดสูงสุดตลอกกาลที่ระดับ $3,500 อย่างเต็มกำลัง หลังจากที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับจ้องการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่สะสมพลังมานานหลายเดือน บัดนี้ สัญญาณกระทิงได้เริ่มส่งเสียงคำรามอีกครั้ง
สัญญาณเทคนิคกระทิชัด ทองทะยานเหนือแนวต้านสำคัญ
ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำกำลังสดใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่ราคาสามารถทะยานฝ่ากรอบสามเหลี่ยม Ascending Triangle ซึ่งเป็นรูปแบบการสะสมพลังในแนวโน้มขาขึ้นมาได้สำเร็จ การทะลุผ่านครั้งนี้เปรียบเสมือนการปลดปล่อยพลังที่ถูกบีบอัดมานานหลายเดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นการยืนยันว่ากระทิงได้กลับเข้ามาคุมตลาดอย่างเต็มตัวแล้ว
โดยนักวิเคราะห์จาก Société Générale ชี้ว่าปัจจัยทางเทคนิคสนับสนุนการเดินหน้าต่ออย่างแข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ $3,575-$3,600 และอาจไต่ระดับไปถึง $3,650 ได้ในลำดับต่อไป
ขณะที่แนวรับแรกซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญ จะขยับขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $3,450 เพื่อเป็นฐานในการสร้างพลังทะยานต่อไป นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์อย่าง MACD ที่ยังคงอยู่ในแดนบวกได้อย่างมั่นคง ก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยยืนยันถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่กลับมาอย่างมีนัยสำคัญ
พายุ Stagflation สหรัฐฯ และเสน่ห์ของสินทรัพย์หลบภัย
นอกเหนือจากภาพทางเทคนิคที่สวยงามแล้ว ปัจจัยมหภาคก็กำลังเป็นใจให้กับราคาทองคำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นภาพของ “Stagflation” หรือภาวะที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำแต่เงินเฟ้อกลับพุ่งสูง
ซึ่ง Ian Samson ผู้จัดการกองทุนจาก Fidelity International มองว่านี่คือสภาวะแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับทองคำ ตลาดคาดการณ์เกือบ 100% แล้วว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงราว 3%
การตัดสินใจดังกล่าวจะยิ่งกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนค่าลงไปอีก ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของกำแพงภาษีและตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลง ก็ยิ่งเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำในฐานะหลุมหลบภัยชั้นยอดท่ามกลางความไม่แน่นอน
นอกจากนี้ ขนาดของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้น ก็สร้างความกังวลต่อเสถียรภาพของค่าเงินดอลลาร์ในระยะยาว ผลักดันให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อรักษามูลค่าความมั่งคั่ง
นักลงทุนและธนาคารกลางแห่ตุนทอง
แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนจากนักลงทุนรายย่อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้เล่นรายใหญ่อย่างธนาคารกลางทั่วโลก โดยมีรายงานว่าธนาคารกลางของหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และตุรกี ได้เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากเกินไป
ขณะเดียวกัน กองทุน ETF ทองคำทั่วโลกก็มียอดถือครองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่น่าสนใจคือกระแสการลงทุนในรอบนี้เริ่มเห็นการกลับเข้ามาของนักลงทุนชาวตะวันตก หลังจากที่ช่วงแรกของปี 2024 ถูกขับเคลื่อนโดยนักลงทุนฝั่งเอเชียเป็นหลัก การผนึกกำลังของนักลงทุนจากทั่วโลกเช่นนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อทองคำ ผลสำรวจล่าสุดจาก Kitco News ยืนยันภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยผู้เชี่ยวชาญใน Wall Street กว่า 86% และนักลงทุนรายย่อยถึง 68% ต่างมองตรงกันว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้
ทำให้ขณะนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่แนวต้าน $3,500 หากราคาทองคำสามารถทะยานผ่านและยืนเหนือระดับนี้ไปได้อย่างมั่นคง จะเป็นการเปิดประตูสู่การเดินทางครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายที่เป็นไปได้ถึงระดับ $4,000 ตามที่นักวิเคราะห์จาก Bank of America ได้คาดการณ์ไว้ภายในครึ่งแรกของปี 2026
ปัจจัยทุกอย่างดูเหมือนจะสอดประสานกันอย่างลงตัว ทั้งสัญญาณทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง สภาวะเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย และแรงซื้อจากผู้เล่นรายใหญ่ทั่วโลก สัปดาห์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยนักลงทุนต้องจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่จะส่งให้ราคาทองคำทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
วันนี้ ภาพของราคาทองคำคือการทะยานขึ้นอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาจ่อแนวต้านประวัติศาสตร์ที่ $3,500 อย่างรวดเร็ว โดยราคาล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ $3,495 แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่มหาศาลและกระแสเงินทุนที่ยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างไม่หยุดยั้ง การพุ่งขึ้นในลักษณะเกือบเป็นเส้นตรงเช่นนี้บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อยู่ในระดับสูงสุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์จะพบว่าสัญญาณเตือนไม่ได้หายไปไหน แต่กลับยิ่งชัดขึ้นกว่าเดิม ดัชนี RSI ได้พุ่งทะยานเข้าสู่เขต Overbought ในระดับที่สูงกว่า 80 ซึ่งเป็นภาวะที่ร้อนแรงเกินไปอย่างสุดขีด ขณะที่ดัชนี Stochastic RSI ก็ยังคงลอยตัวอยู่ในระดับสูงเช่นกัน
แม้ในสภาวะตลาดกระทิงที่แข็งแกร่ง อินดิเคเตอร์สามารถค้างอยู่ในเขต Overbought ได้เป็นเวลานาน แต่ความเสี่ยงของการปรับฐานหรือการเทขายทำกำไรอย่างรุนแรงก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวในทุกขณะ การเคลื่อนไหวของราคาในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าจึงเปรียบเสมือนการเดินบนเส้นด้ายที่เต็มไปด้วยความผันผวน
สำหรับกลยุทธ์และแนวโน้มในระยะสั้น สมรภูมิสำคัญที่สุดคือแนวต้านทางจิตวิทยาและจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ $3,500 หากพลังกระทิงยังคงแข็งแกร่งและสามารถผลักดันราคาให้ทะลุผ่านปราการด่านนี้ขึ้นไปได้ จะถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของราคาทองคำอย่างแท้จริง หรือที่เรียกว่า “Blue Sky Breakout” ซึ่งจะไม่มีแนวต้านทางเทคนิคในอดีตมาขวางกั้น ทำให้มีโอกาสพุ่งขึ้นไปหาเป้าหมายถัดไปที่ $3,520 และ $3,550 ได้อย่างรวดเร็ว
ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ $3,500 ไปได้และเริ่มแสดงอาการอ่อนแรง การปรับฐานอาจเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยมีแนวรับแรกที่ต้องจับตาคือบริเวณ $3,482 ซึ่งเป็นแนวต้านย่อยที่เพิ่งผ่านมา หากรับไม่อยู่ แนวรับถัดไปจะอยู่ที่โซน $3,465 และ $3,450 ตามลำดับ
ดังนั้น สำหรับนักลงทุน การไล่ซื้อที่บริเวณแนวต้านสูงสุดตลอดกาลนี้ถือเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก กลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่าคือการรอสัญญาณที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทะลุผ่าน $3,500 อย่างเด็ดขาดแล้วรอเข้าซื้อเมื่อย่อตัว หรือรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,480
$3,454
$3,439
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,500
$3,520
$3,550
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน