ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งคืออะไร?

8 นาที
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับดัชนี
อัพเดทครั้งล่าสุด 08 พ.ค. 2566 12:09 น.
ผู้เขียน

หากคุณกำลังมองหาช่องทางการลงทุนในจีนแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร บางทีการเริ่มต้นลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากคุณสามารถเข้าถึงบริษัทชั้นนำทั้งจากฮ่องกงและจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอย่างเช่น AIA, Tencent, HSBC เป็นต้น และดัชนีฮั่งเส็งมีความเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก ทำให้คุณมีโอกาสทำกำไรจากดัชนีดังกล่าวไม่ว่าคุณจะชอบแบบเดย์เทรดหรือเล่นรอบก็ตาม


ตอนนี้คุณอาจจะยังไม่รู้ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งคืออะไร คราวนี้เราจะมาไขข้อสงสัยนี้ให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และมือเก่าได้ฟังกันว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฝั่งเอเชียตัวนี้มีที่มาอย่างไร ประกอบด้วยหุ้นที่สำคัญ ๆ ตัวไหนให้เราได้เลือกลงทุน และเราจะมีลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้อย่างไรบ้าง ตามไปดูกันต่อได้ในบทความนี้เลย!


ดัชนีฮั่งเส็งคืออะไร?

ดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง (Hang Seng Index: HSI) คือ ดัชนีที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูงที่เทรดอยู่ในกระดานหลักของตลาดหุ้นฮ่องกง (Stock Exchange of Hong Kong) ซึ่งกว่าครึ่งเป็นหุ้นจากบริษัทสัญชาติจีนที่เข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง เช่น Xiaomi (1810) หรือ Alibaba (9988) 


ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งถูกลิสต์ขึ้นใช้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 1969 โดยบริษัทดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจำกัด (Hang Seng Indexes Company Ltd.,) ที่ก่อตั้งและเป็นเจ้าของโดยธนาคารฮั่งเส็ง นับถึงปี 2022 ดัชนีนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดแล้วกว่า $38 ล้านล้าน

ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งสำคัญอย่างไร?

ในฐานะที่ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจึงได้ชื่อว่าเป็นดัชนีที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับ 3 ของโลก เป็นรองก็เพียงแค่ดัชนี NASDAQ-100 และ เสิ่นเจิ้น เท่านั้น ทั้งยังเป็นแหล่งรวมบริษัทชั้นนำทางการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น HSBC, Bank of China, China Construction Bank ฯลฯ 


ด้วยความสำคัญของหุ้นที่ถูกจัดอยู่ในลิสต์ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งที่มาครบทั้งหุ้นจากจีนแผ่นดินใหญ่และหุ้นจากบริษัทในฮ่องกงเอง ทำให้ดัชนีนี้สามารถบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงด้านการเงินและอุตสหกรรมของจีนและฮ่องกงได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งไปโดยปริยาย

ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งประกอบด้วยหุ้นอะไรบ้าง?

ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งมีการรีวิวตลอดทุกไตรมาส ซึ่งการรีวิวแต่ละครั้งอาจมีการเพิ่ม ลด หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงหุ้นในลิสต์เลยก็ได้ขึ้นอยู่กับผลงานของหุ้นแต่ละตัวในรอบนั้น ๆ แต่การรีวิวเหล่านี้ก็สามารถทำให้จำนวนหุ้นในลิสต์ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ปัจจุบัน (มีนาคม 2023) ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งมีหุ้นในลิสต์ทั้งหมด 76 ตัว และสามารถเพิ่มได้มากที่สุดจำกัดแค่ 100 ตัว โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ถ่วงน้ำหนักสูงสุด คือ กลุ่มการเงินมีหุ้น 11 ตัวถ่วงน้ำหนัก 33.47%, กลุ่มเทคโนโลยีมีหุ้น 9 ตัว ถ่วงน้ำหนัก 29.98%, กลุ่มสินค้าจำเป็นมีหุ้น 13 ตัว ถ่วงน้ำหนัก 9.86% ฯลฯ


สำหรับหุ้นรายตัวที่ถ่วงน้ำหนักกับดัชนีหุ้นฮั่งเส็งมากที่สุด (การเปลี่ยนแปลงราคามีผลต่อดัชนีมากที่สุด) และเป็นหุ้นที่นักลงทุนคุ้นเคยดี เช่น


 -  BABA (เทคโนโลยี) ถ่วงน้ำหนัก 9.13% 

 -  TENCENT (เทคโนโลยี) ถ่วงน้ำหนัก 8.70%

 -  AIA (การเงิน) ถ่วงน้ำหนัก 7.69%

 -  HSCB (การเงิน) ถ่วงน้ำหนัก 7.34%


ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าไปดูลิสต์รายชื่อหุ้นฉบับเต็มได้ที่ https://www.hsi.com.hk/eng

วิธีการคำนวณดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง

การคำนวนหุ้นในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งใช้วิธีถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตามราคาตลาด (Capitalization-Weighted Index) นั่นคือการนำราคาที่เปลี่ยนแปลงของหุ้นมาถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตามราคาตลาด แล้วจึงนำมาคำนวณเป็นดัชนี ด้วยสูตร

วิธีการคำนวณดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง

Cr: wikipedia


โดยที่

·    P(t):ราคาปัจจุบันที่วัน t

·    P(t-1):ราคาปิดที่วัน (t-1)

·    IS:จำนวนหุ้นที่ออก

·    FAF:ปัจจัยการกระจายหุ้นยังรายย่อย ซึ่งอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1 ทำการปรับทุกไตรมาส

·    CF:ปัจจัยจำกัด ซึ่งอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1 ทำการปรับทุกไตรมาส

·    Yesterday’s-Closing-Index: ปิดดัชนีเมื่อวันก่อนหน้า


วิธีคำนวณดัชนีหุ้นแบบนี้ทำให้แม้ราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปเท่ากัน เช่น หุ้น A มีมูลค่าตลาด 1,000 ล้าน ราคาขึ้น $5 กับ หุ้น B มีมูลค่าตลาด 10 ล้าน ราคาลง $5 จะทำให้หักลบแล้วดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเป็นบวก เนื่องจากหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่าจะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนี้ได้มากกว่าแม้ว่าราคาหุ้นทั้งสองจะหักลบกันได้พอดีก็ตาม 

หลักทรัพย์ที่มีสิทธิ์บรรจุเข้าดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร

การคัดเลือกหุ้นเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีหุ้นฮั่งเส็งนั้นมีขั้นตอนเข้มงวด และมีเงื่อนไขเริ่มตั้งแต่การสกรีนหุ้นที่เข้าเกณฑ์คุณสมบัติ


1. เป็นหุ้นที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ติดอยู่ในลิสต์ Hang Seng Composite LargeCap & MidCap Index  

2. เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงมาแล้วอย่างน้อย 3 เดือน  

3. ในแต่ละเดือนต้องมีหุ้นที่ถูกนำออกมาหมุนเวียนเทรด (Tradable Indexes) ในตลาดเกินกว่า 0.1% อันเป็นตัวบ่งชี้ว่าหุ้นมีสภาพคล่องสำหรับการซื้อขายได้


หุ้นที่ผ่านเงื่อนไขทั้งสามข้อจะถูกนำมาจัดเข้าในกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากนั้นจึงจะมีการเลือกหุ้นที่เข้าเงื่อนไข 


  -  สามารถเป็นตัวแทนหรือสะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรม

  -  มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Large Market Cap)

  -  มีสภาพคล่องสูง

  -  มีความแข้มแข็งทางการเงิน รวมถึงความสามารถในการทำกำไร


ซึ่งในการรีวิวดัชนีแต่ละครั้งอาจมีการเพิ่มหุ้นหรือลบหุ้นออกจากลิสต์หรือไม่ก็ได้ และการคัดเลือกหุ้นที่เข้าไปอยู่ในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเป็นขั้นตอนสุดท้าย (Final Decision) จะทำโดย คณะกรรมการที่ปรึกษาดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง (HSI Advisory Committee) 

ทำไมต้องลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง? ผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง

ปัจจุบันการลงทุนในฝั่งตะวันออกเริ่มเป็นที่จับตามองโดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นจีนที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวอย่างร้อนแรง แต่การเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นหรือเซี่ยงไฮ้ในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นไปได้อย่างจำกัดให้กับนักลงทุนสัญชาติจีนหรือนักลงทุนสถาบันเท่านั้น และเพื่อไม่ให้พลาดการเติบโตของเศรษฐกิจจีน การลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง เช่น ดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง จึงเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในหุ้นจีน โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจสองประการ คือ


16823319754813


 ●  ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งมีดัชนีมีมูลค่า (Valuation) ที่น่าสนใจ จากการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงโควิดปี 2020 ตลาดหุ้นอเมริกาอย่างดัชนี S&P 500 ได้กลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งยังคงตามหลังมาแม้ว่าจะมีหุ้นชั้นนำที่ทำกำไรเติบโตได้อย่างดี เช่น Alibaba, Xiaomi, AIA, HSBC ก็ตาม ทำให้ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งยังมีอัปไซด์ของการเติบโตได้มากกว่าดัชนีอื่น


 ●  ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในหุ้นจีน ประเทศจีนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงที่สุดในโลก แม้ช่วงโควิดยังสามารถเติบโตเฉลี่ยได้กว่า 4.6% ทำให้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก และดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเองก็มีสัดส่วนการถ่วงน้ำหนักของหุ้นจีนเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งจึงถือเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในหุ้นจีนที่คล่องตัวและมีกฎระเบียบน้อยกว่า


ปัจจุบันดัชนีหุ้นฮั่งเส็งยืนอยู่ที่ 19,831.00 คิดเป็นการเปลี่ยนแปลง + 0.002% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันเฉลี่ยที่ $2.4 พันล้าน มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจาก NASDAQ และ Shenzhen Index

การวิเคราะห์แนวโน้มดัชนีหุ้นฮั่งเส็งในประวัติและอนาคต

ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งมีการเปลี่ยนแปลงในรอบปีที่น่าสนใจนับตั้งแต่ปี 2000 ดังนี้


YearCloseChang (point)Chang (%)
200015,095.53−1,866.57−11.00
200111,397.21−3,698.32−24.50
20029,321.29−2,075.92−18.21
200312,575.943,254.6534.92
200414,230.141,654.2013.15
200514,876.43646.294.54
200619,964.725,088.2934.2
200727,812.657,847.9339.31
200814,387.48−13,425.17−48.27
200921,872.507,485.0252.02
201023,035.451,162.955.32
201118,434.39−4,601.06−19.97
201222,656.924,222.5322.91
201323,306.39649.472.87
201423,605.04298.651.28
201521,914.40−1,690.64−7.16
201622,000.5686.160.39
201729,919.157,918.5935.99
201825,845.70−4,073.45−13.61
201928,189.752,344.059.07
202027,231.13−958.62−3.40
202123,397.67−3833.46−14.08
202219,781.41−3,616.26−15.46


16823322664120


สำหรับปี 2023 จากรายงานของ HSI นับถึงเดือนมีนา ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งที่ระดับ 20,400.11 ให้ผลตอบแทน +3.13% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) แต่ให้ผลตอบแทน -7.26% สำหรับปีก่อนหน้า และหากนับย้อนหลังไป 5 ปีดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจะให้ผลตอบแทนติดลบสูงถึง -32.21% จนกดดันให้ PE ถูกกดลงไปเหลือราว 9 – 11 เท่านั้น แม้ว่าเศรษฐกิจจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะเติบโตเฉลี่ยได้ถึง 4.6% ก็ตาม


ที่ผ่านมาปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีหุ้นฮั่งเส็งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียนในดัชนีเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนที่ปิดกั้นการเดินทาง การล็อกดาวน์เมืองใหญ่ รวมถึงปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานี้ผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงดูไม่ดีนัก แต่ทางการเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ลงในช่วงปลายปี 2022 ทำให้ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งที่ร่วงต่ำสุดที่ 15,000 ในปลายเดือนตุลา ดีดกลับมาปิดสิ้นปีที่ 19,781.41 ได้ หลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่าดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในปี 2023 นี้


สำหรับปี 2023 Goldman Sachs คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถเติบโตได้ 5.4% และ longforecast ได้มองว่าสิ้นปี 2023 ดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ที่ 21,616

ลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งยังไง

วิธีการลงทุนซื้อหุ้นซื้อกองทุนซื้อ ETFซื้อ DWเทรด CFD
ข้อดีได้เป็นเจ้าของหุ้น ได้ประโยชน์จากการถือหุ้นครบมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการลงทุนให้ ใช้เงินลงทุนไม่มาก ได้ปันผลใช้เงินลงทุนไม่มาก ซื้อขายง่ายได้ตลอดใช้เงินลงทุนน้อย มีอัตราทด ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงใช้เงินลงทุนน้อย มีอัตราทด ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
ข้อเสียใช้เงินลงทุนสูง ต้องเลือกหรือจัดการหุ้นเองไม่มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้น ซื้อขายได้แค่วันละครั้งการซื้อ ETF ในไทยมีตัวเลือกไม่มาก เสียภาษี Capital Gainไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น มีวันหมดอายุ มี Time Decay เทรดได้ในเวลาทำการ SETไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น, การลงทุนมีความเสี่ยงสูง
ซื้อได้ที่ไหนบล. ผ่านบัญชีหลักทรัพย์ตัวแทนซื้อขายกองทุน/บลจ.โบรกเกอร์เทรดหุ้นต่างประเทศบล. ผ่านบัญชีหลักทรัพย์โบรกเกอร์ ผ่านเว็บไซต์
เงินทุนตั้งต้น> 500,000 บาทขั้นต่ำ 5,000 บาท50 บาท100 หน่วยบางโบรกเกอร์อาจมีขั้นต่ำ $50
เหมาะกับมีเงินทุนตั้งต้นสูง เน้นการถือยาวเน้นการลงทุนระยะกลางถึงยาวใช้เงินลงทุนไม่มาก ใช้เทรดหรือถือยาวรายย่อย ใช้เงินลงทุนไม่มาก ซื้อขายเร็วรายย่อย ใช้เงินลงทุนไม่มาก ซื้อขายเร็ว
ระดับการแนะนำ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️


1. ลงทุนในหุ้นที่อยู่ในรายชื่อดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง

การลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งด้วยการซื้อหุ้นที่อยู่ในรายชื่อดัชนีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเทียบเท่าการลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งทำได้โดยการกระจายพอร์ตการลงทุนในหุ้นทั้งหมดของดัชนี (76 ตัว) แบบถ่วงน้ำหนัก วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นและมีสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น เช่น สิทธิที่จะได้รับปันผล สิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ฯลฯ และได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาที่เปลี่ยนไป


เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นต่างประเทศในตลาดหุ้นอเมริกา การซื้อหุ้นในตลาดหุ้นฮ่องกงทำได้โดยเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศกับบริษัทหลักทรัพย์ โอนเงินเข้าพอร์ต และส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งขั้นตอนที่จำเป็นต้องใช้เอกสารและมีขั้นต่ำของเงินลงทุนราว 500,000 บาทอาจเป็นอุปสรรคกับนักลงทุนที่มีเงินทุนไม่มาก 


นอกจากนี้การต้องซื้อหุ้นรายตัวกระจายไป 76 ตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนักลงทุนต้องเป็นผู้จัดการพอร์ตของตัวเองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการส่งคำสั่งซื้อขาย การจัดการภาษี หรือการจัดการเอกสารต่าง ๆ วิธีนี้จึงเหมาะกับเฉพาะนักลงทุนที่มีทุนทรัพย์สูงและตั้งใจซื้อเพื่อถือในระยะยาว


คุณสมบัติ

 ●  ข้อดี: ได้เป็นเจ้าของหุ้นและได้รับสิทธิประโยชน์ครบทั้งปันผลและประชุมผู้ถือหุ้น


 ●  ข้อเสีย: ต้องเลือกหุ้นและจัดการพอร์ตเอง 


 ●  ขั้นต่ำของการลงทุน: 500,000 บาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์)


 ●  เหมาะกับนักลงทุน: มีเงินทุนตั้งต้นสูง เน้นการถือยาว


 ●  ระดับความแนะนำ: ⭐️⭐️


2. กองทุนรวม

กองทุนรวมที่ลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งเป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลตอบแทน (Passive) ตามดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้อย่างแม่นยำโดยที่นักลงทุนไม่ต้องดูแลพอร์ตเอง เช่น ASP-HSI กองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอชเอสไอจากเอเชียพลัส ที่กองทุนจะรับเงินจากผู้ลงทุนมารวมไว้แล้วนำไปลงทุนต่อกับ Tracker Fund of Hong Kong ที่เป็นผู้จะกระจายเงินไปลงทุนกับหุ้นต่าง ๆ ในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งแบบถ่วงน้ำหนัก ทำให้แม้เป็นนักลงทุนที่มีเงินทุนไม่มากก็สามารถลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้เพียงการจ่ายเงินซื้อครั้งเดียว


การซื้อขายกองทุนที่ลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งทำได้ไม่ยาก ด้วยการเปิดบัญชีกองทุนกับบลจ. ทำรายการซื้อขาย และชำระเงินค่าหน่วยลงทุน นักลงทุนก็สามารถลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้ทันที แต่เนื่องจากการลงทุนนี้มีสภาพคล่องจำกัดคือ ซื้อขายได้วันละ 1 ครั้ง เฉพาะในวันทำการ (จันทร์ - ศุกร์) ทำให้เหมาะกับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว และไม่สามารถเทรดในระยะสั้นได้


คุณสมบัติ

 ●  ข้อดี: มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลจัดการการลงทุนให้ ได้ปันผล


 ●  ข้อเสีย: มีสภาพคล่องการซื้อขายจำกัดคือซื้อขายได้วันละ 1 ครั้ง จึงไม่เหมาะกับการเทรด


 ●  ขั้นต่ำของการลงทุน: 5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกองทุน)


 ●  เหมาะกับนักลงทุน: เน้นการลงทุนระยะกลางถึงยาว


 ●  ระดับความแนะนำ: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️


3. ETF

ETF หรือ Exchange Traded Fund เป็นกองทุนที่จดทะเบียนเข้าซื้อขายอยู่บนกระดานหลักทรัพย์ การลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งด้วย HSI ETF จึงเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นฮั่งเส็งโดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแลเงินทุนให้คล้ายกับกองทุนรวม แต่มีสภาพคล่องสูงกว่าเพราะนักลงทุนสามารถเทรดหน่วยลงทุนได้บนกระดานซื้อขายหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์ เช่น KTEC: KraneShares Hang Seng Index ETF ในตลาดหุ้นนิวยอร์คที่ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง ซึ่งนักลงทุนสามารถถือหน่วยลงทุนเพื่อการลงทุนได้ทั้งในระยะยาวหรือแม้แต่เทรดระยะสั้นได้แบบไม่มีปัญหา


สำหรับกระดานหุ้นไทยอย่าง SET ยังไม่มี ETF ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง ดังนั้นนักลงทุนไทยที่สนใจลงทุนใน HSI ETF จึงต้องลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นลงทุนของโบรกเกอร์อื่นที่นำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศอีกที เช่น Dime หรือ InnovestX ที่นักลงทุนสามารเริ่มได้ด้วยการโหลดแอปพลิเคชันแล้วลงทะเบียนผู้ใช้ จากนั้นจึงโอนเงินเข้าพอร์ตเพื่อส่งคำสั่งซื้อขาย 


อย่างไรก็ดีการซื้อขาย ETF บนแอปพลิเคชันเหล่านี้ก็ยังมีตัวเลือก ETF ไม่มาก และยังต้องเสียภาษี Capital Gain เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นอเมริกา


คุณสมบัติ

 ●  ข้อดี: ใช้เงินลงทุนน้อย ซื้อขายง่ายได้ตลอด


 ●  ข้อเสีย: การซื้อในไทยยังมีตัวเลือก ETF ไม่มาก เสียภาษี Capital Gain


 ●  ขั้นต่ำของการลงทุน: 50 บาท


 ●  เหมาะกับนักลงทุน: รายย่อย เหมาะกับทั้งการเล่นสั้นและถือยาว


 ●  ระดับความแนะนำ: ⭐️⭐️⭐️


4. DW

DW หรือ Derivative Warrants เป็นตราสารแสดงสิทธิอนุพันธ์ซึ่งไม่ใช่หุ้นแต่เป็นเครื่องมือการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ได้โดยมีราคาที่อ้างอิงกัน และทำกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขายได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมี DW ที่อ้างอิงราคาดัชนฮั่งเส็งที่บริหารจัดการโดย Macquarie (28) เช่น

 

HSI28C2306E (HSI – อ้างอิงดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง, 28 - ออกโดย Macquarie, C – Call, 2306 - หมดอายุเดือน 06 ปี 2023, E - ซีรีส์ E)

HSI28P2307B (HSI – อ้างอิงดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง, 28 - ออกโดย Macquarie, P – Put, 2307 - หมดอายุเดือน 07 ปี 2023, B - ซีรีส์ B)


วิธีลงทุนด้วย DW ทำได้ไม่ยาก โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว เลือกรุ่นและซีรีส์ของ DW เลือกทิศทางทำกำไร (Call – Put) เลือกจำนวนหน่วยที่ต้องการซื้อและส่งคำสั่ง ด้วยราคาของ DW ที่ไม่แพงทำให้ใช้เงินลงทุนตั้งต้นน้อย แต่อาศัยอัตราทดของตราสารช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างกำไรจำนวนมากได้


อย่างไรก็ดี การเทรด DW มีการคิดค่าธรรมเนียมเหมือนการเทรดหุ้นทั่วไปคือมาตรฐานที่ 0.19 - 0.25% (ล้านละ 19,000 - 25,000 บาท) นอกจากนี้การเทรด DW ยังไม่ได้ทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของหุ้น ตราสารยังมีวันหมดอายุและ Time Decay ที่อาจทำให้นักลงทุนต้องเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ นักลงทุนจึงควรศึกษารายละเอียดและลงทุนด้วยความระมัดระวัง


คุณสมบัติ

 ●  ข้อดี: ใช้เงินลงทุนน้อย ได้ประโยชน์จากการใช้อัตราทด ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง


 ●  ข้อเสีย: มีวันหมดอายุ เมื่อใกล้หมดอายุจะมี Time Decay สูง มีช่วงเวลาซื้อขายจำกัด ไม่ได้รับประโยชน์จากการเป็นเจ้าของหุ้น ค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง(เท่ากับการเทรดหุ้น) ซื้อขายได้เฉพาะเวลาทำการ SET


 ●  ขั้นต่ำของการลงทุน: 100 หน่วย แต่ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวันของแต่ละโบรกเกอร์ (ส่วนใหญ่ 53 บาท)


 ●  เหมาะกับนักลงทุน: รายย่อย ใช้เงินลงทุนไม่มาก เน้นซื้อขายรวดเร็ว


 ●  ระดับความแนะนำ: ⭐️⭐️⭐️


5. CFD

CFD หรือ Contract for Difference เป็นตราสารทางการเงินอีกรูปแบบหนึ่งที่แม้ไม่ทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นแต่สามารถสร้างผลกำไรจำนวนมากจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นได้ด้วยคุณสมบัติของอัตราทด ทั้งยังสามารถทำกำไรได้ทั้งทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ CFD สำหรับการลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้ด้วย


วิธีการลงทุนดัชนีหุ้นฮั่งเส็งด้วย CFD มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เอกสาร เพียงลงทะเบียนเข้าใช้งานกับเว็บไซต์โบรกเกอร์ เมื่อได้รับคำยืนยันก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเริ่มการซื้อขายได้ทันที โดยเลือกเปิดสถาน Buy HSI เพื่อคาดหวังกำไรในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งขาขึ้น หรือ Sell HSI เพื่อคาดหวังกำไรในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งขาลง


การลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งด้วยวิธีนี้ใช้เงินลงทุนน้อย สามารถคาดหวังผลกำไรจำนวนมากได้ และมีสภาพคล่องเพียงพอสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ อย่างไรก็ดีควรระมัดระวังการใช้อัตราทดที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุน และการลงทุนด้วย CFD ยังมีดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap) จึงเหมาะกับการลงทุนระยะสั้นสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนตั้งต้นไม่มาก


คุณสมบัติ

 ●  ข้อดี: สเปรดต่ำ ใช้เงินลงทุนน้อย ได้ประโยชน์จากการใช้อัตราทด ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซื้อขายได้ตลอด


 ●  ข้อเสีย: ไม่ได้รับประโยชน์จากการเป็นเจ้าของหุ้น มีค่าธรรมเนียมอัตราดอกเบี้ยข้ามคืน


 ●  ขั้นต่ำของการลงทุน: เริ่มต้น $50 หรือน้อยกว่า


 ●  เหมาะกับนักลงทุน: รายย่อย ใช้เงินลงทุนไม่มาก เน้นซื้อขายรวดเร็ว


 ●  ระดับความแนะนำ: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️


เทรดดัชนีหุ้นฮั่งเส็งด้วย CFD กับ Mitrade รับโนนัส $100 สำหรับลูกค้าใหม่เดี๋ยวนี้ >>>

ห้ามพลาด!!! 

[กิจกรรมจำกัดเวลาแจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์!!!


เทรดหุ้น ดัชนี คริปโต Forex ทอง น้ำมันและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมายกับ Mitrade



illustration

ความเสี่ยงที่ลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง

แม้การลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งจะมีอัปไซด์กว้างให้นักลงทุนได้คาดหวัง และปัจจัยลบต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ คลี่คลายลงไปแล้ว การลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งยังมีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรคำนึงอยู่ ได้แก่


 ●  การแทรกแซงทางนโยบายจากรัฐบาลจีน ซึ่งหากตลาดหุ้นฮ่องกงมีการปรับตัวขึ้นที่รุนแรงเกินไปก็มีโอกาสเห็นมาตรการสกัดการเก็งกำไรเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้


 ●  ปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ ทำให้นักลงทุนสถาบันกังวลและเทขายหุ้นขนาดใหญ่ เช่น การเทขายหุ้น Tencent และ BYD กว่า $26.1 พันล้านในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา 


 ●  ความเปราะบางของค่าเงิน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเงินที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้นและเงินทุนเริ่มไหลกลับไปที่อเมริกา ส่งผลให้เกิดเงินทุนไหลออกและลดสภาพคล่องภายใต้การกำกับของธนาคารฮ่องกงเหลือ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 3 ปี และธนาคารฮ่องกงยังแทรกแซงไม่ให้ค่าเงินหลุดกรอบที่ตรึงไว้ต่อไปซึ่งนับเป็นความเปราะบางของการลงทุนในฮ่องกงอย่างหนึ่ง

และนี่คือข้อมูลที่เรามาเล่าสู่กันฟังเพื่อตอบคำถามที่ว่าดัชนีหุ้นฮั่งเส็งคืออะไร สำคัญอย่างไร และนักลงทุนอย่างเราจะสามารถลงทุนในดัชนีหุ้นฮั่งเส็งได้อย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึง เพื่อให้ท้ายที่สุดนักลงทุนสามารถเลือกการลงทุนที่เหมาะกับผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต!

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
15 มี.ค. 2566 น.
S&P 500 คืออะไร?
ผู้เขียนMitradeอัปเดต:15 มี.ค. 2566 น.
15 มี.ค. 2566 น.
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์

คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยง: การซื้อขายอาจทำให้คุณสูญเสียเงินทุนทั้งหมด การซื้อขายอนุพันธ์แบบ OTC อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน โปรดพิจารณาเอกสาร PDS, FSG, คำชี้แจงการเปิดเผยความเสี่ยงและข้อตกลงลูกค้าก่อนใช้บริการของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โปรดทราบว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีผลประโยชน์ใด ๆ ในสินทรัพย์อ้างอิง

ขยาย