วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 6 พ.ค. 2568

ราคาทองคำวันนี้
กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้
*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣
*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰
*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁
บทความที่คุณอาจจะสนใจด้วย >> |
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้
วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเล่นใหญ่ จัดหนักพุ่งพรวดไปกว่า 2% โดยตอนนี้ราคาทองคำ (XAU/USD) ซื้อขายอยู่ราวๆ $3,379 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ลงไปแตะจุดต่ำสุดของวันที่ $3,237 เรียกว่าดีดกลับขึ้นมาแรงมาก
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ทองคำดีดตัวแรงขนาดนี้ก็มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่โดนทุบจนอ่อนค่าลงนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีข่าวดีจากฝั่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาว่ายังแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม โดยเฉพาะตัวเลขจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ในภาคบริการที่ออกมาดีเกินคาด ทำเอาบรรยากาศในตลาดดูคึกคักขึ้นมา แต่ดูเหมือนนักลงทุนจะให้น้ำหนักกับดอลลาร์ที่อ่อนค่ามากกว่า เลยเทใจมาทางทองคำกันเต็มที่
นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังแอบบอกใบ้ว่าระดับราคาสินค้าและบริการเริ่มขยับสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump ด้วย แล้วพูดถึง Trump สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแกก็ออกมาสร้างสีสันอีกแล้ว ประกาศจะเก็บภาษีหนังจากต่างประเทศแบบจุกๆ 100% พร้อมกับเปรยๆ ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed เนี่ย น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงได้แล้วนะ แต่ก็ย้ำว่ายังไม่มีแผนจะปลดประธาน Fed คนปัจจุบันอย่าง Jerome Powell ก่อนที่เขาจะหมดวาระในปี 2026 แน่นอน Trump ยังเสริมอีกว่าตอนนี้สหรัฐฯ กำลังเจรจากับหลายประเทศอยู่ รวมถึงจีน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการหาข้อตกลงทางการค้าในตอนนี้
ล้วงลึกตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จับตา Fed เขย่าตลาดพุธนี้
กลับมาที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่บอกว่าออกมาดีกันหน่อย ตัวเลขสำคัญคือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (Services PMI) จาก ISM เดือนเมษายน ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 51.6 จุด จากเดือนมีนาคมที่ 50.8 จุด ตัวเลขนี้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.6 จุดซะอีก
หลักการจำง่ายๆ คือ ถ้าตัวเลขนี้อยู่เหนือ 50 จุด แปลว่าภาคบริการของสหรัฐฯ ยังมีการขยายตัวอยู่นั่นเอง ซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ แต่พอเจาะลึกลงไปในรายละเอียด มันก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องที่น่ากังวลปนๆ กันไป และที่น่าจับตามองสุดๆ คือ ดัชนีราคา (Prices Index) ที่สะท้อนเงินเฟ้อในภาคบริการ พุ่งพรวด ขึ้นไปแตะ 65.1 จุด จากเดิม 60.9 จุดในเดือนมีนาคม อันนี้ชัดเลยว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ของแพงขึ้นจริงจัง
Steve Miller ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจภาคบริการของ ISM ให้ความเห็นว่า ภาพรวมภาคบริการยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 55 จาก 58 เดือนหลังสุด แต่การเปลี่ยนแปลงของดัชนีย่อยในเดือนเมษายนเป็นการกลับทิศทางจากเดือนมีนาคม มีเพียงกิจกรรมทางธุรกิจที่ลดลง ส่วนเรื่องภาษีที่ Trump พูดถึง ผู้ประกอบการก็เริ่มแสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อราคาจริงๆ จังๆ มากขึ้นแล้ว
ทีนี้ความสนใจของตลาดก็พุ่งเป้าไปที่การประชุมของ Fed ในวันพุธนี้แบบใจจดใจจ่อเลย ส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่า Fed น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม แต่สิ่งที่ทุกคนรอฟังหูผึ่งคือ ถ้อยแถลงของประธาน Jerome Powell หลังการประชุมว่าจะมีสัญญาณอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่ ส่วนการปรับปรุงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจชุดใหม่ คงต้องรอถึงการประชุมในเดือนมิถุนายนนู่นเลย
หุ้นเหมืองทองคำ ของดีซ่อนรูป ที่นักลงทุนอาจมองข้าม
ในขณะที่ราคาทองคำร้อนแรงทะลุ $3,300 แบบนี้ มีมุมมองที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญว่าอาจจะมี “ของดี” อีกอย่างที่นักลงทุนยังมองข้ามไป นั่นก็คือ หุ้นของบริษัทเหมืองทองคำนั่นเอง
Chris Mancini ผู้ช่วยผู้จัดการพอร์ตลงทุนของกองทุน Gabelli Gold Fund (GOLDX) ออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่า ณ จุดนี้ ถ้าราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ต่อเนื่อง หุ้นเหมืองทองคำนี่แหละคือ “The Place to Be” หรือเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจสุดๆ ไปเลย
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? Mancini อธิบายว่า ปัจจุบันหุ้นกลุ่มนี้ยังมีราคาค่อนข้างถูกมาก (undervalued) เมื่อเทียบกับศักยภาพในการทำกำไร บริษัทเหล่านี้กำลังสร้างกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ได้อย่างมหาศาล มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น และที่สำคัญ หลายบริษัทกำลังใช้เงินสดซื้อหุ้นของตัวเองคืนในตลาดเป็นจำนวนมาก เพราะผู้บริหารก็มองว่าราคาหุ้นของบริษัทตัวเองยังถูกเกินไปนั่นเอง
Mancini ยกตัวอย่าง Agnico Eagle บริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ที่สุดของแคนาดา เขาชี้ว่าถ้าราคาทองคำยืนเหนือ $3,000 ดอลลาร์ได้ บริษัทนี้น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow Yield) ได้สูงถึงราว 8% ซึ่งถือว่าน่าดึงดูดมากเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ อย่างธนาคารหรือเทคโนโลยี แถมยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย
ผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทเหมืองทองใหญ่ๆ หลายแห่งก็ออกมาดีเป็นประวัติการณ์ สะท้อนผลบวกจากราคาทองที่พุ่งสูงขึ้น Mancini ยอมรับว่าเริ่มมีเงินทุนไหลเข้ามาในกลุ่มเหมืองทองบ้างแล้ว แต่เขาก็เชื่อว่ายังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก ถ้าดูผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2025 ราคาทองคำบวกมาแล้วเกือบ 26% (แม้จะย่อตัวลงมาจากจุดสูงสุดที่ $3,500 ดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว) แต่กองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นเหมืองทองคำอย่าง VanEck Gold Miners ETF (GDX) กลับให้ผลตอบแทนสูงถึงเกือบ 41% แรงแซงราคาทองคำไปอีก
อย่างไรก็ตาม แม้จะบวกมาเยอะ แต่ GDX ก็ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้เมื่อปี 2011 อยู่ถึงกว่า 24% Mancini คาดว่าอีกไม่นานนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนจะเริ่มหันมาให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มเหมืองทองคำมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้โฟกัสไปที่ ราคาทองคำ โดยตรงเป็นหลัก เพราะเมื่อมองดูปัจจัยพื้นฐานและโอกาสทำกำไรแล้ว มันน่าสนใจจริงๆ
วิเคราะห์กราฟทองวันนี้
อัปเดตราคาทองคำกันต่อ ที่เราเฝ้าจับตาแนวต้านสำคัญ $3,366 กันแบบตาไม่กระพริบ สรุปคือเบรคทะลุขึ้นมาได้สำเร็จตามคาด! ตอนนี้กราฟ 4 ชั่วโมง ราคาทองคำยืนอยู่ที่ประมาณ $3,377 เรียกว่าผ่านด่าน $3,366 (ที่ตรงกับระดับ Fibo 127.2%) ขึ้นมาได้แล้ว ถือว่าแรงซื้อยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ดันต่อมาได้อีกสเต็ป
มาส่องอินดิเคเตอร์กันบ้าง RSI ยังคงลอยตัวเหนือ 50 บ่งบอกว่าโมเมนตัมฝั่งขึ้นยังคุมเกมอยู่ ดูดีมีทรง แต่ก็เริ่มชะลอตัวนิดๆ ไม่ได้พุ่งเหมือนตอนทะลุใหม่ๆ ส่วน Stoch RSI นี่สิ ยังคงแช่อยู่ในโซน Overbought ย้ำเตือนเหมือนเดิมว่า แม้กราฟจะดูดีมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง แต่การที่ Stoch RSI มันขึ้นไปค้างขนาดนี้ ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไร หรืออาจจะมีการพักตัวย่อลงมาให้หายใจหายคอกันบ้าง เพราะขึ้นมาหลายแท่งติดแล้ว การย่อบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
มองไปข้างหน้าในอีก 24 ชั่วโมง จุดวัดใจสำคัญมากๆ คือการยืนเหนือแนวรับใหม่ (อดีตแนวต้าน) ที่ $3,366 ให้ได้แบบแข็งแกร่งต่อเนื่อง ย้ำว่าต้องยืนให้ได้ ถ้าผ่านบททดสอบนี้ไปได้สวยๆ เป้าหมายต่อไปก็คือแนวต้านถัดไปแถวๆ $3,409 - $3,410 (ใกล้ๆ Fibo 141.4%) มีโอกาส วิ่งต่อ ไปทดสอบได้
แต่ถ้าเกิดยืนไม่ไหวจริงๆ หรือแค่ขึ้นไปแตะๆ แล้วโดนทุบกลับลงมาต่ำกว่า $3,366 อีกครั้ง แนวนี้ก็จะกลับมาเป็นแนวต้านที่แข็งแรงเหมือนเดิม และภาพอาจจะเปลี่ยนเป็นต้องถอยลงมาตั้งหลักกันใหม่แถวๆ แนว $3,330 หรืออาจจะลึกกว่านั้นที่ $3,278 (Fibo 100.0%) ที่เคยรับอยู่เมื่อวันก่อนโน้นเลยก็เป็นได้
สรุปสั้นๆ ตอนนี้เกมอยู่ที่ $3,366 เป็นจุดชี้ชะตาสำคัญในระยะสั้น ยืนได้มั่นคงก็ลุ้นไปต่อยาวๆ ที่ $3,409 แต่ถ้ายืนไม่ได้ หรือหลุดลงมาก็ระวังการย่อตัวแรงๆ อาจจะต้องถอยมาดูเชิง หาจังหวะเข้ากันใหม่ที่แนวรับถัดไป จับตาดูแนว $3,366 นี้ให้ดีๆ เลยสำคัญมาก
แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,278
$3,200
$3,136
แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง
$3,366
$3,409
$3,474
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน