วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 28 ก.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 28 กรกฏาคม 2568 เปิดตลาดเช้าวันจันทร์มา พี่น้องนักลงทุนทองคำอาจจะใจหายใจคว่ำกันหน่อย เพราะราคาทองคำ XAU/USD ดิ่งลงมาเคลื่อนไหวแถวๆ $3,335 เรียกว่าเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว หลายคนที่ลุ้นให้ราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญที่ $3,400 ไปให้ได้ ก็ต้องผิดหวังกันไปตามระเบียบ เพราะดูเหมือนกำแพงนี้จะแข็งแกร่งเหลือเกิน ชนครั้งที่ 4 แล้วก็ยังไม่ผ่าน คำถามสำคัญคือ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆ ราคาทองคำถึงโดนเทขายอย่างหนัก
คำตอบหลักๆ เลยก็คือ บรรยากาศการลงทุนในตลาดโลกตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว จากที่เคยกลัวๆ กังวลๆ กันเรื่องสงครามการค้า ตอนนี้ความกลัวนั้นเริ่มจางลงไปมาก นักลงทุนเริ่มกล้าที่จะกลับไปเสี่ยงมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่าอยู่ในโหมด Risk-on พอคนแห่ไปสินทรัพย์เสี่ยง สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำก็เลยถูกลดความน่าสนใจลงอย่างที่เห็น โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดคลายกังวลก็คือความคืบหน้าของข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป ที่ดูเหมือนจะหาข้อสรุปกันได้แล้วว่าจะเก็บภาษีสินค้าระหว่างกันที่ 15% ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ พอเรื่องใหญ่จบไปเรื่องหนึ่ง ตลาดก็โล่งอกไปตามๆ กัน
สงครามการค้าคลี่คลาย หรือแค่พักรบ? Fed ยังนิ่ง
นอกเหนือจากดีลของสหรัฐฯ กับยุโรปแล้ว ยังมีข่าวลือออกมาอีกว่าสองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ และจีน ก็อาจจะขยายเวลาพักรบสงครามภาษีออกไปอีก 3 เดือนด้วย ยิ่งทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงไปอีก
Phillip Streible ซึ่งเป็น Chief Market Strategist จาก Blue Line Futures ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า ตอนนี้นักลงทุนกำลังถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ตลาดหุ้นซึ่งกำลังทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ รวมถึงข่าวดีเรื่องข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ทำให้คนเลิกมองหาที่หลบภัยแล้วหันไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่าแทน
แต่เรื่องสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ก็คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ในวันพุธที่จะถึงนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25% ถึง 4.5% เหมือนเดิม แม้ว่าประธานาธิบดี Donald Trump จะพยายามกดดันให้ลดดอกเบี้ยอยู่ตลอดก็ตาม
การที่ Fed ยังคงนโยบายการเงินที่เป็นกลางแบบนี้ อาจจะช่วยหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์มักจะส่งผลกดดันราคาทองคำโดยตรง อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังแอบหวังลึกๆ จากข้อมูลของ CME FedWatch tool ที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสถึง 62% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนกันยายน ดังนั้น หากในการแถลงข่าวหลังการประชุม มีสัญญาณอะไรที่บ่งชี้ว่า Fed อาจจะยอมลดดอกเบี้ยในอนาคต ก็อาจจะเป็นแรงส่งให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาได้ เพราะทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในตัวเอง จะน่าดึงดูดมากขึ้นทันทีเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง
ส่องแนวรับ-แนวต้านสำคัญ! นักวิเคราะห์มองอย่างไร? ถึงเวลาช้อนซื้อหรือยัง?
การที่ราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน $3,400 ไปได้ถึง 4 ครั้ง ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวล Alex Kuptsikevich ซึ่งเป็น Chief Market Analyst จาก FxPro ชี้ว่าความเสี่ยงทางเทคนิคกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ราคาทองคำกำลังซื้อขายอยู่ใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ซึ่งเป็นแนวรับที่สำคัญมาก หากในสัปดาห์นี้ราคาหลุดเส้นนี้ลงไปอย่างรุนแรง จะเป็นสัญญาณสำคัญว่าตลาดกำลังเปลี่ยนจากช่วงพักฐานไปสู่ช่วงของการปรับฐานราคา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น มีโอกาสที่เราจะได้เห็นราคาทองคำร่วงลงไปอย่างรวดเร็วสู่ระดับ $3,150 หรืออาจจะลึกถึง $3,050 เลยทีเดียว
แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์อีกฝั่งอย่าง Aakash Doshi จาก State Street Global Advisors กลับมองว่าการปรับตัวลงของราคาในลักษณะนี้ ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เขาให้เหตุผลว่าทองคำยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งรองรับในฐานะสินทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญ แม้ตลาดหุ้นจะอยู่ในโหมด Risk-on แต่ราคาทองคำก็ยังยืนอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อเดือนเมษายนไม่ถึง 5% เท่านั้น เขามองว่ามีเหตุผลเชิงโครงสร้างที่ทำให้การย่อตัวลงของราคาเป็นโอกาสในการซื้อ และยังคาดการณ์ในแง่ดีว่าราคาทองคำจะกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งภายในเดือนสิงหาคม
สรุปสั้นๆ และสิ่งที่ต้องจับตา สัปดาห์นี้มีเรื่อง
โดยสรุปแล้ว สถานการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงดูน่าเป็นห่วงและอยู่ภายใต้แรงกดดันจากบรรยากาศการลงทุนที่เปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และท่าทีของ Fed ที่ยังไม่ยอมลดดอกเบี้ย แต่ในระยะยาวแล้ว ภาพยังไม่ถึงกับมืดมนไปซะทีเดียว เพราะความเสี่ยงเรื่องภาวะ Stagflation หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง ยังคงเป็นปัจจัยบวกที่ซ่อนอยู่สำหรับทองคำ
สัปดาห์นี้จึงเป็นสัปดาห์ที่สำคัญอย่างยิ่ง นักลงทุนต้องจับตาดูผลการประชุม Fed ในวันพุธให้ดี รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมา ทั้งตัวเลข GDP, ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE และที่สำคัญที่สุดคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาทองคำในระยะต่อไป ว่าจะสามารถยืนหยัดสู้ต่อ หรือจะต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่กันแน่ เป็นช่วงเวลาที่ต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดจริงๆ
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
กลับมาอัปเดตสถานการณ์และวิเคราะห์กราฟราคาทองคำกันต่อ จากบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ที่เรามองว่าภาพรวมยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน และราคามีโอกาสปรับตัวลงต่อ วันนี้ภาพจากกราฟล่าสุดได้ยืนยันมุมมองนั้นอย่างชัดเจนและรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
สิ่งที่เราเห็นในแท่งเทียน 4 ชั่วโมงคือสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนอย่างยิ่ง แรงขายได้ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง จนสามารถกดดันให้ราคาทะลุแนวรับสำคัญที่เป็นหัวใจของแนวโน้มขาขึ้นในรอบก่อน หรือก็คือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว (เส้นสีส้ม) ที่บริเวณ $3,338 ลงมาได้อย่างเด็ดขาด การหลุดแนวรับสำคัญนี้ถือเป็นสัญญาณยืนยันว่าโมเมนตัมของตลาดได้เปลี่ยนเป็นฝั่งขาลงอย่างเต็มตัวแล้วในไทม์เฟรมนี้ โดยล่าสุดราคากำลังเคลื่อนไหวใกล้กับแนวรับถัดไปที่ $3,325
เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดทางเทคนิค จะเห็นว่าภาพทั้งหมดสนับสนุนฝั่งหมีอย่างเต็มกำลัง อินดิเคเตอร์ต่างๆ ก็ส่งสัญญาณไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด RSI ได้หักหัวดิ่งลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงโมเมนตัมฝั่งขายที่แข็งแกร่งและยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง แต่ที่สำคัญคือ Stoch RSI ได้แช่อยู่ในโซน Oversold นานแล้ว ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นได้ในเร็วๆ นี้เช่นกัน
ดังนั้น สำหรับแผนการเทรดและมุมมองใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แนวรับสำคัญที่เคยเป็นปราการด่านสุดท้ายอย่างเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวบริเวณ $3,338-3,350 ได้สลับบทบาทกลายเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งที่สุดในทันที การที่ราคาจะดีดตัวกลับขึ้นไปยืนเหนือบริเวณนี้ได้ในระยะสั้นดูจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และตราบใดที่ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยสีส้มนี้ ทิศทางหลักยังคงเป็นการมองลงต่อไป
ซึ่งด่านแรกที่ราคาจะลงไปทดสอบก็คือแนวรับที่ $3,310 และหากแรงขายยังคงรุนแรงต่อเนื่องไม่หยุด ก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นราคาดิ่งลงไปหาเป้าหมายถัดไปที่แนวรับ $3,293 ซึ่งเป็นแนวรับตามหลัก Fibo Retracement ที่ 38.2%
โดยสรุปภาพรวมล่าสุดในขณะนี้คือ สัญญาณเทคนิคได้ยืนยันการเข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างชัดเจนแล้วหลังหลุดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวลงมาได้สำเร็จ โมเมนตัมฝั่งขายกำลังควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ และยังมีพื้นที่ให้ราคาปรับตัวลงต่อได้อีก การเทรดในช่วงนี้จึงต้องใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุด การเข้าซื้อสวนเทรนด์มีความเสี่ยงสูงมาก ในทางกลับกัน การรีบาวด์หรือดีดตัวขึ้นไประยะสั้นเพื่อทดสอบแนวต้านที่เพิ่งหลุดลงมาอย่าง $3,338 อาจกลายเป็นโอกาสในการหาจังหวะขายตามแนวโน้มหลัก โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ $3,310 และ $3,293 เป็นสำคัญ
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,325
$3,310
$3,293
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,338
$3,350
$3,372
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน