Coinbase คืออะไร? แนวโน้มหุ้น COIN น่าสนใจไหม?
ผลประกอบการล่าสุดของ Coinbase
TradingKey – เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2025 Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ออกมาดีกว่าคาด และได้รับคำชื่นชมจากวอลล์สตรีตในเรื่องของรายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
จากรายงานผลประกอบการ Coinbase ทำรายได้ไตรมาส 3 รวม 1.869 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) 1.50 ดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 1.10 ดอลลาร์
แม้ว่ารายได้หลักของบริษัทจะยังมาจากธุรกรรมซื้อขายคริปโต แต่รายได้ในส่วนนี้ลดลงจาก 1.262 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 เหลือ 1.046 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน รายได้จาก Stablecoin, เครือข่าย Base และบริการประเภทสมัครสมาชิกอื่น ๆ กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัทวิเคราะห์อย่าง JPMorgan, Bernstein และ Benchmark ต่างชี้ว่าโมเดลธุรกิจของ Coinbase กำลังมีความสมดุลมากขึ้น โดย Andrew Jeffrey จาก William Blair แสดงความคิดเห็นว่า “Coinbase กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ไปสู่การเป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินครบวงจร”
Coinbase คืออะไร?
Coinbase คือ บริษัทคริปโตเคอร์เรนซีที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลกฎหมายการเงินอย่างเข้มงวด ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Brian Armstrong และ Fred Ehrsam ด้วยพันธกิจที่จะสร้างช่องทางซื้อขาย Bitcoin (BTC) ที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย และใช้งานง่าย เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงคริปโตได้สะดวก แตกต่างจากยุคแรกของวงการที่ยังเป็นโลกของนักเทคนิคและนักทดลอง
ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือแพลตฟอร์มซื้อขาย Coinbase ซึ่งเปิดตัวในปี 2013 หลังจากการล่มสลายของ Mt. Gox ในปี 2014 ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลทำให้ Coinbase ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างรวดเร็ว
ในช่วงตลาดขาขึ้นปี 2017 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการ Halving ของ Bitcoin และกระแส ICO จำนวนผู้ใช้ของ Coinbase เพิ่มจาก 4.7 ล้านคนในปี 2016 เป็นกว่า 13 ล้านคนในปี 2017 บริษัทได้ขยายบริการใหม่ เช่น Coinbase Custody, Coinbase Pro, และ Coinbase Earn พร้อมสร้างชื่อในฐานะ “โบรกเกอร์คริปโตที่ถูกกฎหมายที่สุด”
ในปี 2021 Coinbase เข้าจดทะเบียนในตลาด NASDAQ ภายใต้ชื่อย่อ COIN กลายเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่เข้าตลาดหุ้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คริปโตได้รับการยอมรับจากตลาดทุนแบบดั้งเดิม
ภายหลังการเข้าจดทะเบียน Coinbase ได้ขยายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น Coinbase Card, Coinbase Wallet, และ Advanced Trade รวมถึงผลักดันการขอใบอนุญาตในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์และยุโรป จนถึงปี 2025 บริษัทมีผู้ใช้งานที่ยืนยันตัวตนแล้วมากกว่า 108 ล้านราย ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมีใบอนุญาตในสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
โครงสร้างธุรกิจหลักของ Coinbase
Coinbase พัฒนาไปไกลกว่าการเป็น “เว็บเทรด” ทั่วไปมาก ปัจจุบันมีระบบนิเวศทางการเงินที่ครอบคลุมดังนี้
ประเภทธุรกิจ | ผลิตภัณฑ์ / บริการหลัก | กลุ่มผู้ใช้งานเป้าหมาย | คำอธิบาย |
การซื้อขายสำหรับรายย่อย | แอป Coinbase / เว็บไซต์หลัก | ผู้เริ่มต้นในวงการคริปโต, นักลงทุนรายย่อย | ช่องทางซื้อขายที่ใช้งานง่าย เป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวกในการซื้อคริปโตด้วยเงินตราทั่วไป มีชื่อเสียงด้านสภาพคล่องและความปลอดภัย |
การซื้อขายขั้นสูง | Coinbase Advanced Trade | เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ | มีเครื่องมือระดับมืออาชีพ เช่น กราฟ, คำสั่ง Limit/Stop และค่าธรรมเนียมต่ำกว่าสำหรับผู้เทรดประจำ |
ธุรกิจสถาบันและระบบนิเวศ | Coinbase Prime | สถาบันการเงิน, กองทุนเฮดจ์ฟันด์, บริษัทขนาดใหญ่ | บริการครบวงจรสำหรับสถาบัน เช่น การซื้อขาย การดูแลสินทรัพย์ (Custody) การ Stake และรายงานผลการลงทุน |
การซื้อขายสำหรับสถาบัน | Coinbase Exchange | เทรดเดอร์สถาบัน, ผู้ให้สภาพคล่อง | ระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพสูง เข้าถึงตลาดเชิงลึกและมีสภาพคล่องมาก |
ธุรกิจเกี่ยวกับร้านค้า | Coinbase Commerce | ร้านค้า, ธุรกิจต่าง ๆ | ระบบรับชำระเงินด้วยคริปโตสำหรับร้านค้าออนไลน์ ใช้งานคล้ายบัตรเครดิต |
การเงิน | Coinbase Card | ผู้บริโภคทั่วไป | บัตรเดบิต Visa สำหรับใช้จ่ายคริปโตและรับรางวัลจากการใช้งาน |
กระเป๋าเงินดิจิทัล | Coinbase Wallet | ผู้ใช้คริปโตทุกกลุ่ม | กระเป๋าเงินแบบไม่ฝากไว้กับศูนย์กลาง (Non-custodial) ผู้ใช้ถือกุญแจส่วนตัวเอง และสามารถเชื่อมต่อกับ DeFi หรือ NFT ได้ |
โครงสร้างพื้นฐาน | USDC (เหรียญ Stablecoin) | ระบบนิเวศคริปโตทั้งหมด | ร่วมพัฒนากับ Circle เป็นเหรียญดอลลาร์ดิจิทัลที่มีเสถียรภาพและเป็นมิตรต่อการกำกับดูแล |
Layer-2 | Base | นักพัฒนา, ผู้ใช้งานทั่วไป | เครือข่าย Layer-2 บน Ethereum ที่ช่วยให้ธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง พร้อมขยายระบบแอปของ Coinbase |
คลาวด์และเครื่องมือนักพัฒนา | Blockchain APIs | นักพัฒนา, ธุรกิจ | ชุดเครื่องมือและ API สำหรับเชื่อมต่อฟังก์ชันคริปโตเข้ากับระบบธุรกิจ |
การศึกษา | Coinbase Earn | ผู้เรียนรู้ | เรียนรู้เกี่ยวกับคริปโตและรับโทเคนรางวัลเมื่อทำแบบฝึกหัดสำเร็จ |
แหล่งรายได้ของ Coinbase
รายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 หมวดหลัก
- Trading Revenue – รายได้จากการซื้อขาย (มากกว่า 50%)
- Subscription & Services – รายได้จากบริการสมัครสมาชิก (~30–40%)
- Other Income – รายได้อื่น ๆ ประมาณ 75 ล้านดอลลาร์
รายได้ส่วนใหญ่ (~80%) มาจากนักลงทุนรายย่อย ขณะที่สถาบันมีสัดส่วนราว 20% โดยรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดคือ USDC Stablecoin และ Base Network
ความแตกต่างระหว่าง Coinbase และ Binance
จุดแตกต่างหลักของ Coinbase คือแนวทางที่ให้ความสำคัญกับ “การปฏิบัติตามกฎระเบียบ” เป็นอันดับแรก ตรงข้ามกับ Binance ที่เน้นขยายผลิตภัณฑ์และบริการให้หลากหลายและกว้างขวางมากกว่า
มิติเปรียบเทียบ | Coinbase | Binance |
จุดยืนทางธุรกิจ | เน้นการกำกับดูแลเป็นหลัก จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (COIN) เน้นความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ | แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ค่าธรรมเนียมต่ำ และสภาพคล่องสูง |
ปีที่ก่อตั้ง / สำนักงานใหญ่ | 2012; สหรัฐอเมริกา | 2017; มีโครงสร้างหลายบริษัททั่วโลก |
การกำกับดูแล | เข้มงวดระดับสูง มีการสื่อสารกับหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง | ใช้กลยุทธ์การกำกับดูแลเฉพาะประเทศ แต่เคยถูกตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับหลายแห่ง |
ประสบการณ์ผู้ใช้ | ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น มี Coinbase Wallet รองรับ | ฟีเจอร์ครบแต่ซับซ้อนกว่า เหมาะกับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ |
ความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ | บริการซื้อขาย Spot, Custody, Staking, USDC, และเครือข่าย Layer-2 Base | บริการ Spot, Derivatives, Options, Launchpad, ตลาด NFT และ BNB Chain |
ค่าธรรมเนียม | ค่าธรรมเนียมสำหรับนักลงทุนรายย่อยสูงกว่าเล็กน้อย แต่ค่าธรรมเนียมมืออาชีพแข่งขันได้ | ค่าธรรมเนียมโดยรวมต่ำกว่า และมีส่วนลดสำหรับผู้ถือเหรียญ BNB |
สภาพคล่องและการลิสต์เหรียญ (Liquidity & Listings) | รองรับเหรียญหลักที่ได้รับความนิยม และมีบริการสำหรับลูกค้าสถาบัน | มีเหรียญให้เลือกจำนวนมากและสภาพคล่องสูงมาก |
กลุ่มผู้ใช้งานเป้าหมาย (Target Users) | นักลงทุนรายย่อยและสถาบันที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและความโปร่งใส | ผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม ทั้งรายย่อย สถาบัน และผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Makers) |
ความน่าเชื่อถือ (Trust) | มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและมีชื่อเสียงในตลาดทุน | มีส่วนแบ่งตลาดสูงแต่เคยมีข้อถกเถียงด้านกฎหมายและการกำกับดูแล |
มุมมองต่อ Coinbase
แม้ Coinbase จะยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า Binance แต่แนวทาง “Regulation-First” ของบริษัทกำลังได้รับประโยชน์จากการยอมรับของสถาบันการเงินและ ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต
หลังจากที่ SEC อนุมัติ Spot Bitcoin และ Ethereum ETFs Coinbase กลายเป็นผู้ดูแลสินทรัพย์ (custodian) หลักของหลายผู้ออก ETF ซึ่งช่วยให้บริษัทได้ส่วนแบ่งรายได้โดยตรงจากกระแสเงินทุนไหลเข้า
หากในอนาคตมี Spot ETF สำหรับเหรียญอื่น ๆ เช่น SOL, XRP, หรือ SHIB Coinbase ก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก
การขยายสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น USDC และ Layer-2 Base ช่วยลดความเสี่ยงจากรายได้ผันผวนในช่วงตลาดคริปโตอ่อนตัว ทำให้ฐานรายได้มีเสถียรมากขึ้น
นักวิเคราะห์จาก Benchmark ระบุว่า การผสาน USDC ทำให้ Coinbase มีรายได้ที่มั่นคงขึ้น ขณะที่ Bernstein’s Gautam Chhugani มองว่า “Coinbase กำลังกลายเป็นเหมือน AWS ของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในโลกคริปโต”
แนวโนมราคาหุ้น Coin
หลังจากเข้าตลาด หุ้น COIN เคยพุ่งขึ้นแตะ 430 ดอลลาร์ ก่อนร่วงลงเหลือเพียง 30 ดอลลาร์ ในปี 2022 ลดลงกว่า 93% จากจุดสูงสุด
ราคาหุ้น Coinbase, ที่มา: TradingView.
แต่ในปี 2023 หุ้นเริ่มฟื้นตัวกลับมาทะลุ 100 ดอลลาร์ และได้แรงหนุนจากการ Halving ของ Bitcoin และนโยบายสหรัฐฯ ที่เป็นมิตรต่อคริปโตในปี 2024 ทำให้ราคาพุ่งเกิน 300 ดอลลาร์
ในเดือนกรกฎาคม 2025 COIN ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 440 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับฐานลงมาอยู่ราว 330 ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินของสหรัฐฯ
- JPMorgan: 399 ดอลลาร์ (+20%) — คาดอีเวนต์วันที่ 17 ธ.ค. จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น tokenized equities หรือ prediction markets
- Benchmark (Mark Palmer): ซื้อ, เป้าหมาย 421 ดอลลาร์ — หนุนโดยรายได้ stablecoin และการเข้าซื้อ Deribit
- Bernstein (Gautam Chhugani): มองเชิงบวกมาก, เป้าหมาย 510 ดอลลาร์ (+50%) — มองว่าผลประกอบการ Q3 ยังมีอัพไซด์ต่อเนื่อง
Key Considerations When Trading COIN Stock
- หุ้น COIN เคลื่อนไหวตามตลาดคริปโตโดยตรง นักลงทุนควรเข้าใจรอบวัฏจักรของตลาดคริปโตก่อนลงทุน
- ความเสี่ยงจากการแข่งขัน: หาก Binance กลับเข้ามาทำตลาดในสหรัฐฯ อาจกระทบส่วนแบ่งของ Coinbase ได้
- การบริหารความเสี่ยง: ควรใช้ Stop-Loss และกำหนดขนาดการลงทุนให้เหมาะสม
บทสรุป
Coinbase เป็นบริษัทคริปโตที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการกำกับดูแลมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบันบริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมซื้อขาย ไปสู่โมเดลที่หลากหลายขึ้น เช่น Stablecoin, Layer-2 และบริการสำหรับสถาบันการเงิน
ถึงแม้หุ้น COIN จะผันผวนสูง แต่แนวโน้มระยะกลางและยาวยังคงเป็นบวก หาก “การยอมรับคริปโต” ในภาคสถาบันยังเติบโตต่อเนื่อง นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการเงิน และสภาพคล่องในตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: การที่ Coinbase ทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด หมายความว่าปลอดภัย 100% หรือไม่?ตอบ: ไม่เสมอไป การปฏิบัติตามกฎหมายช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเข้าถึงนักลงทุนสถาบันได้มากขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยง เช่น ความผันผวนของตลาด, การโจมตีทางไซเบอร์, ต้นทุนกำกับดูแลที่เพิ่มขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงของกฎใหม่ ๆ
ถาม: นักลงทุนมือใหม่จะลดความเสี่ยงจากการถือหุ้น COIN ได้อย่างไร?N investment risk?ตอบ: ใช้วิธี DCA (Dollar-Cost Averaging), กำหนดขนาดพอร์ต, ตั้ง Stop-Loss, หลีกเลี่ยง Leverage สูง และติดตามข่าวสารจาก Coinbase และ ก.ล.ต.
ถาม: ติดตามข้อมูลของ Coinbase ได้จากที่ไหน?ตอบ: เว็บไซต์ Coinbase Investor Relations, รายงาน SEC, ข่าวประชาสัมพันธ์ และการประชุมสรุปผลประกอบการประจำไตรมาส
ลิงค์เดิม
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว
บทความแนะนำ
