แนำนำตลาดหุ้นจีน คืออะไรและส่อง 7 ‘หุ้นจีน’ ที่น่าลงทุนสำหรับปี 2568

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

การลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนนั้นเป็นที่นิยมอย่างสูง และ “หุ้นจีน” ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ของโลกที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง


บทความนี้จึงจะแนะนำให้ได้รู้จักว่าตลาดหุ้นจีนคืออะไร พร้อมคัดเลือกหุ้นจีนที่น่าลงทุนสำหรับปี 2568 มาให้คุณโดยเฉพาะ

ตลาดหุ้นจีน คืออะไร?

ตลาดหุ้นจีน คือ ตลาดที่ซื้อขายหุ้นของบริษัทต่างๆ ในประเทศจีน ตลาดหุ้นจีนแบ่งออกเป็น 4 ตลาด ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange), ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange), ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง (Beijing Stock Exchange) และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Exchanges and Clearing)


1. ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange: SSE)

เป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและอันดับ 3 ของโลก โดยจดทะเบียนบริษัทต่าง ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี พลังงาน การเงิน และอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันเป็นตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและเข้าถึงได้ง่าย ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นผ่านโบรกเกอร์ในประเทศไทยได้

 

2. ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange: SZSE)

เป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดเล็กกว่าตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจดทะเบียนบริษัทต่าง ๆ จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นหลัก เช่น Tencent, Alibaba, Meituan และ Pinduoduo

 

3. ตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง (Beijing Stock Exchange: BSE)

เป็นตลาดหุ้นที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรม SMEs ในประเทศจีน โดยให้การสนับสนุนด้านการเงินและข้อมูลแก่บริษัทเหล่านี้

 

4. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Exchanges and Clearing: HESK)

เป็นตลาดหุ้นที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแต่จดทะเบียนบริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและอันดับ 5 ของโลก

7 ‘หุ้นจีน’ ที่น่าลงทุนในปี 2568

ตารางเปรียบเทียบ 7 อันดับหุ้นจีนในปี 2568

บริษัท

Market Cap (พันล้าน USD)

P/E (เท่า)

อัตรากำไรสุทธิ (%)

ผลตอบแทน YTD (%)

Tencent

465

21.5

25.30%

+16.8%

Alibaba

185

17.1

8.30%

+2.5%

BYD

98

16.6

5.10%

+12.3%

CATL

110

16.2

12.20%

+5.1%

Meituan

95

38

6.20%

+45.5%

SMIC

22

27.5

11.80%

-5.40%

LONGi

25

50

3.00%

-22.10%


1. Tencent (0700.HK)

ราคาเทนเซ็นต์แบบเรียลไทม์


บริษัทเทนเซ็นต์ (Tencent Holdings Ltd.) ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 เริ่มต้นจากโปรแกรมแชท QQ ก่อนจะสร้าง WeChat ให้กลายเป็น Super App ที่มีผู้ใช้กว่าพันล้านคน  และเติบโตสู่การเป็นบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ผู้ให้บริการ FinTech และคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ หุ้นของ Tencent เข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 2004


แนวโน้มในปี 2568 Tencent มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากระบบนิเวศที่มีอยู่ เช่น โฆษณาใน WeChat และการค้าออนไลน์, การขยายธุรกิจคลาวด์สำหรับลูกค้าองค์กร และการนำ AI "Hunyuan" มาต่อยอดในบริการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังคงเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว, การแข่งขันในตลาดเกมที่รุนแรง และกฎระเบียบของภาครัฐ


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 87.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 22.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 25.3%

  • Market Cap: ประมาณ 465 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 21.5 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: +16.8%


2. Alibaba (9988.HK)

ราคา BABA แบบเรียลไทม์


Alibaba คือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน E-commerce ของจีน ประกอบด้วยธุรกิจหลักคือแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ Taobao และ Tmall  นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสำคัญอย่าง Alibaba Cloud ซึ่งเป็นผู้นำด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง , Ant Financial ผู้ให้บริการชำระเงิน Alipay  และ Cainiao Network แพลตฟอร์มด้านโลจิสติกส์ 


แนวโน้มในปี 2568 Alibaba อยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มความคล่องตัว โดยมุ่งเน้นที่การฟื้นธุรกิจ E-commerce ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจาก Pinduoduo และการเติบโตของธุรกิจคลาวด์และโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล ความสำเร็จในการปรับโครงสร้างจะเป็นปัจจัยชี้วัดที่สำคัญ


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 129.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 10.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 8.3%

  • Market Cap.: ประมาณ 185 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 17.1 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: +2.5%


>>> ซื้อหุ้น Alibaba ยังไง


3. BYD (1211.HK)

ราคา BYD แบบเรียลไทม์


BYD (Build Your Dream) เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่  ก่อนจะเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ในปี 2003  ปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก มีจุดเด่นคือสามารถผลิตชิ้นส่วนสำคัญอย่างแบตเตอรี่และชิปได้ด้วยตนเอง โดยเทคโนโลยี Blade Battery ได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ 


แนวโน้มในปี 2568 BYD กำลังเร่งขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อลดการพึ่งพาตลาดในประเทศที่กำลังเผชิญสงครามราคาอย่างรุนแรง แม้แรงกดดันด้านกำไรจะเพิ่มขึ้น แต่ความได้เปรียบด้านต้นทุนจากการผลิตครบวงจรยังช่วยให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลกไว้ได้


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 115.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 5.1%

  • Market Cap.: ประมาณ 98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 16.6 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: +12.3%


>>> วิธีการซื้อหุ้น BYD เป็นยังไง


เทรดหุ้นจึนกับ Mitrade และรับโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์เดี๋ยวนี้ >>


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน


4. Contemporary Amperex Technology (CATL) (300750.SZ)

CATL เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) อันดับหนึ่งของโลก  มีลูกค้ารายใหญ่เป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำทั่วโลก เช่น BMW, Volkswagen และ Mercedes-Benz  บริษัทมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก


แนวโน้มในปี 2568 CATL เผชิญความท้าทายจากภาวะอุปทานแบตเตอรี่ล้นตลาดและการแข่งขันด้านราคา แต่ยังคงสถานะผู้นำด้วยการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ๆ เช่น แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน และแบตเตอรี่แบบเซมิ-โซลิดสเตต เพื่อรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและขยายตลาดไปยังระบบกักเก็บพลังงาน


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 55.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 12.2%

  • Market Cap.: ประมาณ 110 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 16.2 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: +5.1%


5. Meituan (3690.HK)

ราคาเหม่ยถวนแบบเรียลไทม์


Meituan คือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ O2O (Online-to-Offline) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน  เป็น Super App ที่รวมบริการในชีวิตประจำวันไว้ครบวงจร ตั้งแต่บริการจัดส่งอาหาร, จองโรงแรม, ตั๋วเดินทาง, คูปองส่วนลด ไปจนถึงบริการเรียกรถและจักรยานสาธารณะ 


แนวโน้มในปี 2568 ธุรกิจหลักอย่างการจัดส่งอาหารเริ่มอิ่มตัวและเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นจาก Douyin (TikTok) ในธุรกิจบริการท้องถิ่น Meituan จึงกำลังมองหาการเติบโตใหม่ๆ จากการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของบริษัทนอกตลาดบ้านเกิด


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 40.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 6.2%

  • Market Cap.: ประมาณ 95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 38.0 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: +45.5%


6. SMIC (0981.HK)

Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) คือโรงหล่อชิป (Foundry) ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของจีน เป็นบริษัทที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อเป้าหมายการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐบาลจีน


แนวโน้มในปี 2568 SMIC ได้รับประโยชน์โดยตรงจากความต้องการชิปภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แม้จะเผชิญข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงสุดได้ แต่บริษัทยังคงเติบโตได้ดีในตลาดเทคโนโลยีระดับกลาง (Mature Nodes)


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 11.8%

  • Market Cap.: ประมาณ 22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 27.5 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: -5.4%


7. LONGi Green Energy Technology (601012.SS)

LONGi คือหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์และเวเฟอร์ซิลิคอน (ส่วนประกอบสำคัญของแผง) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลก และเป็นผู้นำในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์


แนวโน้มในปี 2568 อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์เผชิญปัญหาอุปทานล้นตลาดและสงครามราคา อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว LONGi ยังคงได้รับประโยชน์จากเมกะเทรนด์ด้านพลังงานสะอาดทั่วโลกและความต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำ


  • รายได้รวม (TTM): ประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • กำไรสุทธิ (TTM): ประมาณ 0.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • อัตรากำไรสุทธิ: ประมาณ 3.0%

  • Market Cap.: ประมาณ 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

  • P/E (TTM): ประมาณ 50.0 เท่า

  • ผลตอบแทน YTD: -22.1%


รูปแบบหุ้นจีนมีอะไรบ้าง?

ประเภทของหุ้นจีนประกอบไปด้วย 6 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้


1. A-Share

เป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นจีน ประกอบด้วยที่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (SZSE) โดยการซื้อขายดัชนีหุ้น A-Share จะให้สิทธิแก่บุคคลสัญชาติจีนเท่านั้น นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถลงทุนในหุ้นจีนนี้ได้ และซื้อขายในสกุลหยวน (RMD) ยกเว้นการลงทุนผ่านสถาบันที่ได้รับสิทธิพิเศษ เช่น Qualified Foreign Institutional Investor (QFII), RMB Qualified Foreign Institutional Investor (RQFII) และ Hong Kong - China Stock Connect ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนได้ แต่ก็ยังไม่สามารถลงทุนได้อย่างเต็มที่และมีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ


2. B-Share

เป็นดัชนีหุ้นจีนที่ออกโดยบริษัทจีน แล้วจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) และตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้น (SZSE)  แต่อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนได้ โดยจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในการซื้อขาย ซึ่งแตกต่างจากหุ้น A-Share ที่ออกโดยบริษัทจีนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นเช่นกัน แต่อนุญาตให้นักลงทุนสัญชาติจีนและนักลงทุนสถาบันต่างชาติลงทุนได้เท่านั้น


3. H-Share

เป็นดัชนีหุ้นจีนที่ฐานบริษัทดำเนินกิจการภายในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ไปจัดตั้งบริษัทนอกประเทศจีนแล้วจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HESK) ซึ่ง H ย่อมาจาก Hang Seng China Enterprise Index (HSCE) มีการเปิดให้นักลงทุนทั่วโลกลงทุนอย่างไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ซึ่งได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและมีการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD)


4. Red-Chip

เป็นดัชนีหุ้นของบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่นอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วมักจะจัดตั้งในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HESK) โดยมีรัฐบาลจีนเป็นผู้ร่วมถือหุ้นบางส่วน โดยซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ซึ่งนักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนได้อย่างเต็มที่

 

5. P-Chip

เป็นดัชนีหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HESK) ถือหุ้นโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่รัฐบาลจีน ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) เปิดให้นักลงทุนทั่วโลกลงทุนเช่นเดียวกับดัชนีหุ้น Red-Chip ซึ่งมีความสะดวกสบายสำหรับนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก


6. ADRs

ADRs ย่อมาจาก American Depository Receipts เป็นดัชนีหุ้นของบริษัทที่มีฐานธุรกิจในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) หุ้น ADRs มักมีสภาพคล่องสูงและเข้าถึงได้ง่ายกว่าหุ้น A-Share จดทะเบียนในประเทศจีน เนื่องด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นมากกว่า

เพิ่มเติมบทสรุป(ประมาณ 120 คำ)

สรุป

บทความนี้ได้แนะนำตลาดหุ้นจีน รูปแบบหุ้น และคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจสำหรับปี 2568 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์การลงทุนในจีนปัจจุบันได้เปลี่ยนไป โดยโอกาสสำคัญอยู่ที่การเลือกลงทุนในสองกลุ่มหลัก คือ ผู้นำตลาดที่มั่นคงควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่รัฐบาลสนับสนุน เช่น AI และพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นกุญแจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับทิศทางใหม่ของเศรษฐกิจจีนในระยะยาว ทำให้สะท้อนได้ว่าหุ้นจีนมีความน่าสนใจและเป็นทางเลือกยอดนิยมของนักลงทุนในขณะนี้อย่างยิ่ง

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
วิธีเทรดหุ้น 2025: 6 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับมือใหม่การ “เทรดหุ้น” เป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ แต่ก็กลัวพอๆ กัน เพราะได้ยินแต่เรื่องเสียเงิน หรือเรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การเทรดหุ้นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด วันนี้เราจะมาเรียนรู้ วิธีเทรดหุ้น พร้อมเทคนิคการบริหารความเสี่ยงที่จะช่วยให้คุณเทรดอย่างปลอดภัย
ผู้เขียน  MitradeInsights
6 เดือน 27 วัน ศุกร์
การ “เทรดหุ้น” เป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ แต่ก็กลัวพอๆ กัน เพราะได้ยินแต่เรื่องเสียเงิน หรือเรื่องยุ่งยากซับซ้อน แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การเทรดหุ้นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด วันนี้เราจะมาเรียนรู้ วิธีเทรดหุ้น พร้อมเทคนิคการบริหารความเสี่ยงที่จะช่วยให้คุณเทรดอย่างปลอดภัย
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
2 เดือน 10 วัน จันทร์
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 8 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2025ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2025 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
6 เดือน 18 วัน พุธ
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2025 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2568ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
2 เดือน 20 วัน พฤหัส
ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 29 ก.ย. 2024
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์