• ข่าวสาร
    ทั้งหมด
    Forex
    สินค้าโภคภัณฑ์
    ดัชนี
    คริปโต
    การวิเคราะห์ทางเทคนิค
    สุขภาพทางเศรษฐกิจ
    ชาติ
  • การวิเคราะห์
    ทั้งหมด
  • ปฏิทินทางเศรษฐกิจ
    ปฏิทินทางเศรษฐกิจ
  • บล็อก
    ทั้งหมด
    หุ้น
    สินค้าโภคภัณฑ์
    ดัชนี
    Forex
    สกุลเงินดิจิตอล
    การศึกษา
  • การศึกษา
    คอร์สการลงทุน
  • เกี่ยวกับเรา
    ทีมผู้เชี่ยวชาญ
    นโยบายกองบรรณาธิการ

    บทความยอดนิยม

    บทวิเคราะห์ยอดนิยม

    noData

    บทความยอดนิยมในบล็อก

    Mitrade Insights ทุ่มเทเพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน ทันเวลา และมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ตลาดและคว้าโอกาสในการซื้อขายได้ทันท่วงที
    honor1
    2021
    ผู้ให้บริการข่าวและการวิเคราะห์ที่ดีที่สุด
    FxDailyInfo
    honor2
    2022
    แหล่งข้อมูลการศึกษา Forex ที่ดีที่สุดทั่วโลก
    International Business Magazine

    ดัชนีหุ้นคืออะไร?

    3 นาที
    อัพเดทครั้งล่าสุด 26 ก.ค. 2566 02:20 น.

    คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับดัชนีหุ้น NASDAQ 100, Nikkei 225 และ Dow Jones ช่วงข่าวเศรษฐกิจตอนเช้าและเย็นของวัน คุณอาจสงสัยว่า ดัชนีหุ้นคืออะไร? สำคัญอย่างไร? คุณจะหาประโยชน์จากดัชนีเหล่านี้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบกับคุณ

    ดัชนีหุ้นคืออะไร?

    ดัชนีหุ้น (Stock Index) คือ ตัวเลขที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ดัชนีอ้างอิง เช่น ดัชนี SET High Dividend 30 ที่สะท้อนราคาของ 30 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูง สภาพคล่องสูงและเงินปันผลสูง


    เกณฑ์สำคัญของดัชนีหุ้นคือ สามารถลงทุนได้และโปร่งใส มีหลายกองทุนรวมที่อ้างอิงดัชนีต่าง ๆ เช่น SET50 และ SET100 ซึ่งเรียกว่า กองทุนรวมดัชนี โดยที่ความแตกต่างระหว่างผลงานของกองทุนรวมดัชนีและดัชนีที่อ้างอิงเรียกว่า ค่า Tracking Error


    ยิ่งค่า Tracking Error ต่ำเท่าไหร่ แสดงว่า กองทุนรวมดัชนีนั้นสามารถลงทุนเลียนแบบดัชนีที่อ้างอิงได้มีประสิทธิภาพมากกว่ากองทุนรวมดัชนีที่มีค่า Tracking Error สูงกว่า

    วิธีการคำนวณดัชนีหุ้น

    เราสามารถแบ่งการคำนวณดัชนีหุ้นออกเป็น 3 รูปแบบ


    ดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด (Capitalization-weighted Index) คือ หุ้นขนาดใหญ่ที่มี Market Cap (มูลค่าตลาด) จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสูง ตัวอย่างเช่น S&P 500 (สหรัฐฯ) FTSE 100 (อังกฤษ) และ SET (ไทย)


     ☆ ตัวอย่าง ดัชนี ก มีหุ้น A ราคา 4 บาท จำนวน 100 หุ้นและหุ้น B ราคา 5 บาทจำนวน 200 หุ้น


    Market Cap คำนวณจากราคาหุ้น x จำนวนหุ้นทั้งหมด


    หุ้น A = 4*100 = 400

    หุ้น B = 5*200 = 1,000


    Market Cap ทั้งหมดของดัชนี ก เท่ากับ 400+1,000 = 1,400


    สัดส่วนของหุ้น A และ B ต่อดัชนี ก ตามมูลค่าตลาดคำนวณจาก Market Cap ของหุ้นหารด้วย Market Cap ทั้งหมดของดัชนี จากนั้นคูณด้วย 100


    หุ้น A = (400/1,400) x 100 = 28.57%

    หุ้น B = (1,000/1,400) x 100 = 71.43%


    หุ้น B มีสัดส่วนสูงกว่าหุ้น A ในดัชนี ก


    ดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยราคาตลาด (Price-weighted Index) คือ หุ้นที่มีราคาสูงจะมีสัดส่วนมากกว่าหุ้นที่มีราคาต่ำ ตัวอย่างเช่น Dow Jones (สหรัฐฯ) และ Nikkei 225 (ญี่ปุ่น)


     ☆ ตัวอย่าง ดัชนี ก มีหุ้น A ราคา 5 บาท หุ้น B ราคา 10 บาทและหุ้น C ราคา 15 บาท


    หุ้น A = [5/(5+10+15)] x 100 = 16.67%

    หุ้น B = [10/(5+10+15)] x 100 = 33.33%

    หุ้น C = [15/(5+10+15)] x 100 = 50.00%


    หุ้น C มีสัดส่วนมากที่สุดในดัชนี ก ตามด้วยหุ้น B และหุ้น A


    ดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักเท่ากัน (Equal-weighted Index) พูดง่าย ๆ คือ หุ้นทุกตัวมีจะสัดส่วนเท่ากันหมด ซึ่งกระจายความเสี่ยงดีกว่าดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด แต่ดัชนีแบบนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกะทันหันกว่า

    ดัชนียอดนิยมของไทยและต่างประเทศ

    1. ดัชนียอดนิยมของไทย

    นอกเหนือจากดัชนี SET ที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังมีดัชนี SET50 และ SET50 ที่กองทุนรวมดัชนีนิยมใช้อ้างอิง


    SET50 และ SET100 คือ ดัชนีหุ้นที่แสดงระดับและความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 50 และ 100 ตัวแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด การซื้อขายมีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยผ่านเกณฑ์ที่กำหนด


    ดัชนี SET50 และ SET100 สามารถคำนวณดังต่อไปนี้


    SET50/100 = มูลค่าตลาดรวมวันปัจจุบัน (CMV) หารด้วยมูลค่าตลาดรวมวันฐาน (BMV) คูณด้วย 1,000


    วันฐานของ SET50 คือวันที่ 16 สิงหาคม 2538

    วันฐานของ SET100 คือวันที่ 30 เมษายน 2548

    ค่าดัชนีเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 จุด


    รายชื่อของบริษัทที่อยู่ในดัชนี SET50 และ SET100 จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 6 เดือนในเดือนมิถุนายนและเดือนธันวาคมของทุกปี


    2. ดัชนียอดนิยมของต่างประเทศ

    1)S&P 500 (Standard & Poor's 500)      

                                      


    S&P 500 (Standard & Poor's 500) เป็นดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ซึ่งวัดผลการดำเนินงานของหุ้น 500 บริษัทที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา


    S&P 500 เป็นหนึ่งในดัชนีที่มีการเทรดมากที่สุดและเป็นหนึ่งตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยรวม


    ตัวอย่างของบริษัทในดัชนี S&P 500 ประกอบด้วย Apple, Microsoft, Amazon, Berkshire Hathaway, Visa เป็นต้น


    2)Dow Jones หรือ Dow Jones Industrial Index



    Dow Jones หรือ Dow Jones Industrial Index เป็นดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามราคาตลาด ซึ่งวัดผลการดำเนินงานของหุ้น 30 บริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เช่น Microsoft, Coca Cola, Apple, McDonald เป็นต้น


    ดัชนี Dow Jones จัดทำโดยบริษัท S&P Dow Jones Indices 


    3)NASDAQ 100 



    NASDAQ 100 จัดทำครั้งแรกในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2528 NASDAQ 100 (NDX) คือ ดัชนีหุ้น 100 บริษัทขนาดใหญ่ (ไม่ใช่บริษัทเงินทุน) ที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ประกอบด้วยบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็กตามราคาตลาด NASDAQ 100 เป็นที่ตั้งของ บริษัท สี่แห่งที่ทำรายได้แตะหลักล้านล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ได้แก่ Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Microsoft (MSFT) และ Alphabet (GOOG, GOOGL)


    4)Nikkei 225

     


    นิเคอิ225(Nikkei 225) คือ ดัชนีที่คำนวณรายวันซึ่งวัดผลประกอบการของ 225 บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวโดยหนังสือพิมพ์นิเคอินับตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2493 หรือเมื่อ 70 ปีที่แล้ว


    นิเคอิ225 Index ตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกสภาพตลาดหุ้นของญี่ปุ่น และยังเป็นตัวแทนของภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงปัจจุบัน


    5)FTSE 100 



    FTSE 100 เป็นดัชนีหุ้นของ 100 บริษัทที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด ด้วยหุ้นของบริษัทในดัชนี FTSE 100 เป็น 81% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ทำให้มีการใช้ดัชนีนี้เป็นตัววัดตลาดหุ้นอังกฤษ ดัชนี FTSE 100 จัดทำโดย FTSE Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตัวอย่างของบริษัทในดัชนี FTSE 100 เช่น Tesco, Unilever, Barclays เป็นต้น


    6)  DAX 30 



    DAX 30 เป็นดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของ 30 บริษัทกลุ่มบลูชิพของเยอรมันที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตซึ่งเทียบเท่ากับดัชนี Dow Jones ของสหรัฐฯ และเนื่องจากปริมาณบริษัทที่น้อย ทำให้ดัชนี DAX 30 ไม่สะท้อนภาพจริงของเศรษฐกิจเยอรมันได้ทั้งหมด ดัชนี DAX 30 เผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ตัวอย่างของบริษัทในดัชนี DAX 30 เช่น BMW, Adidas, Bayer, Deutsch Bank เป็นต้น


    👇️👇️👇️ เทรดผลิตภัณฑ์ดัชนียอดนิยมทั่วโลกผ่านโบรกเกอร์ชั้นนำผ่าน Mitrade


    mitrade

    ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริงฟรี $50,000


    dago เทรด้วยอัตราทดสูงถึง 1 : 200
    dago ฝากเงินเงินฟรีและรวดเร็ว
    dago ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
    dago โบนัสสำหรับลูค้าใหม่ $100 ดอลล่าร์
    ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446
    ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446

    *** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


    การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

    บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
    บทความที่เกี่ยวข้อง
    notDataไม่พบข้อมูล
    ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
    ราคาเสนอแบบเรียลไทม์