CFD เป็นการลงทุนตราสารซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้สูญเสียเงินทุนได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีเลเวอเรจ คุณควรตรวจสอบตนเองว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถที่จะรับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนที่สูงนี้ได้หรือไม่
    Mitrade Insights ทุ่มเทเพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน ทันเวลา และมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ตลาดและคว้าโอกาสในการซื้อขายได้ทันท่วงที
    2021
    ผู้ให้บริการข่าวและการวิเคราะห์ที่ดีที่สุด
    FxDailyInfo
    2022
    แหล่งข้อมูลการศึกษา Forex ที่ดีที่สุดทั่วโลก
    International Business Magazine

    วิเคราะห์หุ้น Intel ยังน่าลงทุนไหมและซื้อหุ้น Intel ยังไง

    5 นาที
    อัพเดทครั้งล่าสุด 02 ต.ค. 2566 02:47 น.

    แม้กระแสจะไม่โดดเด่นเท่าหุ้นเทคโนโลยีอื่น แต่การเติบโตของเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ IoT หรือ Big Data ล้วนต้องอาศัยอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่เรียกว่า เซมิคอนดักเตอร์ หรือ ชิปเซ็ต ซึ่งแม้ในปี 2023 นี้หุ้นกลุ่มนี้จะถูกกดดันด้วยปัจจัยทั้งด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อสูง มูลค่าตามราคาตลาดของหุ้นในอุตสาหกรรมนี้ยังคงเติบโตอย่างน่าสนใจ และคราวนี้เราจะมาดูกันว่าในโอกาสแบบนี้นักลงทุนจะฉวยจังหวะลงทุนซื้อหุ้น intel ยังไงให้ได้ประโยชน์จากกระแสการเติบโตนี้กัน

    ทำความรู้จักกับหุ้น intel

    Intel (INTC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1968 โดย Gordon Moore ผู้เป็นเจ้าของ กฎของมัวร์ Robert Noyce และ Andrew Grove โดยเริ่มจากการผลิต SRAM และ DRAM ซึ่งกลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจในยุคแรก จนมาถึงปี 1971 ที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเริ่มเฟื่องฟูก็เป็นการเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของบริษัทอย่างจริงจัง


    ในปี 1983 บริษัทได้ผลิตไมโครโพรเซสเซอร์ให้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ IBM กลายเป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตชิปสำหรับคอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนานนับสิบปี และนับเป็นการครองตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเพียงเจ้าเดียวด้วยชิป Pentium


    หลังปี 2000 เป็นต้นมา ความต้องการไมโครโพรเซสเซอร์เริ่มอิ่มตัว บวกกับการเข้ามาของคู่แข่งคนสำคัญอย่าง AMD ที่มาชิงส่วนแบ่งตลาดระดับกลางถึงล่างไป ดังนั้น Craig Barrett ซีอีโอในยุคนั้นจึงปรับกลยุทธ์ไปที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แต่ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการชิงส่วนแบ่งตลาดกลับมานัก


    ถัดมาในปี 2005 Intel เริ่มจับตลาดชิปสำหรับธุรกิจ ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยเปิดฉากการร่วมมือกับ Apple สำหรับการใช้ชิป x86 สำหรับเครื่องแมคอินทอช และก้าวข้ามจากยุค Pentium มาสู่ Intel Core Processor เป็นครั้งแรก พร้อมกับตลาดโน้ตบุ๊คที่เริ่มเติบโตและมีความต้องการใช้ชิปที่สูงขึ้น


    การเปลี่ยนโฉมหน้าบริษัท Intel ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงปี 2016 ที่บริษัทส่งชิปตระกูล 6th generation Core บน Skylake แต่โมเดลนี้ก็เลิกใช้ไปและแทนที่ด้วยชิปตระกูล 7th Gen พร้อมกับโครงการที่จะสร้างชิปที่ลดขนาดลงเหลือ 10 นาโนเมตร โดยใช้ชื่อว่า Canon Lake แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถผลิตชิปที่ย่อขนาดลงเหลือง 10 นาโนเมตรได้


    จนปี 2018 Intel กลับมาพร้อมชิป 10 นาโนเมตรเป็นครั้งแรก แต่ก็มีความสามารถในการผลิตที่จำกัด โดยสามารถใช้ในโน้ตบุ๊คแค่รุ่นเดียว


    ชิป 10 นาโนเมตรที่เป็นความหวังของ Intel ได้นำมาใช้อย่างจริงจังในปี 2019 แต่ก็ยังไม่สามารถนำมาแทนที่ชิป 14 นาโนเมตรได้ทั้งหมดอยู่ดี ขณะที่คู่แข่งอย่าง AMD เริ่มฟื้นตัวจากข้อจำกัดในด้านการผลิต และการเข้ามาตีตลาด GPU ของ NVIDIA ที่ได้รับการสนับสนุนไปอีกขั้นด้วยกระแสการเติบโตของการขุดเหรียญคริปโตตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา


    ปี 2021 Pat Gelsinger ซีอีโอในตอนนั้นได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ของบริษัทให้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีมากขึ้น กับหน่วยธุรกิจอื่น ๆ ที่แยกย่อยออกไป โดยหน่วยธุรกิจนี้จะเสนอทางเลือกในการใช้เทคโนโลยี และยังร่วมมือกับบริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่อื่น ๆ เพื่อทำงานค้นคว้าวิจัยต่อไป


    ปี 2022 ยังมีผลกระทบอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คนต้องเรียนและทำงานที่บ้านเพิ่มมากขึ้น และคอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในโลกหลังการแพร่ระบาด intel ได้เปิดตัวชิพ 12th Gen Intel Core ซีรีส์ H, S, U และ P และชิปตระกูล 13th Gen แต่การเปิดตัวชิปเหล่านี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นผลประกอบการในปีนั้นนักเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจยังกดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค


    ในปีเดียวกันนี้ Intel เลือก New Albany รัฐโอไฮโอเป็นที่สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ด้วยเงินลงทุน $20 พันล้าน และคาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ในปี 2025 และยังสร้างโรงงานเพิ่มในเยอรมันด้วยเงินลงทุนกว่า 17 พันล้านยูโร และคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2027


    ปัจจุบัน Intel ยังคงเป็นผู้ผลิต ไมโครโพรเซสเซอร์ และ ชิปเซ็ต เบอร์หนึ่งของโลก และกำลังปรับกลยุทธ์ที่ลดการพึ่งพิงการผลิตอุปกรณ์สนับสนุนคอมพิวเตอร์ ไปมุ่งรุกตลาดธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Centric Business) เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และ เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ แทน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคคอนดักเตอร์ Intel ยังคงมีคู่แข่งคนสำคัญในธุรกิจคือ Samsung, TSMC, Nvidia และ AMD

    โครงสร้างธุรกิจและแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท Intel

    หุ้น Intel


    Intel ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตชิปเซ็ตเจ้าใหญ่ของโลก แต่เมื่อ Pat Gelsinger ซีอีโอคนปัจจุบันของ Intel ได้เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2021 ก็ได้ประกาศยุทธ์ศาสตร์การเปลี่ยนผ่านธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นแต่ธุรกิจเดิมอย่างการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แต่ได้ขยายไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 6 กลุ่ม คือ


    1. กลุ่มลูกค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (Client computing group)

    ประกอบด้วยชิปเซ็ตที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของลูกค้าบุคคลรองรับการใช้งานทั่วไปและเกมมิ่ง ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 50% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทในปี 2022 โดยทำรายได้ที่ $31.7 พันล้าน ลดลง 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อตลาดผู้บริโภค การศึกษา และธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 60% มาอยู่ที่ $6.3 พันล้านอันเนื่องมาจากการลดลงของรายได้จากการขายโน๊ตบุ๊คและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ต้นทุนและการสต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้น


    2. ดาต้าเซ็นเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (Data Center & AI)

    ให้บริการเสนอทางเลือกการทำงานที่เหมาะสมและผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์และหน่วยงานธุรกิจ ในปี 2022 ส่วนนี้ทำรายได้ให้กับบริษัท $19.2 พันล้าน คิดเป็นสัดส่วน 30% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท ลดลง 15% จากปีก่อนหน้าอันเนื่องมาจากความท้าทายด้านเศรษฐกิจมหภาคและอุปสงค์ที่ตึงตัว ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง 73% ที่ $2.3 พันล้านจากการเพิ่มการลงทุนในผลิตภัณฑ์ตัวใหม่


    3. Network และ Edge

    เสนอทางเลือกให้กับผู้ให้บริการคลาวด์ เครือข่าย และการประมวลผลสำหรับปัญญาประดิษฐ์ ในปี 2022 ส่วนนี้สร้างรายได้ให้กับบริษัทที่ $8.9 พันล้าน เติบโต 11% จากปีก่อนหน้า ผลักดันจากตลาดเครือข่ายคลาวด์และการสื่อสาร อัตรากำไรจากการดำเนินงานของส่วนนี้อยู่ที่ $740 ล้าน ลดลงจาก $971 ล้านของปีก่อนหน้าอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนในผลิตภัณฑ์และการสต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้น


    4. Mobileye

    เป็นผู้นำระดับโลกในการเป็นตัวเลือกผลิตภัณฑ์เช่น แพลตฟอร์มประมวลผล การรับสัญญาณด้วย Machine Learning สำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและผู้ช่วยในการขับรถ ในปี 2022 ส่วนนี้ทำรายได้คิดเป็น 3% ของรายได้รวม หรือคิดเป็น $1.9 พันล้าน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นสัดส่วนการเติบโตที่น่าติดตาม


    5. ระบบคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงและกราฟฟิก

    นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานประมวลผลอย่างเข้มข้น รวมทั้ง CPUs และ GPUs ที่มีการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมรองรับการใช้งานทั้งเกมมิ่ง การประมวลผลดาต้า การใช้งานด้านสร้างสรรค์เนื้อหา รวมถึงพัฒนาทางเลือกในการใช้บล็อกเชน รายได้ในส่วนนี้ยังคิดเป็นสัดส่วนไม่มากต่อรายได้รวมทั้งบริษัท โดยคิดเป็น 1% ที่ $837 ล้านเท่านั้น แต่มีการเติบโตที่น่าสนใจที่ 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า


    6. การให้บริการประกอบชิป

    เป็นบริการที่ Intel เสนอให้ลูกค้าสามารถสร้างชิปที่ดีที่สุดจากระบบนิเวศน์ของ Intel เพื่อสนองความต้องการของธุรกิจที่แตกต่างกันไป รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 1% ของรายได้รวมทั้งบริษัท ที่ $895 เติบโต 14% จากปีก่อนหน้า


    ในปี 2022 Intel มีรายได้รวมทั้งปีที่ $63.054 พันล้าน ลดลง 20% จากปีก่อนหน้าอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อรายได้จากกลุ่มลูกค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำรายได้เป็นสัดส่วนมากที่สุดกว่า 50% ของรายได้รวมทั้งบริษัท

    วิเคราะห์หุ้น Intel น่าลงทุนไหมปี 2566

    นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาหุ้น Intel ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 29.32% หุ้นตัวนี้จะยังน่าลงทุนหรือไม่ เราคงต้องมาดูหุ้นตัวนี้ในสองแง่มุมคือในเชิงพื้นฐานและในเชิงเทคนิคกันก่อน


    การวิเคราะห์หุ้น Intel ทางปัจจัยพื้นฐาน

    ธุรกิจหลักของ Intel คือการผลิตชิปที่มีตลาดทั่วโลกซึ่งมีแนวโน้มว่าตลาดนี้จะสามารถเติบโตได้ 80%ในอีก 7 ปีข้างหน้า ทำให้มูลค่าตลาดปัจจุบันที่ $5.50 แสนล้านสามารถขยายตัวเป็น $1 ล้านล้านในปี 2023 และคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเฉลี่ยต่อปีได้ 12.28% ไปจนถึงปี 2032 และถือเป็นตลาดใหญ่ที่คอยสนับสนุนเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง


    ในปี 2020 ความสามารถในการผลิตชิปของ Intel อยู่ในลำดับที่ 6 ของผู้ผลิตชิปทั่วโลก โดยมีกำลังการผลิต 884,000 ชิ้นต่อเดือน เทียบกับ Micron ผู้ผลิตชิปที่มีกำลังการผลิตเป็นลำดับ 3 ที่ 1,931,000 ชิ้นต่อเดือน การขยายโรงงานในโอไฮโอของ Intel ที่จะสามารถดำเนินการผลิตได้ในปี 2024 จึงเป็นปัจจัยที่น่าจับตามองสำหรับการเติบโตของบริษัทในอีกสองปีข้างหน้า และยังมีโรงงานอีกสองสามแห่งที่จะเปิดตามมา ซึ่งแม้การสร้างโรงงานใหม่จะใช้เงินลงทุนมหาศาล แต่การลงทุนนี้ยังได้เงินสนับสนุนจาก CHIPS Act 2022 ที่ส่งเงิน $52 พันล้านเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตชิปในสหรัฐอเมริการวมถึงประโยชน์ที่ได้จากรัฐบาลท้องถิ่น


    การขยายความสามารถในการผลิตนี้รองรับการตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ ๆ นอกเหนือไปจากการผลิตชิปสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท นั่นคือ การผลิตชิปเพื่อตอบโจทย์การประมวลผลในยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous vehicle) ที่สร้างกำไรเติบโต 35% ในปี 2022 และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดาต้าที่ในปี 2021 สร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นสัดส่วน 48.6% ซึ่งธุรกิจศูนย์ดาต้านี้คาดว่าจะสามารถขยายตัวและสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 6.12% ต่อปีได้ไปจนถึงปี 2028 และสำหรับ Intel ธุรกิจส่วนนี้จะเริ่มขึ้นมามีบทบาทสำคัญจากการขยายตัวของการใช้ดาต้าและ AI ในอนาคต


    สิ้นปี 2022 Intel ประกาศรายได้ทั้งปีที่ $63.054 พันล้าน คิดเป็นกำไร $8.01 พันล้าน โดยในปีนี้บริษัทมีกระแสเงินสดติดลบ $9.61 พันล้าน อันเนื่องมาจากรายจ่ายในการลงทุนที่จ่ายออกไป $26.505 พันล้านซึ่งเป็นรายจ่ายครั้งเดียวเพื่อการลงทุน ทำให้ทั้งปี intel มีผลตอบแทนต่อหุ้นคิดเป็น $1.95 ปรับลดลง 60% จากปีก่อนหน้า ซึ่งหากเศรษฐกิจสหรัฐหลีกเลี่ยงการชะลอตัวได้จุดนี้น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของผลประกอบการของ Intel ในช่วงหลายปี


    ราคา Intel ในปัจจุบันปิดที่ $34.11 ขยับขึ้นมาแล้ว 29.32% จากต้นปี แต่ยังคงปรับตัวขึ้นเพียง 21.77% เมื่อคิดย้อนหลัง 12 เดือน ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นน้อยกว่าผู้เล่นอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ Nvidia ปรับตัวขึ้นแล้ว 231%, AMD ปรับตัวขึ้นแล้ว 38.42% และ Wold MSCI เซมิคอนดักเตอร์ก็ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 65.40% ดังนั้นหากมองหาตัวเลือกที่น่าสนใจและยังไม่แพงสำหรับกลุ่มผู้ผลิตชิป Intel ก็นับเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ


    การวิเคราะห์หุ้น Intel ทางเทคนิค


    การวิเคราะห์หุ้น Intel ทางเทคนิค


    หุ้น Intel เคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดไว้สองครั้งในลักษณะ Double Tops ที่ $69.24 เมื่อเดือนมกราคม 2020 และ $69.19 เมื่อเดือนเมษายน 2021 พร้อมกับการทำสัญญาณขัดแย้งในขาลง (RSI Bearish Divergence) บนกราฟรายสัปดาห์ เมื่อราคาหลุด Neckline เดิมที่ $43.56 ราคาจึงไหลลงมาทำจุดต่ำสุดของรอบไว้ที่ $24.67 ในเดือนตุลาคม 2022 จากนั้นราคาเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ $24 - $30 พร้อมเกิดสัญญาณขัดแย้งของ RSI ในโซนขายมากเกินไปอีกครั้ง จึงมองได้ว่าขาลงที่เกิดมาต่อเนื่องจากจุดสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นนั้นได้จบลงแล้ว


    การเคลื่อนไหวในกรอบราคา $24 - $30 พร้อมการเกิด RSI Bullish Divergence เป็นการสร้างฐาน เมื่อตามมาด้วยการเบรกเอาท์กรอบราคาและเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ ทำให้มองได้ว่าราคาหุ้น Intel เริ่มเปลี่ยนกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้งโดยที่ยังมีแนวต้านที่ต้องระวังที่ $38.29, Neckline เดิมที่ $43.56 และมีแนวรับอยู่ที่ $32


    อย่างไรก็ดีเนื่องจากการปรับขึ้นของราคาจากจุดต่ำสุดมีการแรลลี่ซึ่งอาจตามมาด้วยการปรับฐาน การเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้นที่กำลังดำเนินไปจึงอาจเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเกิดการแรลลี่ของราคาอย่างจริงจังต่อไปได้

    วิธีลงทุนหุ้น Intel ที่ไทย

    ปัจจุบันการซื้อหุ้น Intel ยังไงไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับนักลงทุนไทย เพราะมีโบรกเกอร์หลายเจ้าให้บริการซื้อขายหุ้น Intel ด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตอบสนองเป้าหมายการลงทุนที่หลากหลาย เช่น


    1. เทรดหุ้น Intel ผ่าน CFD

    การเทรดหุ้น Intel ด้วย สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference – CFD) เป็นสัญญาอนุพันธ์ชนิดหนึ่งที่อ้างอิงกับราคาหุ้น Intel ทำให้แม้นักลงทุนไม่ได้มีหุ้น Intel ในมือก็สามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นตัวนี้ได้ด้วยการวางเงินหลักประกันบางส่วน และอาศัยอัตราทดช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับเงินลงทุน 


    ◆ ข้อดี

    • ใช้เงินลงทุนน้อย เงินทุนเริ่มต้นการเทรด CFD แตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ โดยอาจมีขั้นต่ำตั้งแต่ $0 ไปจนถึง $200 


    • มีการใช้อัตราทด แม้จะใช้เงินลงทุนน้อยแต่นักลงทุนก็คาดหวังผลกำไรจำนวนมากได้ด้วยอัตราทดที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับเงินทุนได้


    • ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง CFD เป็นสัญญาอนุพันธ์ที่ให้กำไรจากส่วนต่างของราคา ดังนั้นไม่ว่าทิศทางราคาหุ้นจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง หากมีส่วนต่างของราคาก็สามารถสร้างผลกำไรได้


    • เปิดบัญชีได้ง่าย ใช้เอกสารไม่มาก ดำเนินการผ่านออนไลน์ได้โดยไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถยืนยันการเปิดบัญชีและเริ่มโอนเงินเข้าพอร์ตเพื่อเทรดได้ทันที


    ข้อเสีย

    • ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้นจริง ๆ การเทรด CFD เป็นการซื้อขายตราสารจึงไม่ได้ทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิเหมือนผู้ถือหุ้น ไม่ได้ปันผลและไม่มีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น


    • มีความเสี่ยงสูง เนื่องจาก CFD มีการใช้อัตราทดช่วยขยายความสามารถในการทำกำไรของเงินทุน ในทางตรงกันข้ามก็เป็นการขยายผลขาดทุน ทำให้มีความเสี่ยงสูงและนักลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้


    • มีต้นทุนจากอัตราดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap) การถือ CFD ข้ามวันมีต้นทุนส่วนเพิ่มในระยะยาวคือดอกเบี้ยที่คิดจากจำนวน Lot ที่ถือสถานะ


    ผู้ให้บริการ

    Mitrade เป็นโบรกเกอร์ผู้ให้บริการซื้อขาย Forex และ CFD ที่มีสำนักงานใหญ่ในออสเตรเลีย ให้บริการซื้อขาย CFD ที่อ้างอิงราคาสินค้าหลากหลาย รวมทั้งหุ้น Intel: INTC ด้วยขนาดขั้นต่ำในการเทรด 1 Lot ที่เท่ากับ 1 หุ้น และให้อัตราทดกับการเทรดหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 1:10 นั่นคือสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของเงินลงทุนได้ถึง 10 เท่า และมีโอกาสได้กำไรเพิ่มขึ้น 10 เท่าด้วยเช่นกัน Mitrade ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, CIMA และ FSC ทำให้เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงอีกด้วย


    mitrade    
    เทรดหุ้นที่ยอดนิยมทั่วโลก 350+ ตัว


    🎁 รับโบนัสต้อนรับ $100 ดอลลาร์
    💰 ทดลองเทรดด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50, 000 ดอลลาร์
    การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน



    2. ลงทุนหุ้น Intel ผ่านผู้ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ

    ปัจจุบันผู้ให้บริการทางการเงินในประเทศไทยได้เสนอผลิตบริการในการซื้อขายหุ้นต่างประเทศด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยสามารถลงทุนในหุ้น และ ETF ต่างประเทศได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาท และมีขั้นตอนการซื้อขายไม่ต่างจากการซื้อหุ้นทั่วไปในตลาดหุ้นไทย


    ข้อดี

    • การซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ช่วยให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นจริง ๆ และมีสิทธิในความเป็นเจ้าของหุ้นทุกประการ มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามสัดส่วนและมีสิทธิเข้าประชุมผู้ถือหุ้น


    • มีขั้นตอนการซื้อขายไม่ยาก ไม่ต้องแลกเงิน ด้วยการเปิดใช้แอปพลิคชั่นสั่งซื้อขายหุ้นได้ไม่ต่างจากการเทรดในตลาดหุ้นไทยและส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันที


    • ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นต่ำเพียง 50 บาท


    ข้อเสีย

    • การซื้อหุ้นต่างประเทศสามารถทำกำไรได้เฉพาะทิศทางราคาหุ้นขาขึ้น


    • มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายสูง บางโบรกเกอร์อาจฟรีค่าธรรมเนียมในเงื่อนไขจำนวนครั้งที่จำกัด ซึ่งการซื้อขายนอกเหนือจากนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการ


    • มีเงื่อนไขทางภาษีทั้งในฝั่งของประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา


    • ผลกำไรที่ได้จากการซื้อขายหุ้นเป็นไปตามส่วนต่างของราคาและมูลค่าเงินลงทุนแบบตรงไปตรงมา ไม่มีการใช้อัตราทด


    ◆ ผู้ให้บริการ

    InnovestX ผู้ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศในเครือ SCBx รองรับการเทรดหุ้นในตลาดสหรัฐและฮ่องกง ตลาดสกุลเงินดิจิทัล ครอบคลุมหุ้นกว่า 10,000 บริษัททั่วโลกโดยไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ


    Dime แอปเทรดหุ้นต่างประเทศจากกลุ่มการเงินภัทร ตัวช่วยการออมและการลงทุนที่ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 50 บาท และฟรีค่าธรรมเนียม 1 ครั้งต่อเดือน

    สรุป

    คราวนี้เราได้มาดูกันแล้วว่าจะซื้อหุ้น Intel ยังไง ในบริบทการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี ชิป ถือเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกในอนาคต เช่น เทคโนโลยีไร้คนขับ ปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งการจัดการข้อมูล จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการชะลอตัวของผลประกอบการ Intel ในปีที่ผ่านมาเพื่อเตรียมขยายกำลังการผลิตในอนาคตนั้นจะเป็นวิสัยทัศน์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มาก intel ก็ถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่รอสะสมหุ้นเพื่อถือลงทุนในระยะยาว


    *** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


    การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

    บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
    บทความที่เกี่ยวข้อง
    placeholder
    วิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดในปี 2024‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    ‘อยากเล่นหุ้นต้องทํายังไง’ ‘เริ่มเล่นหุ้นแบบไม่รู้อะไรเลย ต้องทำยังไง’ คำถามแบบนี้เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการเข้าสู่โลกการลงทุน ซึ่งวันนี้เราจะมีวิธีเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่แบบละเอียดมาฝากกัน
    placeholder
    เปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 นักลงทุนมือใหม่อาจจะเกิดคำถามว่า จะเปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 ตามมาดูกันเลย
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    นักลงทุนมือใหม่อาจจะเกิดคำถามว่า จะเปิดบัญชีหุ้นที่ไหนดี? บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 โบรกเกอร์ที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2023 ตามมาดูกันเลย
    placeholder
    ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
    placeholder
    8 โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    คราวนี้เราได้รวบรวมลิสต์โบรกเกอร์ Forex แจกโบนัสฟรีสำหรับลูกค้าใหม่ 2566 มาไว้เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ Forex ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น!
    placeholder
    DCA คือ อะไร? เปิดบัญชีออมหุ้น DCA ที่ไหนดี 2024สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก
    ผู้เขียน  MitradeInsights
    สร้างรายได้ทางอ้อมด้วยการลงทุนออมสม่ำเสมอ ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ แบบ DCAหรือ Dollar-Cost- Averaging ถัวเฉลี่ยต้นทุนยังไงให้ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นการลงทุนที่ง่าย เงินลงทุนตั้งต้นไม่มาก ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เป็นอย่างมาก