วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 26 มิ.ย. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ราคาทองคำ XAUUSD วันนี้ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ นักลงทุนเริ่มใจชื้นขึ้นหลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราณและอิหร่านเริ่มผ่อนคลายลง ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจเป็นสัญญาณที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต้องหันมาทบทวนนโยบายอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น ประธานเฟด Jerome Powell ก็ยังคงส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินอยู่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่คอยกดดันไม่ให้ราคาทองพุ่งทะยานไปไกลกว่านี้ ภาพรวมของราคาทองคำจึงเป็นการประคองตัวเพื่อรอดูความชัดเจนจากปัจจัยสำคัญที่กำลังจะเข้ามา
ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อ่อนค่าลงเล็กน้อยเช่นกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงราคาทองคำไว้ ด้าน Jerome Powell ได้ชี้แจงต่อสภาคองเกรสว่า แม้มาตรการกำแพงภาษีอาจทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะฝังตัวในระบบเศรษฐกิจนั้นมีมากพอที่จะทำให้เฟดต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่หมัด เช่นเดียวกับ Susan Collins ประธานเฟดสาขาบอสตัน ที่เห็นตรงกันว่านโยบายปัจจุบันยังเหมาะสม แต่ก็เปิดช่องสำหรับการลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้หากสถานการณ์เอื้ออำนวย
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแอ โอกาสของทองคำ?
ข้อมูลล่าสุดที่น่าจับตาคือยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคมที่ดิ่งลงถึงเกือบ 14% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านที่ยังคงสูงอยู่ใกล้ระดับ 7%
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอที่ต่อเนื่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเส้นเลือดสำคัญของเศรษฐกิจสหการประกาศตัวเลขนี้ไม่ได้ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นทันที แต่กลับสร้างความกังวลในหมู่นักวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจโดยรวมกำลังชะลอตัวลงจริงหรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาต่อเนื่องไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก เพราะผู้บริโภคต้องเผชิญกับราคาบ้านที่สูงขึ้นพร้อมกับภาระดอกเบี้ยที่หนักอึ้ง
แม้ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจะลดน้อยลง หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงถาวรระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งทำให้แรงซื้อทองคำในฐานะหลุมหลบภัยลดลง แต่ความเสี่ยงด้านขาลงของราคาทองคำก็ยังมีจำกัด เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอนี้เอง จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่คอยพยุงราคาทองคำไว้ไม่ให้ร่วงลงไปแรง นักลงทุนจึงต้องจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ตัวเลข GDP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายของเฟดต่อไป
มองมุมทางเทคนิคและคาดการณ์ตลาด จุดวัดใจสำคัญของราคาทองคำ
ในมุมมองทางเทคนิค James Hyerczyk นักวิเคราะห์จาก FX Empire ชี้ว่าราคาทองคำกำลังยืนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (50-Day Moving Average) ที่ระดับ $3,325 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อทิศทางระยะยาวมาตั้งแต่ต้นปี 2025 การที่ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้สองวันติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าตลาดยังคงลังเลและกำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่ที่จะเป็นตัวตัดสินทิศทางอย่างแท้จริง ทั้งข้อมูล GDP, การจ้างงาน และดัชนีราคา PCE ที่จะประกาศในวันนี้และวันศุกร์
สิ่งที่น่าสนใจคือ ตลาดเริ่มมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ ความเห็นของ Jerome Powell และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ ถูกตีความว่าเป็นการปูทางไปสู่การผ่อนคลายนโยบายในอนาคต ทำให้ตอนนี้นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สให้น้ำหนักกว่า 85% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนอย่างแน่นอน และคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยรวมถึง 60 จุดภายในสิ้นปีนี้
ปัจจัยนี้เองที่ช่วยประคองราคาทองคำไว้ แม้ว่าแรงหนุนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จะจางหายไปก็ตาม James Hyerczyk ให้ความเห็นว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะประกาศออกมาไม่ได้แย่ไปกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบหรือปรับตัวลดลง โดยมีเป้าหมายแนวรับถัดไปที่ $3,228 และ $3,166 และหากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดรอบใหม่ หรือการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อย่างรุนแรง ราคาทองคำก็อาจปรับตัวลดลงไปสู่ระดับ $2,900 ได้ในระยะสั้น
ทำไมทองคำยังโดดเด่น? เจาะลึกเทียบกับโลหะเงิน (Silver)
เมื่อมองภาพให้กว้างขึ้น Erik Norland นักเศรษฐศาสตร์จาก CME Group ได้ให้บทวิเคราะห์ที่น่าสนใจว่า แม้ในอดีตปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราส่วนราคาทองคำต่อโลหะเงินจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ปัจจุบันมีปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโลหะมีค่าทั้งสองชนิด
โดยปกติแล้วราคาทองคำและโลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับอ่อนแอที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ อัตราส่วนราคาทองคำต่อโลหะเงิน (Gold-Silver Ratio) ซึ่งหมายถึงต้องใช้โลหะเงินกี่ออนซ์เพื่อซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ ได้พุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 100 ก่อนจะย่อตัวลงมาที่ระดับ 90 ซึ่งยังถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต
ความโดดเด่นของทองคำเมื่อเทียบกับโลหะเงินมาจากปัจจัยด้านอุปทานและอุปสงค์ที่ไม่เหมือนกัน ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2008 การกระทำดังกล่าวเปรียบเสมือนการดูดซับทองคำออกจากตลาดอย่างถาวร ซึ่งโลหะเงินไม่มีปัจจัยหนุนในส่วนนี้
ในทางกลับกัน ด้านอุปสงค์ โลหะเงินเคยถูกใช้ในอุตสาหกรรมการถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป ความต้องการส่วนนี้ก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ดังนั้น การที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ทองคำยังคงแข็งแกร่งและทำผลงานได้ดีกว่าโลหะเงินอย่างเห็นได้ชัด
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
จากที่เราคุยกันเมื่อวาน สถานการณ์ของราคาทองคำเรียกได้ว่าไปตามบทวิเคราะห์เป๊ะๆ เมื่อมองจากภาพกราฟราย 4 ชั่วโมงล่าสุด จะเห็นภาพที่ชัดเจนมากว่าราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways หรือการแกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบๆ
การต่อสู้อยู่ระหว่างแนวรับสำคัญที่เพิ่งตีกลับขึ้นมาได้คือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 (เส้นสีส้มบริเวณ $3,325) กับแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น EMA 12 และ 26 (เส้นสีแดงและสีฟ้า) ที่กดดันอยู่ด้านบนพร้อมกับแนวต้านเดิมที่ $3,344
ด้าน RSI ก็จะเห็นว่าเส้นวิ่งขึ้นมาอยู่บริเวณใกล้เคียงกับระดับ 50 ซึ่งเป็นโซนกลางๆ ไม่ได้ชี้ชัดว่าฝั่งไหนกำลังคุมเกมอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ พลังของฝั่งซื้อที่ดันราคาขึ้นมาเริ่มจะแผ่วลง ในขณะที่ฝั่งขายก็ยังไม่ได้กลับเข้ามาคุมตลาดเต็มตัว
ส่วน Stoch RSI ที่เราเห็นว่าดีดตัวขึ้นมาจากโซน Oversold นั้น ตอนนี้ก็ได้เคลื่อนที่ขึ้นมาอยู่ในระดับสูงแล้ว ทำให้โมเมนตัมในการดีดตัวอาจจะเหลือน้อยลง ดังนั้น การจะหวังให้ราคาพุ่งทะยานขึ้นไปแรงๆ จากสัญญาณของ Stoch RSI เพียงอย่างเดียวอาจจะยากหน่อยในตอนนี้
สำหรับทิศทางในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า จุดตัดสินอยู่ที่แนวต้าน $3,344 หากฝั่งซื้อสามารถยืนเหนือระดับนั้นได้อย่างมั่นคง จะเป็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่งมาก สัญญาณนี้จะบอกเราว่าการพักตัวได้จบลงแล้ว และราคาทองคำพร้อมที่จะมุ่งหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณโซน $3,372 ซึ่งเป็นระดับของ Fibonacci ที่ 23.60%
ในทางตรงกันข้าม หากราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $3,344 ซ้ำๆ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ แถมยังโดนแรงเทขายกดดันจนเกิดเป็นแท่งเทียนสีแดงทิ้งไส้ด้านบนยาวๆ นั่นจะเป็นสัญญาณเตือนว่าพลังของฝั่งซื้อได้หมดลงแล้ว และฝั่งขาย (หมี) กำลังจะกลับมาคุมเกมอีกครั้ง
สรุปง่ายๆ คือ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ให้จับตาดูโซนราคา $3,344 ไว้ให้ดี เพราะนี่คือทางแยกที่จะบอกเราว่าราคาทองคำจะเลือกขึ้นไปต่อ หรือจะกลับตัวลงมาเล่นในกรอบล่างอีกครั้ง
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,325
$3,293
$3,270
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,344
$3,372
$3,410
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน