วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 ธันวาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
เช้าวันนี้ ราคาทองคำ XAUUSD ดีดตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 4,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้สำเร็จในช่วงตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นการตอบรับข่าวใหญ่ที่นักลงทุนทั่วโลกเฝ้ารอ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% (25 basis points) ตามคาด ส่งผลให้ดอกเบี้ยลงมาอยู่ในกรอบ 3.50% ถึง 3.75% ซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าตัวเลขการลดดอกเบี้ยคือสัญญาณที่ Jerome Powell ส่งออกมาในงานแถลงข่าว เพราะมันไม่ใช่สัญญาณของการผ่อนคลายแบบสุดโต่งอย่างที่นักเก็งกำไรบางส่วนวาดฝันไว้
Powell ระบุชัดเจนว่านโยบายการเงินในปัจจุบันได้เข้าสู่จุดที่เป็นกลาง (Neutral Rate) แล้ว และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจำเป็นต้องดูข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
คำพูดนี้เปรียบเสมือนการเหยียบเบรกเบาๆ เพื่อเตือนตลาดว่าอย่าเพิ่งฮึกเหิมจนเกินไป โดยข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ตลาดให้โอกาสสูงถึง 78% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีโอกาสเพียง 70% ก่อนการประกาศผลประชุม
ความน่าสนใจในเชิงลึกของมตินี้อยู่ที่ความไม่เป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ได้เห็นบ่อยนักในสถานการณ์ปกติ
การที่มีกรรมการเสียงแตกถึง 3 จาก 12 คน โดยมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งฝ่ายที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยแรงกว่านี้ และฝ่ายที่ต้องการให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในจุดที่ประเมินได้ยากลำบาก
ความเห็นต่างนี้คือความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ เพราะหากข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนหน้าออกมาพลิกโผ ทิศทางของนโยบายอาจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
Naeem Aslam จาก Zaye Capital Markets ได้ให้มุมมองว่า การดีดตัวของราคาที่เราเห็นอาจเป็นเพียงอาการตื่นเต้นชั่วคราว หรือ Sugar Rush เพราะข่าวดีได้ถูกรับรู้ไปหมดแล้วในราคานี้
สิ่งที่นักลงทุนต้องระวังคือการที่ Fed เริ่มส่งสัญญาณชะลอการผ่อนคลาย ซึ่งอาจกลายเป็นแรงต้านสำคัญที่กดดันไม่ให้ราคาทองคำพุ่งทะยานได้ง่ายๆ ในระยะสั้น
เดิมพันสันติภาพของ Trump กับเส้นตายวันคริสต์มาสที่อาจทุบราคาทอง
นอกจากปัจจัยด้านนโยบายการเงินแล้ว อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของราคาทองคำในช่วงท้ายปีนี้คือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ล่าสุดมีรายงานว่า Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นคำขาดให้กับ Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดียูเครน ว่าจะต้องตอบรับข้อตกลงยุติสงครามภายในวันคริสต์มาสนี้ ซึ่งทางฝั่ง Zelensky เองก็ส่งสัญญาณตอบรับด้วยการเตรียมนำเสนอแผนสันติภาพฉบับปรับปรุงใหม่ในเร็วๆ นี้
สถานการณ์นี้ถือเป็นดาบสองคมสำหรับนักลงทุนทองคำ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ทองคำพุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ได้นั้น มาจากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
หากการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นได้จริงตามกรอบเวลาที่ Trump กำหนดไว้ แรงบวกจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจะหายไปในทันที หรือที่เรียกว่าการหายไปของ War Premium ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ในระยะสั้นได้
อย่างไรก็ตาม นี่คือเกมจิตวิทยาการลงทุนที่ซับซ้อน นักเก็งกำไรจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงที่สงครามจะสงบลง กับพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง หากข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้นจริง ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานรุนแรง
แต่ในมุมกลับกัน หากเป็นเพียงเกมการเมืองที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้จริง ความไม่แน่นอนนี้ก็จะยิ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
นักลงทุนจึงควรจับตาดูข่าวสารจากทำเนียบขาวและกรุงเคียฟอย่างใกล้ชิดในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ เพราะมันอาจมีอิทธิพลต่อพอร์ตการลงทุนมากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจเสียอีก
มุมมองสวนกระแสจาก Bank of America เป้าหมาย 5,000 ดอลลาร์ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน
ท่ามกลางความผันผวนและความเสี่ยงระยะสั้น Bank of America (BofA) กลับออกมาให้มุมมองที่สวนกระแสและน่าสนใจอย่างยิ่ง
โดย Michael Widmer หัวหน้าฝ่ายวิจัยโลหะมีค่าของ BofA มองว่าแม้ราคาทองคำจะดูเหมือนอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ในทางเทคนิค แต่ในเชิงโครงสร้างการลงทุนแล้ว ทองคำกลับอยู่ในภาวะที่ยังมีการลงทุนน้อยเกินไป (Underinvested) อย่างมหาศาล
นี่คือจุดที่ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองข้าม Widmer ชี้ให้เห็นว่า หากเราดูไส้ในของพอร์ตการลงทุนทั่วโลก จะพบว่ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) ถือครองทองคำเพียงแค่ 0.5% ของสินทรัพย์ทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับศักยภาพในการกระจายความเสี่ยง
BofA ได้ตั้งเป้าหมายราคาทองคำไว้สูงถึง 5,000 ดอลลาร์ในปี 2026 โดยให้เหตุผลว่า เพียงแค่มีความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 14% ราคาก็จะสามารถไปถึงเป้าหมายนั้นได้ไม่ยาก และหากกระแสการตื่นตัวรุนแรงขึ้นจนความต้องการลงทุนเพิ่มขึ้น 55% เราอาจได้เห็นราคาทองคำไปไกลถึง 8,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ราคาทองคำสามารถดีดตัวจากโซน Fibonacci 61.8% ซึ่งถือเป็นการ Breakout ทะลุแนวต้านแรกที่ประเมินไว้บริเวณ 4,230 ดอลลาร์ขึ้นมาได้อย่างสวยงาม
โดยแท่งเทียนล่าสุดที่กำลังก่อตัวอยู่นี้มีลักษณะเป็น Bullish Candle ที่เต็มไปด้วยแรงซื้อ แสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังคงมีความแข็งแกร่งมาก
การที่ราคาสามารถยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย EMA และทะลุแนวต้านย่อยสีแดงบริเวณ 4,235 ดอลลาร์ขึ้นมาได้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ยืนยันว่าตลาดกระทิงกำลังกลับมาควบคุมสถานการณ์ และพยายามจะผลักดันราคาให้ไปทดสอบแนวต้านสำคัญถัดไปที่รออยู่ด้านบน
โมเมนตัมขาขึ้นรอบนี้ได้รับการสนับสนุนจากค่า RSI ที่ไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ 60จุด ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดยังมีพื้นที่ให้ราคาขยับขึ้นได้อีกพอสมควรก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะ Overbought
ในขณะเดียวกัน Stochastic RSI ที่เคยส่งสัญญาณซื้อจากโซนล่าง ปัจจุบันเส้นสีน้ำเงินได้ตัดขึ้นและพุ่งสูงขึ้นเข้าสู่โซนบนอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับการกระชากตัวของราคา สิ่งนี้สะท้อนว่าในระยะสั้นอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ราคาทองคำยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีด่านทดสอบถัดไปที่สำคัญคือแนวต้านเส้นสีแดงด้านบนบริเวณ 4,256 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านจุดนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ 4,276 ดอลลาร์ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ด้วยพฤติกรรมของราคาที่พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นักลงทุนควรระมัดระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้โซนแนวต้าน
โดยกลยุทธ์สำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ หากราคาสามารถปิดแท่ง 4 ชั่วโมงยืนเหนือ 4,235 ดอลลาร์ได้มั่นคง แนวโน้มจะยังคงเป็นขาขึ้นที่สดใส
แต่หากมีการย่อตัวลงมา บริเวณ 4,225 - 4,230 ดอลลาร์ ซึ่งเคยเป็นแนวต้านเก่า จะกลับกลายเป็นแนวรับใหม่ (Resistance Turned Support) ที่ทำหน้าที่รองรับราคา
การย่อตัวลงมาทดสอบโซนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมเพิ่มสำหรับผู้ที่ตกรถ โดยตราบใดที่ราคายังเลี้ยงตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยและไม่หลุดต่ำกว่า 4,212 ดอลลาร์ ภาพรวมทางเทคนิคยังคงให้น้ำหนักทางฝั่งซื้อ (Buy) ได้เปรียบกว่าอย่างชัดเจน

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,212
$4,195
$4,174
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,230
$4,256
$4,276
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


