วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 30 ตุลาคม 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
ตลาดทองคำเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงแรก ขานรับการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่กลับร่วงลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา หลังจากการแถลงข่าวของประธาน Fed ที่ส่งสัญญาณขัดแย้งกับความคาดหวังของตลาด
ความเคลื่อนไหวที่เหมือนรถไฟเหาะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสับสนและความไม่แน่นอนอย่างสูงที่นักลงทุนกำลังเผชิญ โดยราคาทองคำ XAUUSD พุ่งขึ้นไปแตะที่ 4,030 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถูกแรงเทขายกดดันลงมาอยู่ที่บริเวณ 3,952 ดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้
Fed ลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ซ่อนนัยยะเสียงแตก
คณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) ได้มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สู่ระดับ 3.75% ถึง 4.00% ซึ่งนับเป็นการปรับลดครั้งที่สองติดต่อกัน การตัดสินใจนี้มีขึ้นท่ามกลางสัญญาณการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ “ปานกลาง” และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคง “อยู่ในระดับสูง”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ซ่อนอยู่ในแถลงการณ์ คือการที่ Fed เริ่มแสดงความกังวลต่อตลาดแรงงานมากขึ้น โดยระบุว่า “ความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานได้เพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา”
การปรับเปลี่ยนถ้อยคำเล็กน้อยนี้ ถือเป็นสัญญาณในเชิง “พิราบ” (Dovish) ที่ชัดเจน ซึ่งสนับสนุนการฟื้นตัวของราคาทองคำในช่วงแรก เนื่องจากตลาดตีความว่า Fed อาจจำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปเพื่อพยุงการจ้างงาน
แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ “เสียงที่แตกแยก” ภายในคณะกรรมการอย่างชัดเจน การลงมติครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ โดยมีกรรมการถึงสองคนที่เห็นต่าง
Stephen Miran หนึ่งในผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดี Donald Trump ต้องการให้ลดดอกเบี้ยแรงถึง 0.50% ในขณะที่ Jeffrey Schmid ประธาน Fed สาขาแคนซัสซิตี กลับต้องการให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ การเห็นต่างกันสุดขั้วทั้งสองทางนี้ สะท้อนถึงความไม่แน่นอนอย่างสูงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่แม้แต่ผู้กำหนดนโยบายเองก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน
คำแถลงที่ทำตลาดทองคำผันผวน
แม้ว่าแถลงการณ์จะดูผ่อนคลาย แต่บรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อ Jerome Powell ประธาน Fed เริ่มการแถลงข่าว เปรียบเสมือนดับคววามคาดหวังของตลาดที่คาดการณ์เกือบ 90% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม
Powell ใช้ภาษาที่หนักแน่นอย่างไม่ค่อยปรากฏบ่อยนัก โดยกล่าวว่า “ในการประชุมครั้งนี้ มีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางที่จะดำเนินการในเดือนธันวาคม การลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธันวาคมนั้นไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่นอน มันยังห่างไกลจากจุดนั้นมาก”
เขายังได้เปรียบเปรยสถานการณ์ปัจจุบันว่าเหมือน “การขับรถในม่านหมอก” (driving in the fog) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวถูกระงับไปจากการปิดตัวของหน่วยงานรัฐบาล ทำให้ Fed ขาดข้อมูลที่ชัดเจนในการตัดสินใจ เขาจึงส่งสัญญาณว่าการชะลอความเร็วในการผ่อนคลายลงอาจเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล
คำพูดของ Powell ทำหน้าที่เหมือนเบรกที่หยุดแรงส่งของราคาทองคำในทันที ตลาดตีความว่านี่คือสัญญาณ “เหยี่ยว” (Hawkish) ที่ชัดเจน ความน่าจะเป็นที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมผ่านเครื่องมือ CME FedWatch Tool ลดฮวบลงจากเกือบ 90% เหลือเพียง 60% ซึ่งส่งผลลบโดยตรงต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
สิ้นสุด QT และภาพรวมเศรษฐกิจ ปัจจัยหนุนทองคำยังมีอยู่หรือไม่?
ท่ามกลางความสับสนจากคำพูดของ Powell ตลาดต้องไม่ลืมว่า Fed ได้ประกาศยุติการทำ Quantitative Tightening (QT) หรือการลดขนาดงบดุลอย่างเป็นทางการ โดยจะยุติการปล่อยให้สินทรัพย์หมดอายุไปหลังจากเดือนพฤศจิกายน และจะนำเงินต้นจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ครบกำหนดไปลงทุนต่อในตั๋วเงินคลังระยะสั้นแทน
การยุติ QT นี้ ถือเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องทางอ้อมเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงและทองคำ
ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่พอจะเล็ดลอดออกมาได้ก็ไม่ได้สดใสนัก โดยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ในเดือนกันยายนออกมา “ไม่เปลี่ยนแปลง” สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6% และยังคงลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเปราะบาง แม้ว่าราคาทองคำจะไม่ได้ตอบสนองต่อข่าวนี้นัก แต่ก็ตอกย้ำภาพความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ Powell เองก็ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อที่ Fed นิยมวัดยังคง “ค่อนข้างสูง” อยู่ที่ประมาณ 2.8% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2% อยู่มาก การที่เงินเฟ้อยังสูง ในขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวและตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอ ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
บทสรุปและมุมมองนักวิเคราะห์ ราคาทองคำจะไปทางไหนต่อ
สถานการณ์ราคาทองคำในขณะนี้ ตกอยู่ในภาวะชักเย่อที่รุนแรงระหว่างปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุน (เงินเฟ้อสูง, เศรษฐกิจชะลอ, การยุติ QT) กับคำพูดที่แข็งกร้าวของ Jerome Powell ที่พยายามดับความคาดหวังของตลาด
มุมมองของนักวิเคราะห์ก็แตกออกเป็นสองทางเช่นกัน Michael Brown จาก Pepperstone ยังคงเชื่อว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยมองว่า Fed กำลังใช้แนวทางที่ยอมให้เศรษฐกิจร้อนแรงบ้างเพื่อสนับสนุนตลาด
ในขณะที่ Dan North จาก Allianz กล่าวว่า Powell ได้ทุ่มความคาดหวังของตลาดลงพื้นเ และ Rick Rieder จาก BlackRock ก็มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะ “ข้าม” การลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมไป
สำหรับนักลงทุนและนักเทรดราคาทองคำ นี่คือช่วงเวลาที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด ทิศทางระยะสั้นจะยังคงผันผวนอย่างหนักตามกระแสข่าวและความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน แนวต้านสำคัญที่ 4,000 ดอลลาร์ ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นกำแพงจิตวิทยาที่แข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มพื้นฐานในระยะยาวยังคงดูเป็นบวก
ตราบใดที่เงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมายและเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัว นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจริงที่จะทยอยประกาศออกมา (เมื่อการปิดหน่วยงานรัฐสิ้นสุดลง) อย่างใกล้ชิด เพราะนั่นจะเป็นตัวตัดสินที่แท้จริงว่า Fed จะ “ชะลอ” ตามที่พูด หรือจะถูก “บังคับ” ให้ลดดอกเบี้ยต่อตามแรงกดดันของเศรษฐกิจ
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
สัญญาณการดีดตัวทางเทคนิค (Technical Rebound) ที่เราคาดการณ์ไว้ได้เกิดขึ้นจริง โดยราคาทองคำสามารถยืนหยัดเหนือแนวรับสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 (เส้นสีส้ม) และแนวรับ Fibonacci 38.2% ได้สำเร็จ และดีดตัวกลับขึ้นไปตามคาด
อย่างไรก็ตาม แรงดีดตัวดังกล่าวกลับมีจำกัดและไปชนแนวต้านจิตวิทยาที่ 4,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะถูกแรงเทขายกดดันให้ย่อตัวกลับลงมาอย่างรวดเร็ว
ณ ปัจจุบันที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,950 ดอลลาร์ และเราเริ่มเห็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนขึ้นในกราฟ 4 ชั่วโมง ประเด็นสำคัญที่สุดคืออินดิเคเตอร์ Stochastic RSI ซึ่งหลังจากที่สร้างสัญญาณ Bullish Crossover จากเขต Oversold และผลักดันราคาขึ้นมาได้สำเร็จ
ตอนนี้ สถานการณ์ได้กลับตรงกันข้าม โดย Stochastic RSI ได้พุ่งขึ้นไปจนถึงเขต Overbought และมีสัญญาณ Bearish Crossover ในเขตดังกล่าวอย่างชัดเจน นี่คือสัญญาณทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่าโมเมนตัมการดีดตัวระยะสั้นได้หมดแรงแล้ว และตลาดพร้อมที่จะปรับฐานหรือย่อตัวลงอีกครั้ง
สัญญาณนี้สอดคล้องกับดัชนี RSI ที่ไม่สามารถทะลุผ่านเส้น 50 ได้ และกำลังหักหัวลง ยืนยันว่าแรงซื้อในรอบนี้อ่อนแอกว่าที่ควรจะเป็น
ดังนั้น ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพทางเทคนิคได้เปลี่ยนความเสี่ยงกลับมาเป็นขาลงในระยะสั้น เราคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงเพื่อกลับไปทดสอบแนวรับสุดแกร่งที่เพิ่งดีดตัวขึ้นมา นั่นคือโซน EMA 200 และแนวรับ 3,903 ดอลลาร์อีกครั้ง
การทดสอบครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอย่างยิ่ง หากแนวรับนี้ยังคงเอาอยู่ ราคาก็ยังมีโอกาสตั้งฐานใหม่ แต่หากการย่อตัวครั้งนี้รุนแรงจนหลุดแนวรับ 3,900-3,903 ดอลลาร์ลงไป สัญญาณขายจะรุนแรงมาก และเป็นการยืนยันว่าการดีดตัวได้จบลงแล้วอย่างสมบูรณ์ และเป้าหมายถัดไปของขาลงจะเปิดกว้างทันทีสู่แนวรับ Fibonacci 50.0% ที่บริเวณ 3,747 ดอลลาร์ ตามที่ได้ประเมินไว้ในแผนบริหารความเสี่ยงเดิม

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,950
$3,903
$3,823
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$4,000
$4,057
$4,135
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


