วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 ก.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 18 กรกฏาคม 2568 สำหรับใครที่จับตาราคาทองคำอยู่คงใจหายใจคว่ำกันน่าดู เพราะราคาทองคำ XAUUSD ปรับตัวลดลงไปกว่า 0.26% ในช่วงตลาดอเมริกาเมื่อคืนที่ผ่านมา และถ้าดูภาพรวมคือเกือบจะลบไปถึง 1% เลยทีเดียว คำถามคือ...มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆ ทองคำที่เคยเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยถึงโดนเทขายแบบนี้?
สาเหตุหลักที่กดดันราคาทองคำแบบเต็มๆ เลยก็คือ “ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา” ที่ออกมาดีเกินคาดแบบสวนกระแสสุดๆ ลองนึกภาพตามง่ายๆ เวลาเศรษฐกิจดี คนจะรู้สึกมั่นคง มีงานทำ มีเงินใช้จ่าย ความกังวลเรื่องความเสี่ยงต่างๆ ก็จะลดลง พอเป็นแบบนี้ คนก็จะเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่าแต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น หุ้น แทนที่จะมาเก็บไว้ในทองคำที่เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยในยามวิกฤต ซึ่งตัวเลขที่ว่ามันดีขนาดไหนน่ะเหรอ? มาดูกันทีละตัว
เปิดสาเหตุทำไมราคาทองคำวันนี้ดิ่งลง
อย่างแรกคือ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) หรือพูดง่ายๆ ก็คือจำนวนคนตกงานที่ไปขึ้นทะเบียนนั่นแหละ ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 221,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 235,000 ตำแหน่งอย่างชัดเจน แปลว่าอะไร? แปลว่าตลาดแรงงานของอเมริกายังแข็งแกร่งปึ้ก คนตกงานน้อยลง เศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้สบายๆ
ยังไม่พอ! ตัวเลขค้าปลีก (Retail Sales) ก็ออกมาเซอร์ไพรส์ตลาดเหมือนกัน โดยขยับขึ้นมา 0.6% ทั้งๆ ที่หลายคนมองว่าจะโตแค่ 0.1% เท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ดอกเบี้ยจะสูง แต่ชาวอเมริกันก็ยังสู้ ยังควักกระเป๋าออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอยู่เลย พอข้อมูลแกร่งๆ แบบนี้ออกมาติดๆ กัน มันก็ไปตอกย้ำแนวทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก
บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดอย่างผู้ว่า Adriana Kugler ก็ออกมาพูดทำนองว่านโยบายการเงินคงต้องเข้มงวดแบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่ๆ ด้าน Mary Daly ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ก็เสริมทัพว่าภารกิจการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบนะ ยังต้องทำงานกันอีกเยอะ พอเจอแบบนี้เข้าไป นักลงทุนก็เลยมองว่าโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้แทบจะเป็นศูนย์ เพราะเศรษฐกิจยังดีอยู่เลย จะรีบลดดอกเบี้ยไปทำไม
พอความหวังเรื่องลดดอกเบี้ยมันริบหรี่ เสน่ห์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ยมันก็ลดลงฮวบฮาบทันที เพราะคนจะย้ายเงินไปฝากหรือลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงๆ ดีกว่านั่นเอง นี่แหละคือสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำโดนทุบลงมาอย่างที่เราเห็นกัน
ส่องตัวเลขเด็ด เศรษฐกิจเมกาแกร่งเกินคาด กดดันทองเต็มๆ
นอกจากตัวเลขการจ้างงานและยอดค้าปลีกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งดัชนีที่สำคัญมากที่เพิ่งประกาศออกมา นั่นก็คือ ดัชนีภาคการผลิตของฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Federal Reserve's manufacturing sector survey) ซึ่งตัวเลขนี้มันพุ่งกลับขึ้นมาอยู่ในโซนขยายตัวที่ 15.9 ได้สำเร็จ หลังจากที่ติดลบอยู่ที่ -4 มาสองเดือนซ้อน (พฤษภาคม-มิถุนายน) แถมยังดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ -1 แบบคนละเรื่องเลย
รายงานระบุชัดเจนว่ากิจกรรมภาคการผลิตในภูมิภาคกลับมาขยายตัว คำสั่งซื้อใหม่และการจัดส่งสินค้าก็เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่สำคัญคือดัชนีการจ้างงานก็กลับมาเป็นบวกด้วย หมายความว่าโรงงานต่างๆ เริ่มกลับมาจ้างคนเพิ่มขึ้นแล้ว พอตัวเลขนี้ประกาศออกมาปุ๊บ ราคาทองคำก็ดิ่งลงไปทำจุดต่ำสุดของวันทันที สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอ่อนไหวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอเมริกามากๆ ในช่วงเวลานี้
แม้แต่ตัวเลข ค่าเฉลี่ยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน 4 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่แม่นยำกว่าเพราะช่วยลดความผันผวนรายสัปดาห์ ก็ยังออกมาดีกว่าคาด ตัวเลขอยู่ที่ 229,500 เทียบกับที่คาดไว้ 237,000 จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะมองมุมไหน ข้อมูลเศรษฐกิจของอเมริกาก็พร้อมใจกันส่งสัญญาณบวก ซึ่งเป็นปัจจัยลบโดยตรงต่อราคาทองคำ
อีกมุมที่ต้องมอง! จีนยังเดินหน้าเก็บทองไม่หยุด สัญญาณอะไร?
แต่ในขณะที่ฝั่งอเมริกาดูไม่ค่อยเป็นใจกับราคาทองคำเท่าไหร่ ตัดภาพมาที่ฝั่งตะวันออกอย่างประเทศจีนกันบ้าง ข้อมูลจาก สภาทองคำโลก (World Gold Council หรือ WGC) โดย Ray Jia หัวหน้าฝ่ายวิจัยของจีน ชี้ให้เห็นภาพที่น่าสนใจมากๆ แม้ว่าในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดทองคำในจีนจะดูซบเซาไปบ้างเพราะราคาทองที่สูงทำให้คนชะลอการซื้อจิวเวลรี่ แต่ถ้ามองภาพรวมครึ่งปีแรกของปี 2025 ถือว่าแข็งแกร่งสุดๆ ทั้งราคาทองคำอ้างอิงของเซี่ยงไฮ้และเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำต่างก็ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบครึ่งปี
ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง แต่ที่น่าจับตาที่สุดคือ ธนาคารกลางของจีน (PBoC) ยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเข้าคลังอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันแล้ว แค่ในเดือนมิถุนายนเดือนเดียวก็ซื้อเพิ่มไปอีก 2 ตัน ทำให้ยอดถือครองทองคำอย่างเป็นทางการของจีนตอนนี้อยู่ที่ 2,299 ตัน และสัดส่วนทองคำในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นจาก 5.5% เมื่อปลายปี 2024 มาอยู่ที่ 6.7% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2025 แล้ว
ภาพนี้กำลังบอกอะไรเรา? มันกำลังบอกว่าในขณะที่นักลงทุนรายย่อยอาจจะหวั่นไหวกับความผันผวนระยะสั้น แต่ผู้เล่นรายใหญ่อย่างธนาคารกลางของจีนกลับมองเกมยาว พวกเขายังคงเชื่อมั่นในสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์ แม้ความต้องการทองรูปพรรณจะแผ่วลง แต่ความต้องการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำกลับแข็งแกร่งขึ้นมาทดแทน โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และผลตอบแทนของสินทรัพย์อื่นๆ ในประเทศที่ไม่ค่อยน่าสนใจนัก
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
ต่อเนื่องจากบทวิเคราะห์เมื่อวาน แนวรับแรกที่โซน $3,325 ที่เราคิดว่าเหนียว เอาเข้าจริงโดนทุบหลุดลงไปชั่วขณะ ทำเอาหลายคนใจหายว่าราคาจะไหลยาว แต่เรื่องมันพีคตรงนี้! พอราคาดิ่งลงไปใกล้แนวรับถัดไปที่ระดับ $3,310 เท่านั้นแหละ เหมือนมีใครบางคนรอช้อนซื้อล็อตใหญ่อยู่ตรงนั้นพอดี เกิดแรงซื้องมหาศาลอัดกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นแท่งเทียนสีเขียวยาวปรี๊ด สวนกลับขึ้นมาอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้เรียกว่าเป็นการ “สลัดเม่า” หรือสร้าง Bear Trap ดักคนให้เปิด Short แล้วลากกลับขึ้นไปกินเรียบ
แรงซื้อที่อัดกลับเข้ามานั้นทรงพลังมากขนาดที่ว่า ไม่ใช่แค่ดึงราคากลับมายืนเหนือ $3,325 ได้สบายๆ แต่ยังพุ่งทะยานขึ้นไปจ่อทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $3,345 อีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ กำแพงตรงนั้นยังคงหนาแน่น แรงซื้อที่ส่งขึ้นมาก็เริ่มแผ่วลง ทำให้ยังไม่สามารถผ่านไปได้ และราคาก็ย่อตัวลงมาตั้งหลักอีกครั้งอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการยืนยันว่าตอนนี้เรามีกรอบการต่อสู้ที่ชัดเจนมาก คือมีแนวรับสุดแกร่งอยู่ที่ $3,310 และมีแนวต้านสุดแข็งอยู่ที่ $3,345
สำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภ การดีดกลับอย่างรุนแรงจาก $3,310 แสดงให้เห็นว่าฝั่งกระทิงยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และพร้อมจะเข้าช้อนซื้อทุกครั้งที่ราคาลงมาในโซนที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกัน การที่ยังไม่ผ่าน $3,345 ก็บอกเราว่าฝั่งหมีก็ยังคุมโซนต้านไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นกัน ดังนั้น สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดในระยะสั้น คือราคาทองคำจะแกว่งตัวออกข้าง หรือ Sideways อยู่ในกรอบใหญ่ระหว่าง $3,310 - $3,345 เพื่อสะสมพลังเลือกว่าจะไปทางไหนต่อ สอดคล้องกับ RSI และ Stoch RSI ที่ต่างก็กลับมายืนอยู่ที่ระดับ 50 ที่เหมือนเป็นสัญญาณ “พักรบ”
สรุปแผนการเทรดสำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตอนนี้ตลาดได้สร้างกรอบที่ชัดเจนให้เราเห็นแล้ว คือแนวรับสำคัญที่ $3,310 และแนวต้านสำคัญที่ $3,345 ตราบใดที่ราคายังวิ่งอยู่ในกรอบนี้ ก็อาจจะยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่ให้จับตาดูการทะลุของกรอบนี้ให้ดี หากราคาสามารถระเบิดพลังทะลุแนวต้าน $3,345 ขึ้นไปได้ เป้าหมายต่อไปคือการกลับไปทดสอบไฮเดิมที่ $3,372
แต่ในทางกลับกัน หากราคาหมดแรงและโดนทุบหลุดแนวรับสำคัญที่ $3,310 ลงไปอีกครั้ง แนวรับถัดไปที่ $3,295 จะเป็นสถานีต่อไปทันที ตอนนี้คือช่วงเวลาแห่งการสะสมพลัง การต่อสู้ในกรอบนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางรอบใหม่ได้อย่างชัดเจนที่สุด
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,325
$3,310
$3,293
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,345
$3,372
$3,400
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน