ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร เงินเฟ้อแตกต่างจากเงินฝืดอย่างไร

บทความนี้จะพานักลงทุนเจาะลึกถึง“ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation)” สาเหตุของการเกิดขึ้น เราควรตั้งรับมือยังไงกับเหตุการณ์นี้ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินการลงทุนได้อย่างเหมาะสมโดยที่เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อเงินลงทุนน้อยที่สุด ในบทความนี้มีคำตอบให้นักลงทุน
ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คืออะไร?
ภาวะเศรษฐกิจที่ระดับราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือถ้าดูจากค่าของเงิน เงินเฟ้อ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ค่าเงินมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจะซื้อของชิ้นเดิมนั้นต้องใช้เงินมากกว่าเดิม แปลง่าย ๆ ก็คือเงินเฟ้อทำให้ของแพงขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างภาวะเงินเฟ้อ
เมื่อก่อนนาย A มีเงิน 50 บาท สามารถซื้อข้าวได้หลายจานเลย แต่ตอนนี้ราคาข้าวก็ขยับปรับเปลี่ยนขึ้นเรื่อย ๆ เลย กลายเป็น 50 บาท ซื้อข้าวได้แค่จานเดียว ลองคิดดูในอีก หลายสิบปีข้างหน้า ราคาจะต้องขยับเพิ่มขึ้นไปเป็นข้าวจานละ 100 บาทแน่นอนเลย
นอกจากภาวะเงินเฟ้อจะเป็นดัชนีชี้วัดในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ ยังเป็นปัจจัยสำคัญของนักลงทุนอีกด้วย เพื่อใช้ตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น สังเกตได้จาก เมื่อประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับขึ้นหรือปรับลง จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
-ใครได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ
คนที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อคือ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว พ่อค้า หรือผู้ที่มีรายได้เป็นตัวเงินที่เปลี่ยนแปลงง่าย เนื่องจากสามารถขึ้นราคาสินค้าที่ขายได้ แตกต่างจากพนักงานกินเงินเดือนที่ต่อให้เงินเดือนเพิ่มก็จะเพิ่มในอัตราที่น้อยกว่าเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นมากหลังเศรษฐกิจโลกทยอยฟื้นตัว แต่สินค้าและบริการผลิตมาได้ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้จ่ายที่อัดอั้นมานาน (revenge spending) จากช่วงล็อกดาวน์ โดยเฉพาะคนที่มีเงินออมสะสมไว้เยอะในช่วงโควิด
ต้นทุนการผลิตแพงขึ้นจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่สูงขึ้นมาก เช่น ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ ถ่านหิน เหล็ก ทองแดง เพราะการผลิตหยุดชะงักหรือชะลอลงไปในช่วงโควิดระบาดรุนแรง ฟากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเจ้าใหญ่ในโลกก็รวมตัวกันจำกัดปริมาณการผลิตไว้ ราคาน้ำมันดิบจึงเปลี่ยนจาก record low ในช่วงปี 2020 ที่ล็อกดาวน์เข้มมาทำ record high หลังประเทศต่าง ๆ ทยอยเปิดเมือง
ต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้นยังมาจากปัญหาข้อจำกัดด้านอุปทาน (supply chain disruption) โดยเฉพาะการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งสินค้า และการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ความต้องการเยอะขึ้นมากในช่วง work from home
เมื่อหันมามองสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน สัญญาณหลายอย่างกำลังส่อว่าเรากำลังจะเข้าสู่ภาวะ Stagflation ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ ระบบการจ้างงานที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่กลับมาสู่สภาวะปกติสักเท่าไหร่
ลองคิดตามดูนะ หากประเทศไทยเราเกิดเข้าสู่ภาวะ Stagflation โดยที่อำนาจเงินในมือของเราน้อยลง ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลง ผู้ประกอบการขายสินค้าไม่ได้ จะทำให้เกิดการลดราคาลง ซึ่งนำไปสู่กำไรที่ลดน้อยลง ทำให้ไม่เกิดการขยายกิจการ สู่การปลดพนักงานออกทำให้เกิดอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น จนในที่สุดต้องปิดกิจการลง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวส่งผลให้อัตราการขยายตัวของ GDP ต่ำลง จึงเป็นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก
ในปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะ Stagflation หรือเรียกว่าภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะดี ยังไงก็ต้องรอติดตามข่าวสารเศรษฐกิจกันต่อไป
สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อมีอะไรบ้างนะ?
โดยทั่วไปแล้ว ก็จะเกิดจาก 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่
1. ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น (Demand Pull Inflation) แต่สินค้าและบริการนั้นกลับมีในตลาดไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ขายมีการปรับราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น
2. ผู้ผลิตต้องแบกรับต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น (Cost Push Inflation) หากผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จึงทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นตามไปด้วย
3. เกิดจากการที่รัฐบาลพิมพ์เงินเพิ่มจำนวนมาก (Printing Money Inflation) ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณเงินในระบบ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง
แต่ภาวะเงินเฟ้อที่เกิดทั่วโลกต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ เป็นผลมาจาก 3 สาเหตุด้วยกัน
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากต้องมีการหมุนเวียนกำลังแรงงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากหลายประเทศมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รัสเซียในฐานะที่เป็นผู้ผลิต และส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกจึงตอบโต้ด้วยการลดอุปทานของน้ำมัน ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เลยทำให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
ผลกระทบจากนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ก่อนหน้านี้มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ไวที่สุด
เงินเฟ้อ | |
สาเหตุ | ภาวะเศรษฐกิจที่ระดับราคาสินค้า และบริการเพิ่มสูงขึ้น |
เกิดจากปัจจัยอะไร | ความต้องการของสินค้ามากขึ้น และต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น |
เกิดผลกระทบ | · เงินมูลค่าลดลง · ค่าครองชีพสูงขึ้น |
รัฐฯ แก้ไข | · ประกาศเพิ่มดอกเบี้ยเพื่อดูดเงินที่มีเยอะเกินกลับเข้าคลัง · ควบคุมราคาสินค้าที่ขาดตลาด |
กลุ่มบุคคลผู้ได้เปรียบ | พ่อค้า, ผู้ถือหุ้น, นายธนาคาร, ลูกหนี้ |
กลุ่มบุคคลผู้เสียเปรียบ | ผู้มีรายได้ประจำ, เจ้าหนี้ |
หากย้อนดูเงินเฟ้อทั่วไปของไทย พบว่า ในปี 2517 เงินเฟ้อทั่วไปของไทยทะลุไปถึง 24.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้น จากเหตุการณ์สงครามอิสราเอล กับกลุ่มประเทศอาหรับ
ปีที่เงินเฟ้อที่สูงรองลงมาคือปี 2523 เพราะสงครามอิรักกับอิหร่าน จากนั้นอัตราเงินเฟ้อลดลงเรื่อยๆ จนในปี 2541 หลังวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2540 ที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างหนักได้ดันเงินเฟ้อทั่วไปของไทยไปสูงถึง 7.89 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นมีการคุมเงินเฟ้อให้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์มาได้ จนปี 2551 ทะลุไป 5.51 เปอร์เซ็นต์ และกลับมาคุมได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์มาตลอดอีกหลายปี จนล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2565 ทะลุไปถึง 7.10 เปอร์เซ็นต์ในที่สุด เพราะสงครามรัสเซียถล่มยูเครนเป็นสาเหตุหลักในขณะนี้
ตัวอย่างบริษัทสามารถทำกำไรได้มหาศาลภายใต้ภาวะเงินเฟ้อ เพราะราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ในส่วนกิจการน้ำมันและก๊าซของไทยอย่างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในครึ่งปีแรกนี้ ปตท. และบริษัทในกลุ่มทั้งในและต่างประเทศ มีรายได้ 1,685,419 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 64,419 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12.7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยกำไรสุทธิจำนวน 64,419 ล้านบาทนี้ มาจากผลการดำเนินงานของ ปตท. คิดเป็น 24% ส่วนที่เหลือมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องราวที่ดีในการสวนกระแสทำกำไรจากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น
ข้อดีข้อเสียของภาวะเงินเฟ้อ
ข้อดีของภาวะเงินเฟ้อ
- การส่งผลดีต่อเจ้าของธุรกิจ เพราะว่าเจ้าของธุรกิจสามารถขายสินค้าและบริการได้ในราคาที่สูงขึ้น จึงมีอัตราการขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีอัตราการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น หมายความว่า ภาวะเงินเฟ้ออัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนมีงานทำมากขึ้น มีเงินรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการหมุนเวียนของเงินในระบบเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง
- ลดอัตราการว่างงาน สภาวะเงินเฟ้อแบบนี้จะทำให้เศรษฐกิจเติบโต มีความต้องการลงทุนมากขึ้น จึงมีการจ้างงานมากขึ้นเพื่อที่จะผลิตสินค้าและบริการให้เพียงพอต่อความต้องการของการตลาด เพราะผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
ข้อเสียของภาวะเงินเฟ้อ
- การที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือพุ่งสูงขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น และส่งผลให้ผู้ซื้อทำการซื้อสินค้าได้น้อยลง แบบนี้ก็จะทำให้ผู้ผลิตสามารถขายสินค้าได้น้อยลง จึงมีรายได้ลดลง ทำให้อัตราการผลิตลดลง แบบนี้ย่อมส่งผลให้มีการลดจำนวนพนักงานหรือมีการเลิกจ้างงานเพิ่มขึ้นนั่นเอง ซึ่งภาวะ Hyper Inflation จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ภาวะเงินฝืด”
- อำนาจการซื้อของเงินจะลดต่ำลง เพราะเงินเฟ้อนั้นส่งผลให้มูลค่าของเงินลดลง ดังนั้น หากคนใดที่เก็บเงินไว้แล้วไม่นำไปลงทุนให้เกิดมูลค่าเพิ่มก็จะทำให้เงินนั้นมีมูลค่าน้อยลงนั่นเองซึ่งจะทำให้ระบบกิจการขาดเสถียรภาพ
มาตรการหลักของเครื่องชี้เงินเฟ้อและรายการสถิติที่เกี่ยวข้อง
อัตราเงินเฟ้อวัดได้อย่างไร ?
ทุกเดือน กระทรวงพาณิชย์จะเก็บข้อมูลราคาสินค้าและบริการจำนวน 430 รายการ มาคำนวณเป็นดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index: CPI) การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบกับปีก่อน คืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ ธปท. ใช้เป็นเป้าหมาย
ที่มา:สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.)
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคม 2566 เท่ากับ 108.18 (ปีฐาน2562 = 100)
เมื่อเทียบกับ | การเปลี่ยนแปลง | ร้อยละ |
1. เดือนมกราคม 2565 (YoY) | สูงขึ้น | 5.02 |
2. เดือนธันวาคม 2565 (MoM) | สูงขึ้น | 0.30 |
ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนมกราคม 2566 เท่ากับ 108.18 เมื่อเทียบกับ เดือนเดียวกันของปีก่อนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 5.02 (YoY) เป็นการเพิ่มขึ้นใน อัตราที่ชะลอตัวลง (ธันวาคม 2565 สูงขึ้นร้อยละ 5.89) โดยมีสาเหตุส้าคัญจากการ สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวของสินค้าในกลุ่มต่าง ๆ
แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อขยายตัวยังคงเป็นราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ทั้งน้้ามันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และ ก๊าซหุงต้ม ที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเงินเฟ้อ และราคาสินค้าในกลุ่มอาหารที่ปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ระหว่างร้อยละ 2.0–3.0 ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์ เศรษฐกิจของไทย และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยส้าคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง
แล้วภาวะเงินเฟ้อลดลง? แตกต่างกับ เงินฝืดยังไง?
เงินฝืดนั้นถือว่าตรงกันข้ามกับภาวะเงินเฟ้อ ภาวะเงินฝืดเกิดขึ้นเมื่อระดับราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ความต้องการซื้อสินค้าและบริการลดลง หรือปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ มีไม่เพียงพอกับความต้องการ อาจทำให้ราคาสินค้าปรับลดลง ผู้ผลิตก็อาจไม่ต้องการผลิตสินค้าและบริการในปริมาณเท่าเดิม ทำให้ลดกำลังการผลิตลง และส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซาหรือปิดตัวลงในที่สุด
เงินเฟ้อ | เงินฝืด |
ภาวะเศรษฐกิจที่ระดับราคาสินค้า และบริการเพิ่มสูงขึ้น | ภาวะเศรษฐกิจที่ระดับราคาสินค้า และบริการลดลง |
จะเห็นได้ว่า ทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืด เกิดจากการเคลื่อนไหวขึ้นลงของเศรษฐกิจตามวัฏจักร แต่หากมีความรุนแรงและยืดเยื้อ ก็ล้วนส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความกินดีอยู่ดีของประชาชนด้วยกันทั้งหมด
เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตได้อย่างไร?
ผลกระทบเงินเฟ้อต่อประชาชนทั่วไป
รายจ่ายหรือภาระค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ประชาชนมีอานาจซื้อน้อยลง มีความสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง อาจทำให้รายได้ที่มีหรือเงินที่หามาได้ไม่เพียงพอกับการใช้จ่าย
ผลกระทบเงินเฟ้อต่อผู้ประกอบการ
เมื่อสินค้ามีราคาแพงขึ้น ยอดขายก็จะลดลง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้น ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจบางรายอาจต้องชะลอการผลิต ลดการลงทุนและการจ้างงาน ทำให้คนตกงานมากขึ้น
ผลกระทบเงินเฟ้อต่อประเทศ
ประชาชนซื้อของน้อยลง ธุรกิจไม่สามารถขายของได้การลงทุนเพื่อผลิตสินค้าจะล่าช้าออกไป ทำให้การพัฒนาศักยภาพการผลิตของประเทศในระยะยาวอาจชะลอลงตามไปด้วย ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงจนทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบนานๆ ประชาชนก็จะหันไปเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง สะสมปัญหาฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่างๆ และความไม่สมดุลในภาคการเงินของประเทศได้ เช่น หนี้ครัวเรือน
ผลกระทบเงินเฟ้อต่อการดำรงชีพ
เงินเฟ้อส่งผลทำให้สินค้าต่าง ๆ อย่างเช่น เนื้อสัตว์ น้ำมัน ผัก ที่เราต้องซื้อในทุกวันแพงขึ้นไปอีก จากในตารางจะเห็นว่าภาวะเงินเฟ้อทำให้ราคาของสินค้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากในแต่ละปี ซึ่งก็เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่เราต้องแบกรับขึ้นมากเรื่อย ๆ
รายการ | ปี 2564/ราคาเฉลี่ย | ปี 2565/ราคาเฉลี่ย | เพิ่มขึ้น |
หมูเนื้อแดง | 137.5 บาท/กก. | 205 บาท/กก. | 49% |
อกไก่ | 67.5 บาท/กก. | 105 บาท/กก. | 55% |
ไข่ไก่ | 4.45 บาท/กก. | 5 บาท/กก. | 12% |
พริกขี้หนูสวน | 45 บาท/กก. | 185 บาท/กก. | 311% |
ผักชี | 130 บาท/กก. | 175 บาท/กก. | 34% |
น้ำมันถั่วเหลือง | 53 บาท/ขวด | 67 บาท/ขวด | 26% |
ก๊าซหุงต้ม | 318 บาท/ถัง | 393 บาท/ถัง | 23% |
น้ำมันดีเซล | 28.29 บาท/ลิตร | 34.94 บาท/ลิตร | 23% |
แก๊สโซฮอล์ | 28.75 บาท/ลิตร | 37.15 บาท/ลิตร | 29% |
เมื่อเงินเฟ้อกำลังมา นักลงทุนควรปรับตัวอย่างไร?
วางแผนการลงทุน
ในสถานการณ์ที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ จะส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งการวางแผนการลงทุน โดยนำเงินที่มีไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น ลงทุนหุ้น, ลงทุนในกองทุนรวม หรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์
หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เสีย
หลีกเลี่ยงการก่อหนี้ที่ไม่ทำให้เกิดรายได้หรือหนี้เสียนั่นเอง โดยที่ควรมีความยั้งคิดยั้งทำให้ทุก ๆ ครั้งที่จะนำเงินออกจากกระเป๋า และหลีกเลี่ยงการซื้อของที่ไม่จำเป็น และมีการวางแผนการใช้จ่ายรัดกุมให้มากขึ้น
ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง
การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัย เช่น ทองคำ เพราะทองคำนับว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองเสมอ และไม่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา
ติดตามข่าวสาร
ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพราะเรื่องเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงิน และการดำรงชีพของเราทุกคน ควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้
ภาวะเงินเฟ้อ ลงทุนอะไรดี?
ฝากเงินดอกเบี้ยสูง
การฝากดอกเบี้ยเงินสูงเป็นบัญชีเงินฝากแบบประจำ โดยจะต้องฝากเงินเข้าบัญชีทุกเดือนและต้องฝากให้ครบตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดไม่ว่าจะเป็นแบบ 12 เดือน หรือ 36 เดือน ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าเงินฝากทั่วไป
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
เนื่องจากอัตราค่าเช่าเป็นไปตามภาวะเงินเฟ้อ จึงไม่มีผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้น การลงทุนในตลาดหุ้นจะได้เงินปันผล และส่วนต่างของราคาหุ้นที่อาจมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อความมั่นคงด้านการเงินในอนาคต สำหรับใครที่มีเงินเย็น การซื้ออสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะไม่ผันผวนตามภาคอุตสาหกรรมและตลาดหุ้น
ตราสารหนี้
การลงทุนในตราสารหนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในช่วงที้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แต่จำเป็นต้องเลือกตราสารหนี้ประเภท Floating Rate Bond หรือ Inflation Linked Bond ที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายในแต่ละงวดตามอัตราดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อที่เปลี่ยนแปลงไป ควรเลือกซื้อตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือ ศึกษาอย่างละเอียด อาจให้ผลตอบแทนที่ดีในที่สุดค่ะ
ทองคำ
เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ เป็นสินทรัพย์ที่ถูกเรียกว่า เงินมั่นคง ที่มีราคาในระยะยาว สามารถเก็งกำไรได้ตลอด ยิ่งเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนในยุคเงินเฟ้อ
การสร้างโอกาสจากการเทรดทองคำนั้น จากประสบการณ์ของผู้เขียนวิธีที่นิยมที่สุด ก็คือการเทรด CFD ทำให้นักลงทุนสามารถ “เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง” โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์นั้นจริง ๆ
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ
เมื่อเกิดสถานการณ์เงินเฟ้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มประกัน เป็นหลัก
กลุ่มหุ้น | รายละเอียด | สาเหตุ |
หุ้นธนาคาร | เรายได้หลักของธนาคารคือดอกเบี้ยจากเงินกู้ ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นหุ้นกลุ่มธนาคารจึงจะมีกำไรที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย | · กำไรสูงขึ้นจากส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ · ผลตอบแทนสูงขึ้น จากการนำเบี้ยประกันไปลงทุนตราสารหนี้ |
หุ้นกลุ่มประกัน | มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่นพันธบัตรรัฐบาลอยู่แล้วและตามธรรมชาติแล้วอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลนั้นเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับเงินเฟ้อดังนั้นเมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้นก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเช่นกัน | |
หุ้นอาหาร | เนื่องจากสถานการณ์หลายอย่างเช่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังcovid-19สงครามรัสเซีย-ยูเครนและหลายประเทศในโลกเริ่มเผชิญกับปัญหาด้านอาหารไม่เพียงพอทำให้หุ้นกลุ่มอาหารจะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ | · เป็นสิ่งจำเป็นที่คนต้องกินต้องใช้ · มีอำนาจต่อรองในการกำหนดราคาสินค้า |
สรุป
สรุปแล้ว เงินเฟ้อเมื่อความต้องการมากราคาสินค้าและบริการก็สูงขึ้น เงินเฟ้อจะทำให้เศรษฐกิจขยายและเติบโตได้ แต่ถ้าเงินเฟ้อมีสูงมากจนเกินไปก็จะเกิดสภาวะที่เรียกว่า “Hyper Inflation” เมื่อภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นนักลงทุนเองก็สามารถสร้างกำไรโดยการลงทุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะดังกล่าวได้นั่นเองค่ะ โดยทั่วไปแล้วเงินเฟ้อในระดับที่พอเหมาะนั้นจะดีต่อสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต่างจากเงินฝืดที่มีระดับราคาลดลงและเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารอยู่เสมอด้วย เพื่อไม่ให้พลาดกับเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นและมีผลต่อภาวะเงินเฟ้อ
อ้างอิง
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน